ใช่แล้ว ! ในเดือนที่ผ่านมานี้ มันมีเว็ปที่คนไทยเข้าไปเยอะที่สุดแห่งหนึ่ง และใช้เวลากับหน้าเว็ปเฉลี่ยสิบเอ็ดนาที นั่นก็คือ pornhub แต่ทำให้เกิดการส่งข้อมูลและการตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยของ การใช้งาน internet มากขึ้นไปกว่าเดิมแก่คนทั่วไป ที่ปกติแล้วไม่ได้คิดว่าจะใช้ internet มันต้องปลอดภัยอะไรมากแค่ไหน ไปต่อ internet wifi กับห้างร้านโรงแรมก็ต่อกันเลย แบบไม่ต้องมีรหัสผ่านเป็นต้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ประมาณนี้ทีว่า ว่ามีการปิดกั้นการเข้าถึง ทำให้คนกลุ่มนี้ก็เลือกที่จะค้นหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เข้าถึงเว็ปเหล่านี้ได้ และ ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งาน internet มากขึ้นไปด้วยเป็นเงาตามตัวแบบไม่ได้ตั้งใจว่าอย่างงั้นเถอะ
วิธีการแก้เพื่อที่คุณเองจะเข้าถึงเว็ปต้องห้ามเหล่านั้นได้ ก็คือ การเอา VPN มาติดตั้งใช้งานที่เคร่ื่องหรืออุปกรณ์ที่ต่อกับ internet ใดๆของเราเองได้ โดย มันจะมีทั้งแบบฟรีและ ไม่ฟรี ให้เลือกกันเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับบทความนี้ เราแนะนำให้คุณลองใช้ของ 1.1.1.1 ดูเพราะมันฟรีนั่นเอง (คุณอาจจะแปลกใจว่าทำไมถึงมีแบบไม่ฟรีด้วยอย่างงั้นเหรอแล้วมันดีกว่าอย่างไรกันนะ)
การใช้ VPN จะเสมือนกับเป็นการนำเอาข้อมูลเข้าท่อระหว่างต้นทุนคือ เครื่องอุปกรณ์ที่ต่อ internet ของคุณทำการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางสุดๆแล้วไหลไปผ่าน WIFI network แล้วไปยังท่อ (VPN) แล้วไปเปิดอีกที ณ ปลายท่อเพื่อถอดรหัสออกมาว่า คุณกำลังจะเข้าไปที่เว็ปไหน แล้ววิ่งต่อเชื่อมโยงจากท่อของ VPN นั้น
ที่ทำการอธิบายเป็นท่อเพราะคิดแบบนี้ คือ การคิดทำให้คุณเข้าใจได้ไม่ยากว่า ข้อมูล มันจะไหลเหมือนกับน้ำนั่นเอง เส้นทางการไหลก็คือ คุณเป็นคนเลือกเอาว่า จะไหลไปทางไหนได้ ด้วยวิธีการใด เพื่อให้น้ำที่ว่านั้นไม่ได้ถูกคนดักเอาไปตรวจคุณภาพของน้ำในท่อได้
โดยปกติแล้วคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการไหลของข้อมูลหรือน้ำข้อมูลที่ว่านี้ก็จะมีคนเกี่ยวอยู่เยอะคนเลยทีเดียว ถ้าหากว่าลองสังเกตกันดีๆ อันได้แก่ internet browser ของคุณที่ใช้อยู่นั้น เป็นทางเริ่มต้นของข้อมูลเลยก็ว่าได้ ไหลผ่าน network ท้องถิ่นเช่น Free Wifi หรือ Wifi network ที่บ้านหรือที่ทำงา่น หรือที่ร้าน starbucks นั่นแหละ แล้วแต่ว่าคุณอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ผ่าน Local network ก็จะไปที่ internet service provider หรือคนเท่ห์จะเรียกย่อๆว่า ISP นั่นเอง ถ้าหากว่า คุณใช้ internet ยี่ห้ออะไรคนๆนั้นจะเห็นว่าข้อมูลที่ไหลคืออะไรได้เช่นเดียวกัน เช่น 3BB , True internet , AIS internet หรือ TOT เป็นต้น พวกนี้ คือคนให้บริการ internet ในฐานะ ISP นั่นเอง และ มันก็ไหลต่อไปยัง Server ของผู้ให้บริการเว็ปไซต์หรือบริการอื่นๆก็สุดแล้วแต่ว่าคุณเรียกเข้าไปที่ไหน
