เครื่องฟอกอากาศของ XiaoMi สำหรับปี 2018 นี้รุ่นทีมีอยู่จะยังคงเหมือนเดิม คือ รุ่น Air Purifier 2 / Air Purifier 2S / Air Purifier Pro / Air Purifier Max โดยเครื่องฟอกอากาศพวกนี้จะมีการใช้ไส้กรองเหมือนกันหมดทุกรุ่นเลย (ทำให้สะดวกมากเวลาที่จะใช้หลายรุ่นในบ้านหลังเดียวกัน ไม่ต้องทำการสต็อกสำรองไส้หลายชุด)
ทั้งนี้เหตุผลหลักในการเลือกว่าจะเอารุ่นใดมาใช้กับห้องใดนั้นคือ ขนาดของห้องเป็นหลัก เพราะ ถ้าหากว่ามอง ที่ชนาดจะมีความใหญ่ของเครื่องเพียงสามระดับเท่านั้นเอง คือ เครื่องฟอกอากาศเสี่ยวมี่สำหรับห้องขนาด 21-37 ตารางเมตร และ 35 -60 ตารางเมตร และ รุ่นเพื่อห้องชนาดใหญ่ 70 – 120 ตารางเมตร (รุ่น MAX)
โดยรุ่นที่รองรับการทำงานสำหรับห้องขนาดเล็กจะมีรุ่นประหยัดสุดก็คือ รุ่น AIR PURIFIER 2 ทีมีเหมาะกับขนาดห้อง 21 – 37 ตารางเมตรเพียง 3,990 THB.- หรือ ถ้าหากว่าหาซื้อได้จากเมืองนอกแล้ว มีกำหนดราคาจำหน่ายเพียง 100 USD เท่านั้น ! เรียกว่าเป็น รุ่นที่เน้นความประหยัดสำหรับ Fix Cost ต้นทุนสำหรับเครื่องทางตรงที่สุดเท่าที่เครื่องฟอกอากาศจะเคยมีมา ที่มีความเร็วและแรงของอัตราการดูดอากาศขนาดนี้ ที่ 310 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
ถ้าหากว่าคุณเลือกรุ่นที่มีหน้าจอ เช่น รุ่น Air Purifier 2S / Air Purifier Pro พวกนี้จะมีตัววัดคุณภาพอากาศด้วย เพื่อคุณเองอาจจะเลือก Mode Auto ได้ถ้าหากว่าคุณภาพอากาศแย่กว่าที่รับได้ โดยเครื่องจะทำงานเปิดเครื่องเองอัตโนมัติทันที ที่เครื่องอ่านได้ว่า ห้องมันฝุ่นเยอะกว่าปกติ มันจะทำงานทันทีไม่ต้องมากดให้ยุ่งยาก นอกนั้น การตั้งใช้งานประจำวัน ก็จะเป็นการเปิดปิดตามเวลาที่กำหนด แต่ว่าถ้าหากว่า เพื่อการใช้งานทั่วไป การเปิดปิดตามเวลาที่กำหนดนั้นก็ถือได้ว่าเหมาะสมกับเหตุและผลในการใช้งานเครื่องฟอกอากาศอยู่แล้ว เนื่องด้วย เราน่าจะมีการกำหนดงานให้แม่บ้านทำความสะอาดในระหว่างวันที่ เราไม่ได้อยู่ที่ห้องนอนอยู่แล้ว แล้วเราจะกลับมาใช้ห้องนอนเป็นเวลาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าหากว่าคุณเลือกตั้งเวลา เราแนะนำให้คุณเลือกกำหนดให้เครื่องเริ่มทำงานก่อนที่คุณจะกลับเข้ามาใช้ห้องนอนเช่นเวลาประมาณ 4-5 โมงเย็นเป็นต้นเพื่อให้ห้องมีความสะอาดของฝุ่นพร้อมที่จะให้คุณเข้าใช้นอนในช่วงค่ำได้นั่นเอง
คุณสามารถซื้อสินค้าตรงจากร้านค้าที่เป็น Official และได้ราคาประหยัดที่สุดได้จากที่ร้านค้า Xiaomi Official กดที่นี่เพื่อไปยังหน้า Xiaomi Air Purifier 2 สินค้าโดยตรงก็ได้
คณสามารถสั่งซื้อเครื่องเสี่ยวมี Air Purifier 2 ได้แล้วที่นี่
แล้วไส้กรองอากาศของ XiaoMi มันมีกี่รุ่นอะไรบ้างและมีความแตกต่างกันอย่างไร ?
มากล่าวถึงไส้กรองกันบ้างซึ่งแต่ละรุ่นจะมีไส้กรองที่ใส่มาด้วยคือเป็นสีฟ้าซึ่งมีคุณสมบัติด้อยกว่ารุ่นสีอื่นๆอยู่เล็กน้อยแล้วแต่ว่าคุณต้องการคุณลักษณะดังกล่าวนั้นด้วยหรือไม่ทั้งนี้ไส้กรองแต่ละสีจะมีคุณลักษณะอื่นๆที่เหมือนกันได้แก่
ส่วนนอกสุดเป็นเหมือนแผ่นกรองฝุ่นทั่วไป ที่เน้นกรองอะไรที่ใหญ่และจับได้ง่ายเหมือนกับพวกตัวกรองทั่วไปที่มีอยู่ในเครื่องปรับอากาศ แต่แน่นอนว่า มันต้องใส่เข้าไปที่ไส้กรองเหล่านี้ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวกรองที่แพงกว่านั้นเกิดความเสียหายเร็ว หรือ หมดอายุเร็วกว่าปกติ และอีกส่วนที่เหมือนกันทั้งสามรุ่นคือ ส่วนด้านในสุด คือพวกดูดกลิ่นที่เป็น Activated Carbon ซึ่งจะทำมาจากมะพร้าวเอามาทำถ่านทีมีรูพรุนสูงไส้กรองอากาศทั้งสามรุ่นจะมีส่วนนี้เหมือนกันเข่นเดียวกัน
ทีนี้มาพูดถึงส่วนที่ไม่เหมือนกัน คือ ไส้กรองส่วนกลางและเป็นส่วนเดียวที่แตกต่าง ผู้ออกแบบสินค้าเลยทำการลงสีเอาไว้เพื่อแยกแยะว่า ไส้กรองรุ่นไหนสีอะไร โดยจะแยกออกมาเป็นสามสีดังต่อไปนี้
Xiaomi Air filter : ไส้กรองอากาศเสี่ยวมี่สีฟ้า เป็นไส้กรองธรรมดา HEPA Filter ที่ทำให้จับมวลสารลอยในอากาศได้ตามที่ระบุเอาไว้ (แน่นอนว่าทุกรุ่นของไส้กรองจะทำได้แบบนี้เหมือนกันเป็นพื้นฐาน) ไส้กรองสีฟ้าถือว่าเป็นพื้นฐานของไส้กรองทั้งหมดของตระกูลไส้กรองของเสี่ยวมี่นี้แล้ว และ มันก็ทำงานได้ดีตามที่โฆษณาเอาไว้ คือ กรองฝุ่น ทำให้สารฝุ่นแขวนลอยในอากาศในห้องลดลงและทำให้อากาศบริสุทธิ์มากขึ้น ทั้งดูดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เข้าไปอมที่คาร์บอนด้านในสุดของไส้กรองได้
Xiaomi Air filter : ไส้กรองอากาศเสี่ยวมี่สีเขียว เป็นไส้กรองที่ออกแบบเพื่อทำการตลาดเป็นพิเศษ เพราะ เครมว่าสามารถดูดซับกรองสารฟอมันดีฮายได้ ซึ่งสารตัวนี้จะระเหยออกมาจากไม้อัด เฟอร์นิเจอร์ หรือสารกาวใน Wallpaper หรือแม้กระทั่งใน Wallpaper เองทั้งหมดพวกนี้จะเหมาะกับบ้านหรืออาคารที่ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ทำใหม่หรือบ้านใหม่เฟอร์นิเจอร์จะค่อยๆระเหยสารพวกนี้ออกมาไปเรื่อยๆและมันเป็นพิษต่อร่างกายอยู่เหมือนกันหากว่าคุณดมมันทุกวันและต้องอยู่กับมันทุกวันมันก็เหมือนกับคนงานก่อสร้างที่ต้องทำงานอะไรเฟอร์นิเจอร์ใหม่อะไรทำนองนั้นดังนั้นแล้วบ้านไหนเป็นบ้านใหม่หรือรู้สึกว่ายังมีกลิ่นสีกลิ่นเฟอร์ฯอยู่ก็เลือกไส้กรองรุ่นนี้ติดตั้งเข้าไปน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว
Xiaomi Air filter :ไส้กรองอากาศเสี่ยวมี่สีม่วง เป็นไส้กรองที่มีการเพิ่งสาร antibactirial เข้าไปในชั้นของ HEPA Filter นี้ด้วยเพื่อทำให้พวกสารที่มีชีวิตประเภทแบททีเรียเมื่อติดเข้าไปแล้วไม่สามารถเติบโดได้และหรือตายเมื่อสัมผัสพวกนี้จะเหมาะกับบ้านที่มีการเลี้ยงสัตว์หน้าขนต่างๆเพราะมันจะมีตัวอะไรแบบนี้ติดตามมาด้วยหรือลอยในอากาศได้ง่ายหรือบ้านมีมีคนป่วยไอจามเป็นประจำการอัพเกรดเป็นไส้ประเภทนี้จะเหมาะสมกว่าไส้กรองสีฟ้าปกติอย่างมาก
ข้อแนะนำ สำหรับการเปลี่ยนไส้กรอง คือ ไส้กรองเมื่อมีใช้งานแล้ว จะมีการแจ้งเตือนจากเครื่องเอง หรือ หากคุณอยากจะเปลี่ยน มันจะถูกเปลี่ยนด้วยความถี่ประมาณ 6 เดือนครั้งหนึ่งซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเท่าไหร่นัก หากว่าใช้งานทุกวัน เพื่อให้ได้คุณภาพาอากาศที่ดีกว่าเดิม หรือ คุณอยู่บ้านที่ที่ใกล้ถนน หรือ คุณภาพอากาศในเมืองหลวง (เหมือนในกรุงปักกิ่งกลางเมือง) พวกนั้นจะมีฝุ่นเยอะ การใช้ไส้กรองประเภทสีฟ้าก็เพียงพอและคุ้มค่าแล้วเพื่อทำให้ห้องมีคุณภาพอากาศที่คุณจะต้องสูดดมทั้งวันทั้งคืนเข้าร่างกายของคุณมันดีขึ้น
เข้าไปเลือกซื้อไส้กรองอากาศ Xiaomi ทั้งสามแบบนี้ได้แล้วที่ Lazada
นอกจากนี้ คุณยังสามารถอ่านบทความใหม่ล่าสุดของผม ที่พิมพ์เกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศและวิธีการเลือกเครื่องฟอกอากาศแบบภาพรวมได้จาก บทความประจำปี 2020 ที่ชื่อว่า วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับบ้านของคุณ และ สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อเครื่องฟอกอากาศ กดที่ลิงค์ได้ทันที
ฟันธงเลือกเครื่องฟอกอากาศให้สักรุ่นจะแนะนำรุ่นไหนดี ?
ตอนนี้ ผมแนะนำเครื่อง Xiaomi Air Purifier 3H สำหรับพื้นที่ใหญ่กว่า 30 ตารางเมตร และ รุ่นที่รองกว่านั้นลงมาหนึ่งรุ่นสำหรับคนที่อยากจะประหยัดเงินลงมาได้ได้อีกระดับหนึ่ง และพื้นที่ไม่ได้ใหญ่ไปกว่า 30 ตร.ม. คือรุ่น Xiaomi Air Purifier 2S ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นรองล่าสุด
หากคุณต้องการรู้ว่าเครื่องฟอกอากาศทั้งสองรุ่นมีอะไรแตกต่างกันกันแค่ไหน ระหว่างรุ่น 2S และ รุ่น 3H แนะนำให้อ่านบทความเล่าเรื่องเปรียบเทียบระหว่างรุ่น xiaomi Air purifier 2S และ 3H