เรื่องไหมขัดฟันทำไมต้องใช้แล้วจะใช้มันยังไง

ผมก็แปลกใจอยู่อย่างหนึ่งมาตลอดว่า ทำไมตอนที่เรียนอยู่อนุบาล คุณครูไม่ได้บอกว่า ต้องใช้ไหมขัดฟัน คุณครูจะสอนผมแค่ว่า ให้แปรงฟันก่อนนอนและตอนเช้าตื่นนอนเท่านั้น หรือว่าจะถี่กว่านั้นก็คือ แปรงฟันหลังทานอาหารทุกครั้ง (แต่ก็ยังจะแอบงงว่า แล้วถ้าหากว่าแปรงทุกครั้งหลังอาหารแล้วยังจะต้องแปรงตอนตื่นนอนหรือก่อนนอนอีกหรือเปล่านั้น) แต่ว่าสุดท้ายแล้วผมก็เลือกที่จะเชื่อแค่ว่า “การแปรงฟันที่เหมาะสมก็คือแปรงตอนตื่นนอนและการเข้านอน” แล้วก็ยึดการกระทำอย่างงั้นเรื่อยมา โดยไม่ได้มีคนบอกแม้แต่คนเดียวว่า มันมีอุปกรณ์อื่นที่จำเป็นอีกอย่างก็คือ “ไหมขัดฟัน” ผมเอาเอาเองก่อนว่า เมื่อก่อนเป็นเด็กไม่จำเป็นต้องใช้หรอก เพราะ ยังไงซะการใช้ไหมขัดฟันมันก็ยากเกินกว่าเด็กจะใช้งานกันได้ ก็เลยตัดข้อมูลนี้ออกจากหลักสูตร คุณครูก็ไม่ได้บอกไม่ได้สอนหรอกว่าต้องเอาไหมขัดฟันมาใช้ก่อนเข้านอนหรือว่าตอนตื่นนอนควบคู่ไปกันการแปรงฟัน แต่เมื่อโตแล้ว “ไหมขัดฟัน” กลับการเป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่ทุกครั้งที่ผมเข้าไปหาคุณหมอฟันก็จะกล่าวอ้างว่า ควรจะต้องใช้เพื่อให้เหงือและฟันแข็งแรง เรื่องเข้าใจผิดมาตลอดเกี่ยวกับไหมขัดฟัน ผมว่าคนส่วนมากถ้าหากว่าไม่ได้โดนหมอฟันบังคับหรือไปอ่านข้อมูลมาจากที่ไหนที่ดูแล้วน่าเชื่อถือมากเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพปากและฟัน ก็คงจะใช้แต่แปรงสีฟันและยาสีฟันไปเรื่อยๆตลอดชีวิต โดยไม่คิดที่จะใช้อุปกรณ์อื่นๆเพื่อทำให้สุขภาพปากและฟันดีกว่าเดิมขึ้นไปได้อีก แต่เมื่อได้ยินว่า เราควรจะใช้ไหมขัดฟันเพื่อเป็นการเอาเศษอาหารออกจากซอกของฟัน เป็นส่วนที่แปรงสีฟันเข้าไปทำความสะอาดได้ไม่ถึง มันก็ฟังดูเหมือนจะ make sense สำหรับใครหลายๆคน เพราะ ขนแปรงสีฟันมันไม่ได้แทรกเข้าไปได้ลึกขนาดที่ไหมขัดฟันจะทำได้ คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:ไหมขัดฟัน…

