เรื่องเล่าของประวัติศาสตร์ของการทำซูวีจนกระทั่งการประยุกต์การทำอาหารแบบซูวีสำหรับนักออกแบบอาหาร
การซูวีและเครื่องซูวีนั้นได้รับความนิยมมาได้ระยะหนึ่งแล้วตั้งแต่ประมาณสิบกว่าปีก่อน โดยเชฟที่เป็นเชฟดังคนหนึ่งและเชฟคนดังเหล่านี้ก็ได้ออกตำราอาหารที่เป็นสูตรสำหรับการทำอาหารด้วยเครื่องซูวีออกมา จนตำราอาหารเหล่านี้ได้รับการเผยแพร่เข้าไปสู่นักบุกเบิกการทำอาหารกองหน้าเช่นพวกเชฟโรงแรม หรือเชฟร้านอาหารต่างๆ หลังจากนั้น ด้วยเทคโนโลยีที่มีการออกแบบให้ต้นทุนต่ำลงไปทำให้เครื่องซูวีนั้นเริ่มแพร่หลายออกไปมากกว่าเชฟโรงแรมหรูหรือร้านห้าดาว เข้าสู่การใช้งานทำซูวีระดับบ้าน (Home use Sous Vide) มากขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่นั้นมา เพราะ คนที่ได้รับประโยชน์จากการทำซูวีแล้วแท้ที่จริงแล้วก็คือ คนที่ไม่ได้เป็นนักทำอาหารมืออาชีพต่างหากเนื่องจากการทำซูวีนั้น ทำได้ง่ายโดยการกำหนดอุณหภูมิเป้าหมายและตั้งระยะเวลาเพื่อให้เครื่องเตือนและหยุดทำงานเท่านั้นเอง ถือได้ว่าใช้งานได้ง่ายเอามากๆสำหรับการทำซูวีด้วยอุปกรณ์เครื่องซูวีสำหรับ Home Use แบบนี้แล้วผลลัพธ์ที่ได้คือ เราจะได่เนื้ออาหารที่ผ่านการซูวีมีความสุกเท่าที่เรากำหนดเอาไว้แน่นอนเหมือนกันทุกครั้งไป ไม่ว่าใครทำที่ไหนก็จะให้ผลเหมือนกันทั้งโลกนี้ สมัยก่อนนั้นการซูวีนั้นเกิดจากแนวคิดของเชฟชนชาติฝรั่งเศสที่คิดว่า จะทำอย่างไรเพื่อให้อาหารสุกได้ทั่วเท่ากันทั้งด้านนอกและด้านใน และ ได้มีการทดลองโดยกับกับอาหารที่แพงที่สุดอย่างหนึ่งในยุคนั้นที่ฝรั่งเศสนั่นก็คือ ตับห่าน หรือที่เรารู้จักกันดีก็คือ ฟัวกราส์นั่นเอง โดยตับห่านนั้นต้องการความร้อนที่แน่นอนระดับหนึ่งไม่มากเกินไปเพื่อที่จะรักษารสสัมผัสเอาไว้ให้ได้มากที่สุด และ แน่นอนว่าผลลัพธ์ของความพยายามนั้นในที่สุดแล้วก็คือ การปรุงอาหารให้สุกแบบใหม่ที่เราเรียกกับว่า การซูวี โดยหลักการการทำซูวีคือ จะเอาเนื้ออาหารใส่เข้าไปในถุงที่กันน้ำแล้วดูดอากาศออกจากจนหมดอาจจะด้วยเครื่องดูดอากาศ Vacuum Sealer หรือ ถ้าหากว่าไม่มีก็จะใช้การแทนที่ด้วยน้ำได้…