เตือนคนที่กำลังเดินทางท่องเที่ยวปีใหม่ในสภาพการระบาดโควิดสิบเก้าปลายปีนี้ 2020

การท่องเที่ยวช่วงระบาดหนัก covid 19

จากที่เราอ่านข่าวมา อาจจะได้เห็นว่าการระบาดแบบไร้เหตุผล คือการระบาดจากวัตถุของแหล่งชุมนุมคน ไม่ว่าจะเป็นที่บ่อน สถานเริงรมณ์ และ สถานที่ใดๆที่ก่อให้เกิดกิจกรรมแบบใกล้ชิดแบบไร้หน้ากากอนามัยใดๆที่ปกปิดบังใบหน้า เพราะงั้นแล้ว วันนี้อยากจะสรุปเสียหน่อยว่า หากเราต้องเดินทางเที่ยวจริงๆ เราน่าจะต้องระวังวัตถุอะไรบ้างที่เป็นส่วนของสาธารณะที่จะต้องไปเจอแน่ๆเมื่อท่องเที่ยว

ก๊อกน้ำแบบที่เราต้องสัมผัสมัน : ทุกคนรู้ว่าจะต้องล้างมือ และ คนที่มาร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวใดๆก็จะต้องไปล้างมือเพื่อความสะอาดตามนโยบายที่ป้องกันการแพร่โควิด แต่ก๊อกน้ำต่างหากที่เป็นตัวที่เมื่อเราจับไปแล้วระหว่างที่มือเราสกปรกหรือปนเปื้อน แล้วกลับมาจับเป็นวัตถุสุดท้ายด้วยมือเปล่าอีกครั้งทันที แปลว่า การล้างมือนั้นไร้ผลทันทีเมื่อเราล้างเสร็จ เลี่ยงได้ให้เลี่ยง โดยการกดเจลล้างมือแทน หรือ ล้างมือด้วยก๊อกประเภทเซนเซอร์แทนก็จะเหมาะกว่าสำหรับสถานการณ์แบบนี้

กลอนประตูโรงแรม ห้องน้ำ และร้านอาหาร : อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้ว่า ที่สถานที่กักกันนั้น แม้ว่าจะมีมาตราการเข้มข้นมากที่เรียกได้ว่ามากที่สุด กลับติดโรคโควิดระหว่างกันด้วยการ สัมผัสกลอนประตูห้องพักของผู้ป่วยโควิด กลอนประตูนั้นมีคนใช้ร่วมกันอยู่มากต่อมากเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ถึง และ มันคือมือของคนเหล่านั้นที่ไม่ได้ล้างมือได้อย่างถูกต้องและไม่เข้าใจเหมือนกับที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น คนเหล่านี้จะจับกลอนประตูร้านค้า ห้องพัก ร้านอาหาร และ กลอนประตู หรือด้ามประตูอื่นๆ รวมทั้ง ปุ่มลิฟท์อีกด้วย! พื้นผิวทั้งหมดเหล่านี้ทั้งหมด เป็นพื้นผิวสาธารณะที่ใช้ร่วมกัน และ ไร้ซึ่งการทำความสะอาด (เว้นแต่ลิฟท์ที่แต่ละสถานที่มักจะมีการทำความสะอาดแต่ที่เหลือ ไม่มีใครมาสนใจอะไรกันหรอก) 

ปุ่มลิฟท์ : คนที่ล้างมือ มักจะล้างมือโดยการประกบฝ่ามือเข้าด้วยกัน แล้วถูๆเหมือนกับเด็กอนุบาลที่โรงเรียนสอนกันตอนเล็กๆ (เดี๋ยวนี้เริ่มมีการสอนวิธีการล้างที่ถูกต้องมากกว่าแต่ก่อนแล้ว) แต่ผู้ใหญ่นั่นแหละ ที่ได้รับการสอนว่าการล้างมือคือการแค่ประกบมือกันแล้วถูนั้น จะหลงเหลือโควิดติดนิ้วที่ปลายนิ้วจากการแคะแกะเกาทั้งแงะขี้มูก แงะน้ำหู และ แคะขี้ฟัน ระหว่างที่ทานอาหาร การล้างมือแบบผิดวิธีการจะไม่ได้ช่วยอะไรในเรื่องดังกล่าว และ ปลายนิ้วเหล่านั้นจะมาจิ้มปุ่มลิฟท์ให้คุณได้กดเพื่อรับเชื้อต่อไปโดยง่าย เพราะ สังเกตหรือเปล่า กิจกรรมการแงะแกะเกานั้นสัมผัสสารตคัดหลั่งโดยตรงเลยแหละ ใส่หน้ากากอนามัยก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยแบบนี้ ดังนั้น เราแนะนำว่า การกดปุ่มลิฟท์ถือได้ว่าเป็นเรื่องอันตรายต่อการรับเชื้อจากคนที่เป็นโควิด(ที่คิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นเพราะไม่มีอาการกว่าสิบกว่าวัน) เลี่ยงได้ให้เลี่ยง เดินบันไดเลื่อนได้ให้เดิน ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่าเช่นเดียวกัน