ไม่ต้องอ้าปากกว้างๆเพื่อแปรงฟันซี่ในสุด และ การใช้ไหมขัดฟัน

ปกติแล้วผมจะไปหาหมอฟันที่โรงพยาบาลฟัน ทุกครึ่งปี โดยทางรพ. จะติดต่อมาทาง mail ส่งมาเป็น Post card เพื่อเตือนผมว่า ได้เวลาเสียเงินแล้วซิ ! โดยการบอกอย่างสุภาพว่า บัดนี้ได้ถึงเวลาเข้าตรวจและขูดหินปูนเพื่อรักษาสุขภาพฟันของท่านเป็นประจำทุกครึ่งปีแล้ว ให้ติดต่อเพื่อนัดวันด้วย ซึ่งสำหรับความถี่นี้ ผมถือว่าไม่มาก แล้วก็ไม่น้อยสักเท่าไหร่สำหรับการเข้าพบหมอฟันเพื่อขูดหินปูน  เพราะ แต่ก่อนผมจำได้ว่าตั้งแต่เด็กๆว่า การเข้าไปขูดหินปูน หรือว่า update status ช่องปากนี่ มันจำได้ว่า ต้องเข้าประจำเป็นรายปี คือ ปีละครั้งไม่ใช่หรือ ? หรือว่าที่ผมเคยรู้มันไม่ถูกเท่าไหร่ เอาล่ะครับ แต่ว่าไม่เป็นไร ผมก็เดาเอาเองว่า ถ้าหากว่าไปปีละสองครั้งก็อาจจะดีกว่าก็ได้ เพราะ มันเป็นการ update สถานะของสภาพฟันได้ดีและถี่กว่าเดิมครับ ผมไปพบหมอแล้วหมอก็จะหาประเด็นเพื่อเม้นท์ว่าช่องปากของเราเป็นอย่างไร และ…

เพิ่งจะรู้จริงๆว่าแปรงฟันก็ต้องแปรงให้ถึงโคน และอะไรที่เรียกว่า "เศษอาหาร" กับวิธีการใช้ไหมขัดฟันเพื่อป้องกันปัญหากับเหงือก

วันนี้ผมได้มีโอกาสไปหาหมอฟัน ซึ่งปกติแล้วผมก็จะนัดหมอฟันทุกๆ หกเดือนเพื่อมาขูดหินปูนเป็นเรื่องปกติประจำรายครึ่งปีครับ แต่ว่าคราวนี้เหมือนกับว่า คุณหมอจะมี comment เกี่ยวกับคราบขุ๋ยขาวที่เกิดขึ้นบนฟันน่ะครับ ฟังแล้วได้ประเด็นมาอยู่สองสามอย่างก็เลยอยากจะเอามาบอกต่อให้ฟังอีกรอบครับ นั่นก็คือ "การแปรงฟันให้ถึงโคน" และ "การใช้ไหมขัดฟัน" การแปรงฟันให้ถึงโคน ต้องดูว่าไม่มีขุ๋ยขาวๆที่เป็นเศษอาหารหลงเหลืออยู่ โดยการแหวกปากดู การแปรงฟันแต่ไหนแต่ไรเราก็จะรู้แค่ว่าฟันบนแปรงลงแล้วก็ฟันล่างแปรงขึ้นหรือว่าจะรู้เยอะไปกว่านั้นอีกหน่อยก็จะเป็นบอกว่าแปรงให้ครบทุกซี่ แต่ก็ไม่ได้มีคนบอกเราจริงจังสักเท่าไหร่หรอกน่ะครับว่า การแปรงฟันนั้นจะต้องทำอย่างไรกันแน่ ? โตแล้ว เหมือนกับว่าเรื่องแบบนี้ไม่ต้องบอกกันแล้วมั้ง หลักการแล้ว การแปรงฟันก็เพื่อเป็นการเอาเศษอาหารขนาดที่ละเอียดที่สุดให้ออกจากร่องระหว่างฟันหรือที่มันปะติดไว้กับที่ฟันออกไปให้หมด ถ้าหากว่าออกหมดแล้ว เราถึงจะเรียกได้ว่า แปรงฟันแล้วสะอาดน่ะครับ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะครับ ว่าเราแปรงฟันแล้วสะอาดแล้วหรือยัง ?