เพราะฉะนั้น ด้วยวิธีการของ VPN จะทำให้คนสองคนอันได้แก่ WIFI local network และ ISP นั้นโดนท่อครอบบังตา มองไม่เห็นอะไร เพราะ จะเห็นเป็นแค่ท่อเล็กๆในท่อของเขาอีกที และ ไม่สามารถดักดูคุณภาพน้ำในท่อเล็กๆในท่อประปาใหญ่ของเขาได้นั่นเอง
กลับมาที่เว็ปเจ้าปัญหาของคนไทย คือ พรฮับ ทีว่านี้เป็นคำสั่งที่อ้างอิงกฏหมายว่า จำเป็นต้องดำเนินการโดยเจ้ากรม Digital เองเป็นคนออกมาประกาศว่ามันจำเป็นจริงๆนะ ! และ ผู้ดำเนินการคือ ISP ! เพราะ เขาเป็นคนหรือองค์กรตามกฏหมายที่ต้องทำตามกฏหมายของไทย เพราะเป็นองค์กรไทยภายใต้กฏหมายไทย ทางรัฐออกกำหนดกฏอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้นเอง วิธีการจอง ISP คือ กรอกว่าเว็ปอะไรไม่ให้ท่อไหลออกไปได้ แน่นอนว่า Pornhub เป็นหนึ่งในนั้นอยู่ไม่ต้องสงสัย และ หากคุณไม่ได้ใช้ VPN เป็นท่อครอบป้องกันเอาไว้ ISP จะเห็นและคุณจะเข้าถึงหน้าเว็ปที่ทาง ISP ป้องกันเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไปนั่นเอง ง่ายๆ คือ ISP ต่างหากที่จะเป็นคนกำหนดให้คุณได้ว่า คุณจะเข้าเว็ปไหนได้และเว็ปไหนไม่ได้ต่างหาก ไม่ใช่ว่า คุณมี internet แล้วจะเข้าเว็ปอะไรก็ได้ นอกจากนี้ ที่เราบอกว่า มีสองคนด้วยกันที่จะป้องกันการเข้าถึงได้ หนึ่งคือ ISP และอีกคนก็คือ คนที่ควบคุม WIFI network ก็ทำหน้าที่แบบนี้ได้เช่นเดียวกัน! (คุณอาจจะเคยได้ยินว่า ออฟฟิศที่นี่ไม่ให้เข้าถึง Facebook ได้ในเวลาทำงาน และนั่นเป็นการตั้งค่าอะไรบางอย่างในระบบ เครือข่ายท้องถิ่นประจำสำนักงานนั่นเอง)
ความปลอดภัยที่เกิดขึ้นเมื่อเราใช้ VPN คือ ปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเราใช้ Free WIFI
เราจำเป็นต้องใช้ Free WIFI จากสถานที่ต่างๆ หากว่าเราอยากจะประหยัดเงินค่า Mobile internet package ที่เรามีอยู่ การเลือกใช้ฟรีวายฟายเป็นทางเลือกหนึ่งที่คุณอยากจะใช้มันแต่ความเป็นจริงแล้ว การใช้ Free wifi ตามสถานที่แปลกๆต่างๆนั้น มีโอกาสที่คุณจะโดนดักข้อมูลหรือทำให้หน้าเว็ปของคุณไหลไปที่หน้าประหลาดๆได้ โดยคนอื่นที่อยู่ใน internet wifi วงเดียวกันนั้นได้ไม่ยาก ดังนั้นแล้ว การที่เราเอาระบบการใช้ VPN มาใช้เพื่อลดโอกาสและความเสี่ยงของการโดนของอะไรแบบนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นเร่ื่องดีต่อคนทั่วไปที่จะเข้าใจและนำไปใช้กัน
ของแถมที่เราจะได้เมืื่อเราใช้ VPN และมันว้าวเอามากๆ!