หากจำเป็นต้องจับต้องวัตถุพื้นผิวต้องสงสัยที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อการระบาดเหล่านี้ เราจะทำอะไรกันต่อดี ? แน่นอนว่า คำตอบมันก็คือ ล้างมือซะ! แต่แค่เรื่องล้างมือนั้นกลับมีประเด็นที่คนทำกันไม่ถูกต้องหลากหลายประเด็นด้วยกันต่อไปนี้

ล้างมือน้ำเปล่าไร้ซึ่งสบู่ : ลูกๆของคุณอยู่ในความเสี่ยงเพราะพวกเค้าเลือกที่จะขี้เกียจล้างด้วยโฟมล้างมือหรือสบู่ล้างมือ การที่คุณล้างน้ำเปล่านั่นก็แปลว่า มันไม่ได้ล้างโควิดออกจากมือเลยแม้แต่น้อย ใช้แหละ มันอาจจะเจือจางลงไปได้บ้าง แต่มันไม่ได้ทั้งหมด การที่มีสารประเภทสบู่จะทำลายไวรัสได้เป็นอย่างดี เรียกว่าตายแบบฉับพลันก็ยังไง เพราะงั้น ล้างมือทุกครั้งต้องมีสารฟอกสบู่ทุกครั้งด้วยเช่นเดียวกันเสมอแบบไร้เงื่อนไข

ล้างสบู่แล้วแต่ล้างไม่ทั่วทั้งพื้นที่มือ : จริงๆหากคุณเลือกที่จะล้างสบู่แล้ว มันมีท่าทางสำหรับการล้างแบบที่จกเล็บ จกนิ้ว ถูซอกมือระหว่างกัน เป็นต้น พวกนี้เป็นท่าที่ทำให้การล้างมือปกติ กลายเป็นสภาพการล้างมือแบบ big cleaning เราแนะนำให้คุณหา VDO หรือเปิดวีดีโอการล้างมือแบบ big cleaning ทีว่านี้ใช้เป็นประจำสำหรับการฟอกสบู่ทุกครั้ง มันไร้ประโยชน์หรอกหากคุณเลือกที่จะถูแค่ฝ่ามือ เพราะคุณจะเอานิ้วก้อยปลายนิ้วจิ้มเข้าจมูกเพื่อแงะขี้มูก หรือเอาปลายนิ้วชี้ส่วนที่เป็นขบเล็บมาแงะขี้ฟัน พื้นที่พวกนี้ มันจะไม่ได้ถูกล้างออกเลยแม้แต่น้อยหากเป็นการล้างมือประเภทประกบฝ่ามือเข้าหากันแล้วถู แม้ว่าจะนานกว่าเพลงชาติไทยก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพิ่มเติม ดังนั้นแล้ว อย่าคิดว่าแค่ฟอกสบู่แล้วจบ ต้องคิดว่ามันต้องฟอกสบู่ด้วยท่าทางที่ถูกต้องด้วยต่างหากล่ะถึงจะได้ประโยชน์จากการล้างมือแบบนี้

ถ้าหากว่าคุณได้อ่านบทความนี้ก่อนที่จะต้องเดินทางท่องเที่ยว เราแนะนำให้คุณหยุดเดินทางได้หากหยุดได้ หรือไม่จำเป็นต้องเดินทางขนาดนั้น เพราะ สถานการณ์ดูเหมือนว่าจะรุนแรงมาก และ การแพร่ระบาดนั้นจะเกิดกับใครก็ตามที่เผลอกับเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ และ นี่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยที่ถือว่าเป็นเร่ื่องที่ต้องรู้กันอยู่แล้ว หวังว่าทุกคนจะปลอดภัยและผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ด้วยกัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *