โควิดสิบเก้าทำให้โลกแบบสุดโต่งได้เกิดขึ้นแล้ว
ผมเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า โอกาสการเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้หรือถ้าหากว่ามันจะเกิดขึ้น มันก็น่าจะมีโอกาสได้น้อยเอามากๆ แต่รับรู้อยู่ในใจว่ามันมีเล็กน้อย แต่เมื่อมันเกิดก็จะให้ผลลัพธ์ที่รุนแรง เรียกได้ว่าเป็นแบบหน้ามือเป็นหลังเท้ากันเลยก็ว่าได้ ซึ่งเหตุการณ์การเกิดโรคระบาดในมนุษย์นี้ก็ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์อย่างหนึ่งที่มันได้เกิดขึ้นแล้ว และ มันส่งผลกระทบรุนแรงทั้งต่อสังคมและเศรษฐกิจอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อนเรียกได้ว่า ทุกคนก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องนี้มันหนักเอามากๆจริงๆ ทำไมกลับมามองคิดว่า .. เรื่องที่ไม่ได้เคยเกิดขึ้นอยู่ในพิสัยที่จะเกิดขึ้นได้แต่ส่งผลกระทบรุนแรงนั้น น่าจะยังมีอีกมาก และ มันก็จะมีเรื่องที่มีโอกาสเกิดได้น้อยเอามากๆ แต่เมื่อมันเกิดแล้ว มันก็คือเกิดขึ้นอย่างแน่นอน (เรื่องที่ผ่านมาแล้วนั้นย่อมทำให้ความน่าจะเป็นคือเท่ากับ 1 โดยไม่ต้องสงสัย) เหตุการณ์ที่เรามักจะได้ยินกับบ่อยๆว่ามันได้เกิดขึ้นหรือมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำเช่น การระเบิดของดวงอาทิตย์ที่ส่งผลทำให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารุนแรงกระทบมายังโลกของเรา การเกิดโรคระบาดในสัตว์มนุษย์ (เกิดขึ้นแล้วเช่นในยุคใหม่นี้ก็ตัวโควิดสิบเก้า) แต่เป็นแบบที่เราเรียกว่า Superbugs ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆและไม่สามารถหาทางป้องกันได้ในระยะยาว ลองจินตนาการว่าเป็นโควิดที่เปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ และอยู่เป็นอมตะ ไม่มียาอะไรรักษาหรือป้องกันได้อีกต่อไป การเกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงด้วยเหตุผลของการระบาดของโรคพืชหรือสัตว์ทางเศรษฐกิจที่เป็นอาหาร หรือ สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการปลูกพืช น้ำท่วมจากสภาพระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นทำให้ที่ดินให้อยู่อาศัยลดลงอย่างมากและรวดเร็ว สภาวการณ์มุ่งชนของอุกกาบาดจากนอกโลกที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าชั้นบรรยากาศจะเผาผลาญมันได้หมด และ เหลือมวลมากพอที่จะทำให้กระแทกกับพื้นโลก ยังก่อให้เกิดหมอกควันหนาเหมือนกับตอนยุคสูญพันธ์ของไดโนเสาร์…