นอกจากจะแก้ปัญหาการเข้าถึงหน้าเว็ปเสพสมบ่มิสมเหล่านั้นได้แล้ว ผู้ใช้งาน VPN จะได้ประโยชน์อื่นๆอีกด้วยอันได้แก่ การลดโอกาสการโดนแฮ็คต่างๆด้วยเครือข่ายท้องถิ่น WIFI network ได้เพราะมันครอบท่อกันตั้งแต่ต้นเลย และ จะทำให้การเข้าถึงหน้าเว็ปได้เร็วกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งฟังดูว้าวเอามากๆ ! ใช่แล้ว มันจะเปิดหน้าเว็ปต่างๆได้เร็วมากขึ้น (หาก VPN ไม่ได้ตั้งใจจะหน่วงอะไรคุณเอาไว้นะ)
ถ้าหากว่าคุณถามแล้วมันจะเร็วไปได้อย่างไรล่ะ เราสามารถอธิบายง่ายๆได้ โดยจำเพาะเรื่อง DNS ที่ทำหน้าที่เป็นสมุดหน้าเหลืองของโลก internet ว่าเราจะเข้าหน้าไหนอย่างไร เราก็ต้องพิมพ์ฺชื่อเว็ป และ DNS เหล่านี้หากเราค้นหาสมุดหน้าเหลืองได้ไวก็จะเข้าถึงหน้าเว็ปได้ไวขึ้นกว่าเดิมได้นั่นเอง อธิบายง่ายๆแบบนี้ และ VPN ที่ให้บริการอาจจะมีบริการเกี่ยวกับการกำหนดเส้นท่อเรื่อง DNS อะไรด้วยเช่นเดียวกัน และ นั่นทำให้ การเล่น internet ผ่านหน้าเว็ปของคุณมันเร็วขึ้นกว่าเดิมได้นั่นเอง !
บริการที่เราแนะนำให้คุณติดตั้งใช้ฟรี ซึ่งมันจะได้เรื่องทั้ง VPN และ DNS ที่ว่านี้คือ one.one.one.one ซึ่งฟังดูชื่อเว็ปอาจจะดูแปลกแต่แท้ที่จริงแล้วผู้ให้บริการและพัฒนาอยู่เบื้องหลังคือ Cloudflare ที่เรียกได้ว่า มีชื่อทางด้านการทำให้ internet มันไหลลื่นเอามากๆทั้งทางด้าน server (คนที่ต้องไปทำเกี่ยวกับหน้าเว็ปเนื้อหาต่างๆ) และ ทางด้านคนใช้งาน internet คือฝั่งผู้ใช้งานด้วย
หมายเหตุ : ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการอธิบาย เราขอบอกว่า 1.1.1.1 นั้นให้บริการที่เป็นการกระทำเสมือนกับ VPN เท่านั้น แต่มันไม่ได้ให้ประโยชน์แบบเดียวกับ VPN ไปเสียทั้งหมด เพราะ มันไม่ได้ทำให้ IP location นั้นกำหนดว่าเป็นประเทศอื่นๆได้ กำหนดว่าเราต้องการ IP ของประเทศอะไรก็ไม่ได้ทั้งนั้น แต่ที่มันทำงานเข้าถึงหน้าเว็ปที่รัฐ block เอาไว้ได้นั้น เป็นเพราะ ISP ไม่เห็นข้อมูล Domain name ที่เราเข้าไปถึง (ไม่เหมือนกับกรณีที่เราไม่ได้ติดตั้ง 1.1.1.1 โดยการเปิด WARP เอาไว้ด้วย) เพราะงั้นแล้ว หากว่าคุณต้องการไร้ตัวตนที่จะเข้าเว็ปแล้วให้เว็ปไม่รู้อะไรเลยว่าคุณมาจากประเทศไทยหรือ IP ที่เข้ามาจากพื้นที่ใด ก็ต้องเลือกเป็นการใช้งาน VPN แบบจริงๆไปเลยก็จะเหมาะสมกว่า หรือกรณีที่คุณอยากจะเข้าหน้าเนื้อหาหรือเว็ปที่กำหนดเอาไว้จำเพาะ IP จากบางประเทศที่กำหนดไว้เท่านั้น คุณก็จะต้องเลือกใช้ VPN เป็นบริการที่เอามาใช้แทน 1.1.1.1 นี้ โดยสรุป การเปิดใช้ 1.1.1.1 และ WARP จะทำให้คุณเข้าถึงหน้าเว๋็ปที่ ISP block เอาไว้เท่านั้น และ การใช้งาน internet เพื่อเข้าถึงหน้าเว็ปต่างๆไว้ขึ้นด้วยการเชื่อมต่อชื่อเว็ปที่ไม่ได้เป็นการกระทำของ ISP แต่เป็นการกระทำของ CloudFlare แทนที่ทำได้ดีกว่า เร็วกว่า และไร้รอยต่อกว่าเท่านั้นเอง