หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า “ทำไมคุณเป็นคิดลบแบบนี้?” หรือไม่ก็ “ทำไมคุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกินไป” ซึ่งทั้งสองกรณีที่ได้ยินบ่อยๆจะเป็นลักษณะของคำตำหนิจากคนอื่นที่มองการคิดผูกติดไว้กับคน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วผมอยากจะบอกว่า คนเราจะคิดลบหรือคิดบวกได้นั้นมันมีเหตุผลหลักจากประสบการณ์ หรือ สิ่งที่โดนปลูกฝังหล่อหลอมมุมมองความคิดของคนคนนั้นออกมา ถ้าหากว่าคุณไม่ได้เจอโกงมาก่อน คุณก็จะคิดว่าคนอื่นน่าจะมีไม่โกงคุณ แต่ในทางกลับกันถ้าหากว่าคุณเจอโกงมาก่อน คุณก็จะมีแนวโน้มเฝ้าระวังว่าคนอื่นจะมาโกงคุณในเรื่องเดียวกันนั้นได้ ทั้งๆที่คนสองคนที่คิดสองแบบ เจอกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วก็ตามที แต่อย่างไรก็ดี วิธีการที่ดีทีสุด สำหรับการคิดบวกและคิดลบนั้น มุมมองที่คุณเองต้องเข้าใจเสียใหม่ ซึ่งผมก็เพิ่งเข้าใจได้ไม่นานนี้ว่า เราสามารถเลือกโหมดการคิดเพื่อเห็นสถานการณ์ และ ปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งการคิดบวกและคิดลบ ให้เหมาะสมกับความต้องการ หรือ เป้าหมายของกิจกรรมนั้นได้ ผมต้องบอกแบบนี้ดีกว่า ฐานความคิดของผมจะเป็นคนคิดบวก และจะมองคนที่คิดลบ หรือ คิดระแวดระวังไปหมดว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อไร้สาระ หาเรื่องหาราวที่มีประโยชน์กว่านี้ทำไม่ได้แล้วหรือไร ถึงได้มองโลกตันไปซะทั้งหมดอย่างงั้น ซึ่งผมต้องบอกคนที่มองโลกในแง่ดีเกือบตลอดเวลาว่า การมองอย่างงั้นทั้งหมดไม่น่าจะถูกต้องเสียทีเดียว แต่ สิ่งทีน่าจะต้องปรับมุมมองในเรื่องเดียวกันระหว่างเรื่องแนวคิดลบ และ ความคิดบวก เราเป็นคนเลือกเอง…