เครื่องฟอกอากาศสามารถเลือกใช้เครื่องที่มีเสป็กน้อยกว่าขนาดของห้องได้หรือไม่ ?

เครื่องฟอกอากาศขนาดต้องเหมาะกับห้องอย่างงั้นหรือ ?

เครื่องฟอกอากาศที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคนไทยในยุคปี 2020 นี้ไปเสียแล้ว และ การเลือกเครื่องฟอกอากาศปกติแล้วนั้น เครื่องจะมีการกำหนดบอกว่า เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ จะเหมาะกับขนาดพื้นที่เท่าใดกัน โดยหากคุณลองสังเกตดี จะพบได้ว่า เครื่องฟอกอาอากาศจะแพงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเครื่องกำลังแรงขึ้นเพื่อให้เหมาะกับพื้นที่ของห้องที่มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน แต่เคล็ดลับที่ไม่ค่อยมีคนรู้กันสักเท่าไหร่ คือ แท้ที่จริงแล้ว หากคุณต้องการประหยัด คุณสามารถเลือกเครื่องฟอกอากาศรุ่นที่ใช้กับพื้นที่ที่น้อยกว่าขนาดห้องจริงได้ด้วยเช่นเดียวกัน หาก “คุณเปิดเครื่องปรับอากาศด้วยระหว่างการใช้งานฟอกอากาศ” สรุปคือ สำหรับห้องแอร์ที่มีการเปิดใช้งาน คุณสามารถใช้เครื่องฟอกอากาศที่เสป็กต่ำกว่าพื้นที่ของห้องจริงๆนั้นได้ 

เหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงสามารถใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีกำลังต่ำกว่าพื้นที่ของห้องได้เมื่อคุณใช้กับห้องแอร์ก็เพราะว่า แอร์มันจะทำหน้าที่เวียนอากาศอยู่แล้ว และ เครื่องฟอกอากาศก็ทำหน้าที่แค่ฟอกอากาศแต่เพียงอย่างเดียวด้วยอัตราการกรองอากาศเท่ากับเสป็กเครื่องฟอกเอง เหมือนกับว่า ถ่ายงานเรื่องของความสามารถในการหมุนเวียนอากาศให้แอร์ที่มีกำลัง BTU ที่เข้ากับขนาดของห้องทำหน้าที่ในการกวนวนอากาศเป็นหลัก

อย่างไรก็ดีการที่คุณเลือกเสป็กของเครื่องฟอกอากาศที่น้อยกว่าขนาดของห้องนั้น จะแลกมาด้วยระยะเวลาในการทำความสะอาดห้องที่ขยายตัวออกไปด้วยเช่นเดียวกันซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ค่อยเป็นปัญหาสำหรับคนที่อยู่อาศัยในห้องนั้นมากเท่าไหร่นัก เพราะ หากคุณสามารถเปิดเครื่องฟอกอากาศทำงานเกือบตลอดเวลา หรือ เครื่องฟอกอากาศมีโหมดการทำงานแบบ AUTO อยู่แล้ว เครื่องก็จะทำงานหนักปรับความเร็วของการทำความสะอาดให้มากขึ้น เมื่อมันพบว่า ปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มมากขึ้นกว่าค่าที่กำหนดเอาไว้ได้ด้วยตัวของมันเอง หรือ ถ้าหากว่า คุณทีเวลาเข้าออกพื้นที่ห้องที่คุณจะฟอกอากาศเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น ห้องนอน คุณอาจจะกำหนดให้เครื่องเปิดทำงาน 1 หรือ 2 ชั่วโมงก่อนที่คุณจะเริ่มใช้งานห้องนอนนั้นจริงๆก็ได้ ตัวอย่างเช่น ปกติคุณจะใช้ห้องนอนตอนหนึ่งทุ่ม คุณก็บังคับกำหนดเครื่องฟอกอากาศของคุณให้เริ่มทำงานแบบโหมดแรงสุดตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นก็ได้ ซึ่งแม้ว่าห้องจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเสป็กของเครื่องฟอกอากาศ แต่ มันก็ทำงานมาก่อนหน้าที่คุณจะใช้ห้องก็สามารถพอใช้งานเครื่องฟอกอากาศเพื่อสถอมสุขภาพทางเดินหายใจของคุณเองได้อยู่ดี

การทดสอบส่วนตัวโดยใช้เครื่องฟอกอากาศแบบ DIY กับห้องที่มีขนาดใหญ่กว่า 45 ตรม.

เราได้ทำการทดสอบโดยการเปิดเครื่องปรับอากาศ และ ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีเสป็กกำลังการพัดต่ำมาก คือ เป็นเครื่องประเภท DIY ที่ติดกับไส้กรองอากาศของ Xiaomi รุ่นสีฟ้า (ประหยัดสุด) เพื่อทดสอบดูว่าหลักการที่เล่านี้เป็นไปตามทฤษฎีหรือไม่ และ ได้ผลลัพธ์คือ ตอนเริ่มต้นเครื่องวัดคุณภาพอากาศค่า PM2.5 นั้นมีค่าประมาณ 35-40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร และ เมื่อมีการเปิดเครื่องฟอกอากาศแบบ DIY และเปิดเครื่องปรับอากาศไปพร้อมกัน พบว่า แม้ว่าเราเปิดเพียงเครื่องฟอกอากาศ DIY ที่มีกำลังพัดลมหมุนไม่แรงเท่าไหร่ ค่าจากเครื่องอ่านค่า PM2.5 เราก็พบว่ามันลดลงเรื่อยๆตามลำดับโดยเปิดไปประมาณ 30 นาที เราก็พบได้แล้วว่าค่าลงมาเรื่อยๆเหลือเพียงประมาณ​ 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตรเท่านั้น ซึ่งสามารถสรุปได้ว่าแม้ว่า เราจะใช้เครื่องฟอกอากาศที่กำลังความสามารถในการฟอกอากาศนั้นน้อย ไม่ได้เหมาะกับห้องขนาดใหญ่เท่าใดนัก เราก็สามารถทำความสะอาดห้องได้อยู่ดี เพราะ เราใช้ตัวเครื่องปรับอากาศเป็นเคร่ื่องที่ทำหน้าที่กวนอากาศของทั้งห้องแทนที่จะเป็นการทำงานของเครื่องฟอกอากาศโดยตรงแต่เพียงอย่างเดียวได้นั่นเอง 

ข้อแนะนำสำหรับคนที่ต้องการประหยัดเงินค่าเครื่องฟอกอากาศ 

เครื่องฟอกอากาศ xiaomi air purifier 2S รุ่นที่เราแนะนำ ด้วยความประหยัดคุ้มค่า
เครื่องฟอกอากาศรุ่นที่แนะนำแม้ว่าจะรุ่นแรงกว่านี้ เราก็สามารถใช้รุ่นรองลงมาได้ หากคุณใช้กับห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ เช่น Xiaomi Air Purifier 2S กำหนดห้องน้อยกว่า 35 ตร.ม. แต่ หากคุณมีห้องใหญ่กว่านี้ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน เราแนะนำรุ่นนี้ เพราะ ราคาคุ้มค่ามากที่สุดแล้วในตระกูล Xiaomi Air Purifier ปี 2020

คุณอาจจะเลือกเครื่องฟอกอากาศรุ่นที่มีความคุ้มราคาต่อพื้นที่เช่น เลือกเครื่องฟอกอากาศรุ่น Xiaomi Air Purifier 2S ที่จะมีหน้าจอแสดงค่า PM2.5 ที่ด้านหน้าของเครื่องฟอกอากาศ แม้ว่า คุณจะมีพื้นที่ใหญ่กว่า 35 ตร.ม. ตามที่เสป็กได้กำหนดไว้ก็ตาม ก็สามารถเลือกใช้เครื่องเสป็กพวกนี้ได้อยู่ดี หากคุณใช้กับห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ และ ตอนที่ฟอกอากาศนั้น เครืี่องปรับอากาศได้รับการเปิดทำงานอยู่คู่กันไปด้วย ซึ่ง ส่วนมากแล้ว คนไทย เราจำเป็นต้องอยู่ในห้องแอร์อย่างแน่นอน หากมันเป็นห้องปิดสนิท (เราไม่ได้อยู่เมืองเย็นเหมือนต่างประเทศ) ดังนั้นแล้ว ข้อมูลนี้น่าจะทำให้ท่านสามารถซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ลดเสป็กกำลังการทำความสะอาดลงมาได้บ้าง อย่างน้อยก็หนึ่งรุ่นของพื้นที่ได้นั่นเอง ซึ่งจะทำให้คุณประหยัดเงินค่าเครื่องฟอกอากาศอากาศก็ประมาณ 1,500 บาท – 2,000 บาทแล้วแต่รุ่นและผู้จำหน่ายแต่ละรายไป 

กดดูราคาสินค้าเครื่องฟอกอากาศรุ่น Xiaomi Air Purifier 2S ที่ประหยัดที่สุด

เราแนะนำให้คุณใช้เครื่องฟอกอากาศที่ทำให้คุณคุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด และ รุ่นที่เราแนะนำสำหรับปี 2020 นี้ก็ยังคงเป็นรุ่น 2S เช่นเดิมแม้ว่าจะมีรุ่น 3H ออกมาแล้วก็ตาม

บทความที่เกี่ยวกับข้องที่เราแนะนำให้คุณอ่าน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *