ข้าวหน้าเนื้อ sukiya ใน ASIATIQUE เจริญกรุง : รีวิวด้วย text ครับไม่ค่อยมีภาพให้เห็นหรอก

sukiya-review-ข้าวหน้าเนื้อ

วันนี้ได้มีโอกาสไปลองกินข้าวหน้าเนื้ออีกร้านที่ เคยเห็นมาก่อนหน้านานมากแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดั้นดนไปหาทานครับ เพราะร้านนี้ดูเหมือนว่าสาขาในไทยจะน้อยเอามากๆ แล้วก็ไม่ค่อยจะ promote สักเท่าไหร่ขนาด Facebook Fanpage ยังไม่มีเล้ยครับ

จำได้ครั้งหนึ่งที่มีการปิดถนนสีลมเพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีปัญหาอะไรสักอย่างเปิดให้เอาของไปขายได้ก็มีร้าน Sukiya เนี่ยะน่ะหละมาเปิด Booth เล็กๆ แต่ว่าเรื่องนี้มันก็นานมากๆ แล้วน่ะครับ แล้ววันนี้ก็เพิ่งมาเจอกันอีกครั้งใน location แปลกใหม่ นั้นก็คือที่ “ASIATIQUE” ครับ

Location ใหม่นี้เหมือนจะออกแบบมาเพื่อให้แทนที่ สวนลุม Night Plaza เพราะ เหมือนเป็นการยกเอาร้านค้าทั้งหมดที่เป็นแนวขายของนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมกันไว้ที่นี่ แล้วก็มองของดู มันก็จะเป็นพวกที่เอาไว้ขายต่างชาติเสียมากกว่าขายคนไทยครับ

ส่วนร้านอาหาร ณ วันที่ผมไปเดินกินตามร้านจะยังไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไหร่นัก จะมีร้านอาหาร Franschise ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นพวก KFC MK  ร้านอาหารปิ้งๆของ Oishi และร้านอาหารยำแซ่บ ที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยกับร้านอาหารอื่นๆสักเท่าไหร่ครับ เอาเป็นว่าร้านอาหารพวกนี้ คุณหากินได้ตามห้างร้านทั่วไปอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นมากเท่าไหร่นักครับ เพราะ วันนี้ผมอยากจะพูดถึงร้านที่ผมไปกินเสียมากกว่านั้นก็คือ ร้านอาหาร FastFood แนวญีปุ่นนั่นก็คือ ร้าน Gyudon ของ Sukiya

ร้านอาหารกิวด้งนี้ เป็นร้านอาหารที่ออกแบบเพื่อทานด่วนแนวญี่ปุ่นครับถ้าหากว่าคุณไปญี่ปุนมาแล้ว แล้วไม่ได้กินร้านอาหารประเภทข้าวหน้าเนื้อแสดงว่าคุณไปไม่ถึงญี่ปุ่นสักเท่าไหร่นะครับ เพราะ ร้านมันเปิดทุกหย่อมหญ้า ที่มาคนเดินผ่านกันเลยก็ว่าได้ แล้วก็เป็นร้านอาหารประเภทเดียวที่เปิด ตลอดเวลา 24 hours ครับ ทำให้ถ้าหากว่าคุณไปญี่ปุ่นแล้วไม่ได้กินแสดงว่า คุณไม่ได้กินอาหารเช้าแล้วล่ะครับ (กรณีที่คุณไปกันเองเท่านั้นน่ะครับ เพราะ ถ้าหากว่าคุณไปกับ Tour แล้วล่ะก็จะโดนบังคับให้กินอาหารของโรงแรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยไม่ได้มีโอกาสไปเดินหาของกินบ้านๆอาหารเช้าของคนญี่ปุ่นคนเมืองครับ)

กิวด้งร้าน Sukiya นี้เป็นร้านประเภทที่ไม่เหมือนกับที่ญีปุ่นมากเท่าไหร่นัก ไม่เหมือนกับร้านข้าวหน้าที่ Nihonmachi ร้านชื่อ Gyunoya ที่ผมเคย review เอาไว้ครั้งก่อนครับ ถ้าหากว่าจะให้เทียบกันระหว่างสองร้านนี้ คือ ร้าน Sukiya และ ร้าน กิวโนย่า นั้น ผมก็ต้องบอกก่อนว่ามันไม่เหมือนกันอย่างแรงครับ ทั้งๆที่มันก็แค่เป็นข้าวหน้าเนื้อเหมือนกันครับผม

ผมแยกประเด็นๆที่เล่าให้ฟังออกจากกันเป็นประเด็นต่อไปนี้ครับ

Range ราคา : สำหรับร้าน Sukiya นั้นเป็นช่วงราคาที่ต่ำลงมากว่า กิวโนย่ามากน่ะครับ  เพราะว่า ถ้าหากว่าคุณสั่งข้าวหน้าเนื้อร้านกิวโนย่านั้น ราคาก็ร้อยกว่าปลายๆแล้วล่ะครับแต่สำหรับ ข้าวหน้าเนื้อร้าน Sukiya นั้นเป็นร้านที่ราคาประมาณ 110+ บาทเท่านั้นก็อิ่มได้ด้วยขนาดกลางๆแล้วล่ะครับ

หน้า TOPPING ที่เยอะกว่าร้านข้าวหน้าเนื้อปกติ : ร้าน Sukiya ผมว่า มีให้เลือก Topping มากกว่าร้านกิวด้งร้านอื่นๆมากนัก เพราะ มีทั้งเอาหอมไม่เอาหอม เอาต้นหอมไม่เอาต้นหอม แล้วก็มีเลือกเอา cheese ใส่จะเอาหรือเปล่า แล้วก็มีการใส่ไข่ที่เรียกว่า “ไข่ออนเซ็น” ซึ่งจริงๆแล้ว มันก็เป็นแค่ไข่ลวกกึ่งสุกเท่านั้นน่ะครับ (คิดว่าไม่น่าจะทำยากสักเท่าไหร่ แต่ก็คิดค่าไข่ 20 บาทครับ ) ส่วนร้านกิวโนย่า ก็จะมีไข่เหมือนกันแต่ว่าราคาจะสูงกว่าครับ สำหรับไข่ออนเซ็น คุ้นๆว่าราคาจะอยู่ที่ 30 บาทน่ะครับ แต่ว่าไข่ดิบก็จะถูกหน่อย เข้าใจว่าน่าจะ 20 บาทราคาเท่ากับไข่ออนเซ็นของร้าน ซุกิยะเลยล่ะครับ

สำหรับเรื่องไข่แล้ว ผมจะชอบทานเป็นไข่ดิบเสียมากกว่าไข่ออนเซ็นครับ เพราะ ถ้าหากว่าดิบเนี่ยะ มันจะเหนียวข้นในข้าวได้มากกว่า ไข่ที่กึ่งสุกแบบนี้ ซึ่งร้าน Sukiya จะไม่มีให้เลือกครับ มีแต่ไข่ออนเซ็นให้เลือกทานนั้นน่ะหละครับ

Options ของขนาดข้าว : สำหรับร้าน Sukiya นั้นเป็นร้านที่มีขนาดของชามข้าวหน้าเนื้อมากที่สุด เท่าที่จะเคยเห็นมาครับ ไม่ว่าจะเป็นร้านใดๆที่ ญี่ปุ่นหรือในไทยก็แล้วแต่ เพราะ มันจะมีเลือกมากถึง 4 ระดับความอ้วนกันเลยก็ว่าได้ สำหรับ สาวๆแนะนำว่าอย่าเลือกเกินขนาดกลางน่ะครับ (ยกเว้นสาวอ้วนจริงๆน่ะครับ ที่อยากจะรับประทานอะไรให้ได้ปริมาณเหมือนกับผู้ชาย) เพราะแค่ ขนาดราคาประหยัดก็กินได้อิ่มพอดีมากแล้ว แล้วก็จะเป็นประหยัดเงินไปได้อีกไม่ต้องเหลือทิ้งข้าว ทิ้งเนื้อให้กลุ้มใจกันสักเท่าไหร่  แต่ถ้าหากว่าเป็นร้านกิวโนย่าแล้ว ก็จะมีให้เลือกแค่ พิเศษ กับธรรมดาเท่านั้น (ก็เหมือนกับร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านเราน่ะหละครับ ว่าจะมีให้เลือกแค่ธรรมดา คือ กินให้พออิ่ม หรือว่าอยากจะกินให้อิ่มโดยไม่ต้องสั่งเพิ่มก็ต้องเป็นขนาดแบบพิเศษเท่านั้น)

ของผม ที่สั่งมาจากร้าน ซูกิยะ จะเป็นขนาดกลางน่ะครับกินแบบแมนๆ ก็กำลังดีไม่ได้อิ่มเวอร์ หรือว่าหิวโหยต้องสั่งชามที่สองอะไรน่ะครับ (แต่ว่า ก็อาจจะสั่งได้เพราะว่า มันอร่อยเหลือเกินก็อยากจะสั่งเพิ่มอีกสักหน่อย อาการที่ผมเป็นก็คือ เมื่อผมทานหมด 1 ชามกลางแล้วก็เปิดเมนูแล้วก็ตัดใจว่าจะไม่สั่งต่อแล้ว เพราะ ถ้าหากว่าสั่งมาอีก มันจะเยอะเกินกว่า limit ที่เราอยากจะกินแล้วก็จะทำให้มื้อนั้นอิ่มเวอร์เกินไปครับผม )

บรรยากาศร้าน : สำหรับร้าน Sukiya จะเป็นร้านที่เป็นโต้ะนั่งปกติครับไม่ได้มีอะไรที่ทำให้ดูเหมือนกับเป็นความกดดันแบบญีปุ่นแม้แต่น้อย ยกเว้นช่วง counter ที่แคบกว่าปกติ คนอ้วนจะเดินผ่านไปไม่ได้เท่านั้นครับ แต่ว่าถ้าหากว่าร้านข้าวหน้าเนื้อที่ญี่ปุ่นจะเป็นร้านเล็กมาก และ จะมาคนทำงานอยูในร้านแค่ 2 คนเท่านั้นหรือว่า 1 คนก็ทำได้แล้ว ถ้าหากว่าเป็นร้านที่ นิฮอนมาจิ นั้นก็จะมาความงกพื้นที่แบบญี่ปุ่นแสดงหราอยู่ในร้านน่ะครับ ทำให้ได้ความเป็นญี่ปุนมากกว่าร้าน ซูกิยะมากครับผม ถ้าหากว่า คุณเน้นทางรสชาติแล้วล่ะก็ ก็กินที่ Sukiya นี่ก็ได้เพราะว่า ประหยัดกว่าและอร่อยเหมือนกัน (มี options ให้เลือกเยอะเลยล่ะครับว่าจะเอาหน้า Topping แบบไหน)

คิดเงินเรื่องน้ำ : ข้อไม่ดีอยู่อย่างของร้าน Sukiya สำหรับคนเค็มก็คือ ร้านนี้คิดค่าน้ำด้วยน่ะครับ แม้ว่าต้นทุนจะไม่เท่าไหร่แต่ก็เก็บนะครับ คือ ชาเขียวรสข้นแก้วละ 10 บาทครับ ถ้าหากว่าไปกันสี่คนเหมือนกับผมก็โดนไป 40 บาท และพยายามมีการจัดเอา package หรือทำเป็นชุด เพื่อให้ดูเหมือนกับถูกด้วย โอกาสสร้างเมนู package ว่ามีซื้อพร้อมสลัด หรือว่า ซุปมิโซะ เพื่อคิดเยอะเป็นยอดรวมประมาณ 35-45 บาทครับ ทั้งๆนี้ต้นทุนของเหล่านั้นแทบไม่มีเลยก็ว่าได้  แต่ว่าร้านข้าวหน้าเนื้อร้านอื่นๆที่เคยกินจะไม่คิดค่าน้ำแบบนี้ครับ

สรุป : ด้วย location ของร้านอยู่ใกล้บ้านผมมากขึ้น ทำให้ผมมีแนวโน้มที่จะทานร้านข้าวหน้าเนื้อร้านซูกิยะมากกว่า และทั้งด้วยเรื่องของราคาที่ดูมีความเหมาะสมกับบ้านเรามากกว่าครับ ทำให้เป็นร้านข้าวหน้าเนื้อที่ผมอยากจะแนะนำให้ไปทานดูซักครั้งครับ ถ้าหากว่า คนที่กินเนื้อไม่ได้ คุณก็จะเหลือแค่เมนูไก่เทอริยากิ ราดซอสมาโย เท่านั้นน่ะครับ เพราะงั้นแล้วถ้าหากว่าคุณไม่ได้รักที่จะทาน “ข้าวหน้าเนื้อ” จริงๆแล้วล่ะก็ข้ามไปได้เลยครับผม แต่สำหรับคนที่ทานเนื้อได้ ร้านนี้อาจจะเป็นร้านอาหารจานด่วนาร้านนึงที่คุณต้องเดินทางเพื่อไปกิน fastfood แนวญีปุ่นแบบนี้ก็เป็นได้ครับ ลองกันเอาเองแล้วกันนะครับ

ค่าเสียหายทั้งหมด สำหรับการกินอาหารแบบสุ่ม 4 คน

cost Gyudon


View Larger Map แสดงตำแหน่งร้าน ใน Google Maps แต่ว่าภาพใน Google Street View ดันถ่ายเอาตอนที่ร้านยังทำไม่เสร็จ

คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:

  • asiatique เจริญกรุง
  • asia tique เจริญกรุง
  • asiantique เจริญกรุง
  • asia เจริญกรุง
  • รีวิว asiatique
  • asiatique ร้านอาหาร
  • asiatique รีวิว
  • ร้านอาหาร asiatique
  • asiatique review
  • sukiya pantip

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *