ข้อควรระวังในการเลือกประกันสุขภาพ: ทำไมไม่ควรผูกกับประกันแบบออมเงิน?

ประกันสุขภาพ: ทำไมไม่ควรฝากไว้กับประกันแบบออมเงิน?

 

ในยุคที่การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ หลายคนมองหาหลักประกันเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยม คือ การทำประกันสุขภาพ อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อประกันสุขภาพไม่ใช่เพียงแค่การเลือกแผนประกันที่มีเบี้ยประกันถูกที่สุด แต่ควรทำความเข้าใจถึงรายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆอย่างถ่องแท้ บทความนี้นำเสนอประเด็นสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ “ทำไมจึงไม่ควรนำประกันสุขภาพไปผูกไว้กับประกันแบบออมเงิน”

ทำความรู้จักกับประเภทของประกัน

ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า ประกันภัย แบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ คือ

  1. ประกันชีวิต: เป็นสัญญาหลักที่ให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต โดยจะมอบเงินก้อนให้กับผู้รับผลประโยชน์ที่ได้ระบุไว้

  2. ประกันสุขภาพ: เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้เป็น

    • ประเภทค่ารักษาพยาบาล: เช่น ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD)

    • ประเภทค่าชดเชย: เช่น ชดเชยรายได้ระหว่างพักรักษาตัวจากโรคร้ายแรง ชดเชยกรณีนอนโรงพยาบาล หรือ ชดเชยกรณีเกิดอุบัติเหตุ

ในการทำประกันภัย ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกทำประกันชีวิตเพียงอย่างเดียว หรือ ประกันสุขภาพเพียงอย่างเดียวก็ได้ หรือ สามารถเลือกทำประกันชีวิตเป็นสัญญาหลัก แล้วเพิ่มประกันสุขภาพเข้าไปเป็นสัญญาเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน

ข้อควรระวัง: หลุมพรางของประกันสุขภาพที่ผูกกับประกันแบบออมเงิน

ประกันแบบออมเงิน เป็นรูปแบบประกันชีวิตที่ผนวกการออมเงินเข้าไปด้วย โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาคุ้มครองสั้นกว่าประกันชีวิตแบบทั่วไป หลายครั้งที่บริษัทประกันเสนอขายประกันสุขภาพควบคู่ไปกับประกันแบบออมเงิน ซึ่งอาจดูน่าสนใจในแง่ของความสะดวกสบายและเบี้ยประกันที่อาจถูกลง อย่างไรก็ตาม การเลือกทำประกันแบบนี้ มีข้อควรระวังที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบดังนี้

  • ข้อจำกัดเรื่องอายุสัญญา: ประกันแบบออมเงินมักมีอายุสัญญาสั้นกว่าประกันชีวิตแบบทั่วไป ดังนั้น ประกันสุขภาพที่ผูกอยู่กับประกันแบบออมเงินก็จะมีอายุสัญญาสั้นตามไปด้วย ส่งผลให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพอาจสิ้นสุดลงก่อนถึงช่วงเวลาที่ผู้เอาประกันภัยต้องการใช้จริง

  • ข้อจำกัดความคุ้มครอง: เนื่องจากประกันแบบออมเงินมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการออม ความคุ้มครองด้านสุขภาพที่แนบมาด้วยอาจไม่ครอบคลุมเท่ากับประกันสุขภาพที่ขายแยกต่างหาก

  • ความเสี่ยงเมื่อประกันหลักครบกำหนด: เมื่อประกันแบบออมเงินครบกำหนดสัญญา ประกันสุขภาพที่แนบอยู่ด้วยก็จะสิ้นสุดความคุ้มครองลงเช่นกัน ผู้เอาประกันภัยอาจเผชิญกับความยากลำบากในการทำประกันสุขภาพใหม่ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น และเบี้ยประกันที่แพงขึ้น

ทางเลือกสำหรับผู้ที่ถือครองประกันแบบออมเงินอยู่แล้ว

หากคุณกำลังถือครองประกันแบบออมเงินที่ผูกกับประกันสุขภาพ สิ่งสำคัญคือ อย่าเพิ่งรีบร้อนยกเลิกประกัน ควรปรึกษาตัวแทนประกันชีวิต หรือ นักวางแผนการเงิน เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแผนอย่างเหมาะสม

  • พิจารณาทำประกันสุขภาพแบบแยกต่างหากที่ให้ความคุ้มครองยาวนาน และครอบคลุมตามความต้องการ

  • รอให้ประกันสุขภาพเล่มใหม่มีผลบังคับใช้ และพ้นระยะเวลารอคอย จึงค่อยยกเลิกประกันสุขภาพเล่มเดิม

คำแนะนำในการเลือกซื้อประกันชีวิต

เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะมีหลักประกันที่มั่นคงและยั่งยืน แนะนำให้เลือกประกันชีวิตที่มีระยะเวลาคุ้มครองยาวนาน เช่น 80 ปี 85 ปี 90 ปี 95 ปี หรือ 99 ปี ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถต่ออายุสัญญาประกันสุขภาพที่แนบอยู่ได้อย่างต่อเนื่อง

การทำความเข้าใจเงื่อนไขและข้อกำหนดของกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจซื้อประกันภัยเป็นสิ่งสำคัญ การวางแผนทางการเงินที่ดี นอกจากการออมแล้ว การบริหารความเสี่ยงก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ควรพิจารณาเลือกซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของคุณมากที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *