แอพลงเวลาเข้าออกงาน เป็นแอพที่บริษัทใช้งานเป็นประจำทุกวัน และ ตัวพนักงานก็ต้องเปิดออกมาใช้ ทั้งเวลาเข้างานและเวลาออกงาน โดยแอพประเภทนี้ถือได้ว่าเป็นแอพที่บริษัทเป็นผู้จัดหาให้กับพนักงานใช้งาน โดยเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทเป็นหลัก โดยที่พนักงานจะต้องใช้มือถือของตัวเองเพื่อบันทึกเวลาเข้าออกงานเป็นหลัก
ประโยชน์หลักที่คุณจะได้หากบริษัทคุณใช้ “แอพลงเวลาเข้าออกงาน”
หากบริษัทคุณมีโอกาสได้ใช้แอพลงเวลาเข้าออกงานจะทำให้พนักงานบันทึกเวลาเข้าออกได้สะดวกและยังผลให้ไม่ต้องไปหน้าเครื่องแสกนนิ้วที่หน้าออฟฟิศกันเป็นประจำ หรือต้องเลิกงานก่อนเวลาเพื่อต่อคิวที่หน้าเครื่อง เพราะ ทุกคนจะมีแอพสำหรับบันทึกเวลาเข้าออกงานเป็นของตัวเองและ พวกเขารู้สึกสะดวกในการใช้งานเป็นอย่างมาก ทำให้พนักงานรับรู้ได้ว่า บริษัทของคุณใส่ใจกับระบบงานที่พนักงานต้องกระทำทุกวัน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงเวลาของพนักงานได้อีกส่วนหนึ่ง แทนจะเขาจะต้องกังวลกับเรื่องที่ไม่ได้ก่อรายได้เหล่านี้แทน
นอกจากนี้บริษัทสามารถเพิ่มและขยายสาขา หรือเพิ่มจุดตำแหน่งบันทึกเวลาเข้าออกงานได้มากเท่าที่อยากจะทำก็ได้ เพราะ ระบบแอพลงเวลาเข้าออกงานส่วนใหญ่แล้ว สามารถกำหนดพิกัดได้ว่า พนักงานแต่ละคนจะสามารถบันทึกเข้าออกงานได้ ณ ตำแหน่งใดได้บ้าง หรือ อาจจะใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อระบุให้แน่นอนได้ว่า เขาจะต้องเข้ามาในพื้นที่สัญญาณไร้สายนี้เท่านั้นเพื่อที่จะทำการบันทึกเวลาเข้าออกงานได้ อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกแอพลงเวลาเข้าออกงาน จะออกแบบวิธีการบันทึกเวลาเข้าออกงานของพนักงานได้เหมือนกันหมด แล้วแต่ว่าผู้พัฒนานั้นเลือกใช้ “ข้อจำกัด” ใดให้กับพนักงานของคุณบันทึกเวลาเข้าออกงานได้ โดยมากแล้ว ฟังก์ชั่น การบันทึกนั้นจะกำหนดได้ด้วยเงื่อนไข เช่น พิกัด GPS หรือสัญญาณไร้สายประเภท beacon bluetooth เป็นต้น
ในมุมมองของบริษัทแล้วการเพิ่มสถานที่เพื่อการบันทึกเวลาเข้าออกงานให้ได้มากเท่าที่อยากจะมากได้ นั้นอาจจะหมายครอบคลุมไปถึงการเข้าไปพบ visit ลูกค้าหรือการเข้าไปที่ไซท์งานต่างๆได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่ขององค์กรนั้นเองก็ได้ ทำให้การบันทึกเวลาเข้าออกงาน หรือ เข้าออกสถานที่ทำได้ในมุมมองที่กว้างออกไปมากกว่าการบันทึกเข้าออกงานสถานที่ทำงานหลักแต่เพียงอย่างเดียว
พนักงานประเภทไหนเหมาะกับการใช้งานแอพลงเวลาเข้าออกงาน
พนักงานที่เหมาะกับแอพลงเวลาเข้าออกงานนั้นคือ พนักงานที่เข้าออกงานหลายสถานที่ เพราะ มันจะทำให้เขาเหมือนทำรายการผ่านระบบหลังบ้านได้ประจำ ว่าเขาเข้าออก ณ สถานที่ใด แม้ว่า สถานที่เหล่านั้นจะไม่ได้เป็นสถานที่ของบริษัทเองก็ตาม อย่างไรก็ดี สำหรับพนักงานทั่วไปที่เข้าออกงานสถานที่เดียว ก็ยังคิดว่าน่าจะยังคงเหมาะสมกับการเลือกใช้แอพลงเวลาเข้าออกงานประเภทนี้เช่นเดียวกัน เพราะ มันประหยัดกว่าการใช้ hardware ส่วนกลางมากอยู่ดี คุณต้องเข้าใจด้วยว่า การใช้แอพลงเวลาเข้าออกงานนั้นจะทำให้ hardware ที่จำเป็นนั้นกลายเป็น hardware ของพนักงานเองที่เขาต้องใช้และมีประจำเพื่อทำงานอยู่แล้วแทนที่จะเป็นอุปกรณ์ของบริษัทเอง
ประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับหากใช้แอพลงเวลาเข้าออกงาน
นอกจากระบบการลงเวลาเข้าออกงานแล้ว คุณจะพบได้ว่าแอพลงเวลาเข้าออกงานหลากหลายแอพเลือกที่จะนำเสนอระบบ e-leaving หรือระบบลาออนไลน์ให้คุณใช้กันได้เพิ่มเติมอีกด้วย เพราะ มันเป็นสิ่งจำเป็นระหว่างกัน หากว่าลาแล้ว ก็ไม่จะเข้าออกงาน ณ วันที่ลาได้หรือกลับทางกัน หากว่าวันที่เข้าออกงานแล้ว ก็ไม่น่าจะทำการลาในห้วงเวลาดังกล่าวได้ ซึ่งปกติแล้ว ระบบ 2 ส่วนนี้ จำหน่ายแยกกันไปสำหรับระบบการลงเวลาด้วยการแสกนลายนิ้วมือแบบเดิมๆ แบบเหล่านั้นไม่ได้ทำเรื่องการลาเข้ามาด้วย เนื่องด้วย ผู้ผลิตเครื่องแสกนนิ้วมือส่วนมากแล้ว จะเป็นผู้ผลิตโรงงานโดยจากประเทศจีน และ เขาเหล่านั้นไม่ได้มีกฏกำหนดวิธีการลาที่เหมือนกับกฏหมายไทยที่กำหนด และเงื่อนไขของกฏหมายขั้นต่ำการลาแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ทำให้ผู้พัฒนาระบบการลาออนไลน์นั้นจำเป็นต้องเป็นผู้พัฒนาในประเทศเป็นหลักเสียมากกว่า การที่คุณใช้ระบบการบันทึกเวลาเข้าออกงานของพนักงานด้วยระบบของคนไทยแล้ว จะเข้ากับระบบการลาที่เข้าพัฒนาเข้ามาร่วมกันได้เป็นอย่างใด และ นี่เป็นเหตุทำให้ พนักงานสามารถรู้วันลาของตัวเองได้สะดวกมากขึ้น เห็นสิทธิ์วันลาและชั่วโมงการลาคงเหลือของพนักงานเองได้ โดยเขาสามารถกำหนดแผนการณ์การลาของตนเองเพื่อให้เข้ากับเหตุการณ์ต่างๆของชีวิตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทำให้พนักงานทำงานได้อย่างสบายใจว่าเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลอันเป็นสิทธิ์ที่กฏหมาย และ ข้อตกลงขององค์กรกำหนดเอาไว้ให้กับเขาได้
นอกจากนี้ พนักงานเองจะรับรู้ได้ว่า แอพลงเวลาเข้าออกงานนั้นถือว่าเป็นผู้รับรู้ข้อมูลบุคคลที่สาม และ ถือได้ว่าเขาทำหน้าที่ที่เป็นกลางไม่ใช่หัวหน้างานหรือบริษัทจะปรับเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างอิสระ แบบไร้ซึ่งหลักฐานหรือ digital tracking ใดๆ แอพลงเวลาเข้าออกงานที่เป็นระบบ Cloud โดยมากแล้ว จะมีระบบ logging สำรองข้อมูลเอาไว้ เผื่อพบกรณีข้อพิพาทย์แอพเหล่านี้สามารถถูกร้องขอข้อมูลได้ตามสิทธิ์ของผู้ใช้บริการเอง ทั้งในมุมมองของนายจ้างและมุมมองของพนักงานเองก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะ แอพลงเวลาเข้าออกงานไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทั้งพนักงานเองและองค์กร ทำให้สามารถอยู่ในสถานะที่เป็นกลางในเรื่องความถูกต้องขอข้อมูลการลา การบันทึกเวลา ได้เป็นอย่างดี
วิธีการเลือกใช้แอพลงเวลาเข้าออกงานเพื่อให้เข้ากับองค์กรของคุณ
แอพลงเวลาเข้าออกงานให้คุณเลือกจากวิธีการบันทึกเวลาที่คุณอยากจะได้เป็นหลัก โดยหากแอพลงเวลาเข้าออกงานนั้นๆมีวิธีการบันทึกเวลาเข้าออกงานที่หลากหลายมากเท่าไหร่ก็แปลว่า คุณจะออกแบบระบบเพื่อกำกับให้พนักงานใช้ได้หลากหลาย หรือจำกัดได้ว่าพนักงานแบบไหน เลือกใช้บันทึกเวลาเข้าออกงานแบบใดได้บ้าง โดยแอพที่แนะนำและตอนนี้เหมือนว่า มีวิธีการในบันทึกเวลาเข้าออกงานได้มากที่สุดคือ แอพลงเวลาเข้าออกงาน TimeMint ที่เขาสามารถกำหนดให้พนักงานแต่ละกลุ่ม หรือแม้กระทั่งแต่ละคนเลยก็ว่าได้ สามารถบันทึกเวลาได้รูปแบบใดก็ได้ หรือกำหนดเฉพาะได้ว่าจะให้พนักงานบันทึกเวลาได้รูปแบบใด ณ สถานที่ใดได้บ้าง โดยมีทั้งแบบ การแสกนนิ้วมือปกติ ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ การใช้แอพบันทึกเวลาด้วยการแสกนป้ายคิวอาร์โค้ดกระดาษ (เหมือนกับพวกแอพไทยชนะหรือพวกแอพหมอชนะอะไรแบบนั้น) แอพลงเวลาเข้าออกงานด้วยบีค่อน สัญญาณไร้สาย เพื่อจำกัดเขตพนักงานว่าจะต้องพบสัญญาณเหล่านี้ถึงจะบันทึกเวลาเข้าออกงานได้ หรือแม้กระทั่งการใช้การบันทึกเวลาเข้าออกงานด้วยการแสกนใบหน้าผ่านเครื่องแสกนสามมิติเฉพาะสำหรับจับใบหน้าคนก็ได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่า การบันทึกเวลาเข้าออกงาน จะเป็นแบบใด ก็จะทำให้ข้อมูล time attendance เวลาที่บันทึกเอาไว้เป็นเวลาในระบบเหมือนกันทั้งหมด
อ่านเพิ่มเติมในบทความของทาง Timemint.co