ภาคผลิตง่ายกว่างานขายเป็นไหนๆ เมื่อรู้แบบนี้แล้วจะทำยังไงให้เกิด โอกาสขายกันล่ะ ?

  เมื่อวานนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปที่โรงงานผลิตสินค้าประเภทเครื่องสำอางแห่งหนึ่ง (ไกลจากบ้านผมประมาณ 1 ชั่วโมงเดินทางครับ) แล้วโรงงานนี้ผมเคยได้เข้าไปดูกระบวนการผลิตมาแล้วอีกต่างหาก โรงงานแห่งนี้จัดได้ว่าเป็นโรงงานที่ผลิตเครื่องสำอางให้กับ Brand (หรือใครก็ตามที่ว่าจ้าง) โดยไม่ได้ทำการตลาดสินค้านั้นให้แต่อย่างใด ศัพท์ที่ใช้เรียกโรงงานประเภทนี้ ก็จะเรียกว่า OEM ครับ ซึ่งโรงงานผู้ผลิตเยอะโรงมากในไทยก็จะเป็นโรงงานแบบนี้ครับ ไม่มีการ Design สินค้าเพื่อทำสินค้าตรงไปยังผู้บริโภคเอง แม้ว่าจะเป็นสินค้าที่ผลิตเพื่อขายยัง Consumer โดยตรงก็ตามที เมื่อตอนที่เดินโรงงาน ผมก็เห็นว่าแท้ที่จริงแล้วโรงงานที่ทำเครื่องสำอางจะใช้คนงานใน Line การผลิตค่อนข้างมาก แม้ว่าจะมีเครื่องจักรบ้าง ก็ทำได้แค่ในส่วนของการกวน ผสม ต้มให้ความร้อน ใส่เคมี เหมือนกับเป็นกระบวนการเพื่อทำให้ได้สารเคมีรวม (เครื่องสำอาง) ในรูปแบบต่างๆกัน แล้วก็เข้าสู่กระบวนการเอาสารเคมีนั้นอัดเข้าไปในหลอดหรือกล่อง อย่างไรก็ดี สุดท้ายตอนที่ทำการ packing ก็จะให้คนทำอยู่ดี เพราะ การ…

การขายของได้เพียงครั้งเดียวแบบ One-Time-Sell แค่นี้ก็พอแล้ว !

เรื่องนี้ผมว่าเป็นเรื่องที่แปลกเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และมันก็จะขัดกับความคิดพื้นฐานที่เราๆท่านๆรู้กันว่า สินค้าต้องมีคุณภาพ เพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำ เพราะ ต้นทุนของการหาลูกค้าใหม่จะสูงกว่าการหาลูกค้าเก่าเป็นอันมาก ลองคิดให้ดีๆ สินค้าก็มีตั้งเยอะแยะ ที่มีข้อจำกัดว่าเราจะซื้อหาได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องของการที่ลูกค้าจะมาซื้อซ้ำ หรือ จะทำอะไรต่อมิอะไรเพื่อให้ลูกค้ามาซื้อซ้ำนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะต้องคิดกันเลยก็ว่าได้ สิ่งที่ต้องคิดและต้องทำก็คือ ขอให้มีการซื้อขายเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ นี่น่ะหละ แนวคิดการขายของแบบ “ขอขายหนเดียวพอ” (อาการแบบขายแล้วทิ้งเหมือนกับฟันแล้วทิ้ง ตีหัวเข้าบ้านอะไรประมาณนั้นน่ะครับ) หรือ ONE-TIME-SELL CONCEPT แนวคิด OTS แบบนี้อยู่บนพื้นฐานว่า ลูกค้าหน้าใหม่หาได้ง่ายหรือลูกค้ามีอยู่ดาษดื่นเหลือเฟือ และ สินค้าไม่ค่อยจะได้มีการซื้อซ้ำ หรือซื้อซ้ำได้ก็โอกาสน้อยเอามากๆ หรือแม้กระทั่งคุณเป็นช่องทางเดียวของการขายสินค้าหรือบริการประเภทนั้นแนวแบบ monopoly ก็ได้เช่นเดียวกัน เอาล่ะครับ สินค้าแนวนี้ก็เช่นสินค้าขายเป็นสินค้าที่ระลึกตามสถานที่ท่องเที่ยว สินค้าที่หน้าร้านคุณเจอได้แค่ครั้งเดียวครับ สินค้าใดๆที่ไม่รู้แหล่งที่มาที่ไปแน่ชัด ไม่มีแบรนด์และตราสัญลักษณ์ใดๆให้จดจำทั้งนั้น และสินค้าไร้สาระที่ไม่ซื้อก็ได้ เอาราคาเข้าล่อซื้อ…