แนะนำบริการ Skype To Go Numbers สำหรับคนเรียนต่อเมืองนอก

ผมใช้ Skype มาตั้งนานแต่ว่าไม่ได้สังเกตว่า ความเป็นจริงแล้ว Skype เองจะมีบริการประหลาดๆที่คนไทยส่วนมากจะไม่รู้กันสักเท่าไหร่ แม้กระทั่งตัวผมเองก็เพิ่งจะรู้ไม่นานนักว่ามันมีบริการอะไรแบบนี้ด้วย นั่นก็คือการใช้งาน Skype To Go Numbers ที่จะทำให้คนที่อยู่ต่างประเทศ ใช้โทรศัพท์ธรรมดา(ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าๆที่ไม่ได้ต่ออินเตอร์เน็ต หรือ โทรศัพท์บ้านในต่างประเทศ) โทรไปยังเบอร์ของพื้นที่นั้นๆ แต่ว่า Skype จะทำหน้าที่ต่อสายต่อไปยัเบอร์ปลายทางเมืองไทยกลับมาได้ แบบไม่ต้องมีการใช้งาน internet ใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็จะเหมือนกับการโทรศัพท์แบบเก่าๆที่ใช้โทรหากันนั่นเอง การใช้งานแบบนี้จะเหมาะกับผู้ใหญ่หรือคนที่ไม่ได้อยากจะยุ่งยากกับการต่อ internet มากนัก แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มออกมาเป็นสองส่วนมากกว่าการโทรแบบผ่าน internet จากต้นสายครับ บริการนี้จะเหมาะมากสำหรับคนที่จะไปอยู่ต่างประเทศเป็นระยะเวลานาน และจะต้องมีการโทรกลับมาเมืองไทยติดต่อคนหลายคนอยู่เป็นประจำ ตัวอย่างคนที่เหมาะสมกับการใช้งานลักษณะนี้ก็คือ 1. คนที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ 2. คนที่ไปฝึกงานยังต่างประเทศ 3. คนที่ไปทำงานต่างประเทศ  …

TIPS การเตรียมตัวก่อนไปต่างประเทศเพื่อการสื่อสารที่มีประหยัดเงินฉบับ RackTIPS การเตรียมตัวก่อนไปต่างประเทศเพื่อการสื่อสารที่คุ้มค่าและประหยัดเงิน

ไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาสไปเดินทางไปทำงานทำการที่ประเทศจีน ณ เมืองฮังโจ่ว และ เมืองเซี่ยงไฮ้ ครับก็เลยอยากจะเอาเรื่องที่เกี่ยวข้องแนวๆ Tech ๆ นิดหน่อยที่เกี่ยวกับการเดินทางนี้มาเล่าให้ฟังซักนิดน่ะครับ โดยเรื่องที่อยากจะเอามาเล่าให้ฟัง หรือพิมพ์เก็บเอาไว้ที่ blog นี้จะเป็นประเด็นหรือ List รายการที่จะเอาไว้เตือนตัวเองว่า ถ้าหากว่าจะไปเมืองนอก จะต้องเตรียมตัวอะไรอย่างไรบ้าง ในมุมมองของการใช้อุปกรณ์สื่อสารและ การใช้งาน computer และ internet หรือ พวก Gadget ในต่างประเทศครับผม โดยผมจะเล่าเป็นประเด็นๆไปก็แล้วกันนะครับ check ดูก่อนเลยว่าตัวแปลงหัวปลั้ก เราได้เอาไปแล้วหรือไม่? ผมเคยแล้วน่ะครับที่ว่าผมเอา computer Notebook หรือแม้กระทั่งพวกอุปกรณ์ charger เพื่อเอาไปไปชาร์ค computer หรือ mobile phone…

ผลสรุปออกมาว่า iPhone application ตัวที่ผมใช้มากที่สุด ณ ตอนนี้คือ Skype !

ผมใช้ iPhone App อะไรเยอะที่สุด ก็อาจจะไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะใช้อันนั้นเยอะสุดครับ อันนี้แล้วแต่ พฤติกรรมของแต่ละคน และ ลักษณะการทำงานของแต่ละคนเช่นเดียวกันน่ะครับ เพราะด้วยผมจะปรากฏตัวอยู่แต่ตำแหน่งที่เป็น wifi zone เท่านั้น (ส่วนใหญ่ยกเว้นตอนอยู่บนถนนซึ่งผมก็ไม่ได้โทรศัพท์ตอนขับรถมากนัก ) ก็จะทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดของผมจะโดนรังสี wifi อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนนี้ ่เอาเถอะครับ บทความนี้ไม่ได้อยากจะบอกว่า มันมีความเสี่ยง wifi ทำให้เป็นหมัน หรือว่ามันมีผลกระทบต่อสมองหรือไม่นั้น ผมไม่รู้แล้ว พวกที่เค้า research กันเค้าก็อนุญาตมันให้ใช้กันโดยทั่วไปมานานมากแล้วน่ะครับ ถ้าหากว่ามันเป็นภัย เราก็คงต้องโดนอะไรกันมามั่งแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอกันตอนนี้เท่านั้นครับ ตอนนี้ผม assume ว่า Wifi เป็นสิ่งปลอดภัยในการใช้งานแล้วกันนะครับ เพราะไม่อยากจะคุยผิดประเด็น(แต่ก็ซัดไปแล้วสามสี่ห้าบรรทัด) เอ ..…