rackmanagerpro.com

เตรียมพบกับแอพฟรีดีจังเลย..ที่แอบแฝงมาด้วยการแลกมาซึ่งข้อมูลสำหรับร้านอาหาร

ไม่น่าเชื่อว่าธนาคารอยากจะช่วยเหลือร้านอาหารที่โดนโควิดสั่งปิดมาเดือนสองเดือน แล้วก็ต้องกลับมาเปิดใหม่ ทุกคนรู้ว่า มันจะต้องพึ่งพาการ delivery เป็นปัจจัยรองๆเพื่อทำให้เกิดกระแสเงินสดเข้ามาไม่มากก็น้อย และ นี่เป็นโอกาสอย่างหนึ่งที่ธนาคารทีมีกำลังคนแรงงานฝั่งนักพัฒนาเหลือเฟือที่จ้างมาแล้ว ไม่ได้จำเป็นต้องพัฒนาแอพเกี่ยวกับการเงินโดยตรงเท่านั้น ก็เลือกที่จะพัฒนาแอพเกี่ยวกับการช่วยเหลือทางธุรกิจอื่นๆ และ เป้าหมายงวดนี้เหมือนจะเป็น “ธุรกิจร้านอาหาร” ที่มีกระแสเงินไหลผ่านจำนวนมาก และเป็นเศรษฐกิจระดับที่แทรกซึมเข้าไปได้ทุกอนุส่วนของชีวิต ซึ่งผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่แอพประเภทนี้เรียกได้ว่าวันเว้นวันกันเลยทีเดียว ! คือแอพเกี่ยวกับการสั่งอาหาร การรีวิวร้านอาหาร เป็นต้น 

ผมว่านะ … ธนาคารน่าจะเห็นโอกาสการเอาแทรกซึมเพื่อเข้าถึง data ชุดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน แบบเดียวกับพวกที่เป็นแอพหร่ือ super app รายใหญ่มีข้อมูลถือในมือที่เหนือกว่าในเรื่องจำเพาะนั้นๆ เช่น แอพพวกเรียกรับอาหารและจัดส่ง มันก็จะมีข้อมูลว่า ร้านไหนอยู่ที่ไหน (อันนี้ธรรมดา) ร้านไหนขายอะไรดี (อันนี้เริ่มไม่ธรรมดา) ร้านไหนขายอะไรได้ยอดเท่าไหร่ เกิดขึ้น ณ​ เวลาไหน โดยคนแบบไหน ชายหรือหญิงและกินข้าวหรือสั่งกันเวลาได้ พวกนี้ ข้อมูลนี้ถูกจับเกิดโดยแอพ แต่ร้านอาหารเองไม่ได้ข้อมูลนีแต่อย่างใด เขาไม่เคยรู้หรอกว่าคนซื้อคือใคร บ้านเขาอยู่ไหน เบอร์โทรติดต่อเบอร์อะไร ไม่ได้แม้กระทั่งข้อมูลใดๆเพื่อเอามากรอกใน CRM ของตัวเอง ถ้าหากว่ามันมี ซึ่งร้านอาหารไม่ได้แคร์อะไรเรื่องพวกนี้หรอก เพราะ คิดว่าตัวเองก็ได้รายได้จากการขายอาหารก็ถือว่าเป็นอันจบ โอเคแล้วได้เงินแล้วก็เท่านั้น และ ไม่ได้มองหรอกว่าข้อมูลที๋โดนเอาไป มันทำให้เกิดปัญหากับตัวเองได้เช่นเดียวกัน 

เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นกับ Uber Eats ในสหรัฐฯ แม้ว่า จะไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ได้ได้ดีอะไร แต่สำหรับคนที่เป็นร้านอาหารและคนที่เสียประโยชน์จากการโดนแชร์ข้อมูลไปนั้นมีอย่างแน่นอน กรณีที่เกิดขึ้นก็คือ Uber Eats รู้ว่าเมนูอะไรขายดีในระแวกหนึ่งๆ ก็ทำการส่งเสริมให้ร้านอาหารแถวนั้น เลือกที่จะทำเมนูอาหารประเภทเดียวกันนั้นออกมาเพื่อจำหน่าย และก็ทำให้ร้านอาหารร้านใหม่นั้นเกิดยอดขายมากขึ้น และ Uber Eats ก็จะได้รายได้มากขึ้นตามไปด้วย ฟังดูเหมือนจะดี แต่คุณรู้หรือเปล่าว่ามีคนเสียประโยชน์จากเรื่องนี้ นั่นก็คือ คนที่ขายเมนูนั้นๆอยู่แล้วย่านนั้นนั่นเอง ! เพราะเขากำลังโดนแชร์พื้นที่กระเพาะอาหารจากคนในท้องถิ่นไปด้วยร้านอาหารคนอื่นที่ Uber Eats ดันเอาข้อมูลไปบอก แน่นอนว่า ข้อมูลมันเกิดจากร้านที่เสียประโยชน์นั้นแหละ ! 

เพราะคำถามหลักๆของการขายสินค้าหรือบริการอะไรก็แล้วแต่ ที่เป็นคำถามที่สำคัญมากๆ คือ “อะไรขายดี!?” ถ้าหากว่าคนที่ทำธุรกิจนั้นๆหรือธุรกิจใกล้เคียงได้รับรู้แล้วเข้ามาทำและผลิตสินค้าหรือบริการที่ขายดีเหล่านั้นได้ แน่นอนว่า มันจะทำให้คนที่ทำธุรกิจนั้นๆอยู่เดิมรายได้ลดลงอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งนี้ คนที่ทำตัวเองเป็นระบบกลางนั้นไม่ได้แคร์ (no สน no แคร์ว่าอย่างงั้น)​เพราะ cake มันก้อนโตขึ้นต่างหากที่เป็นเป้าหมายของเขา และ ไม่ได้แคร์เรื่องสัดส่วนในตลาดแต่อย่างใด 

ทีนี้กลับมามองแบบบ้านเรากันบ้างว่า ถ้าหากว่า คนที่มีกำลังพัฒนาแอพเพื่อดักจับข้อมูลระบบพื้นบ้านที่ซื่้อขายกันเป็นเงินสดกันเป็นปกติ ตอนนี้ ก็คือร้านอาหารแบบไม่ม่ีเคร่ื่อง POS หรือต่อให้มีก็ไม่ได้เชื่อมต่อข้อมูลกับภาครัฐใดๆ แต่กลับใช้แอพเพื่อสั่งอาหารไม่ว่าจะเป็นการรับออเดอร์อาหารผ่านการ delivery หรือการรับออเดอร์ผ่านโต้ะ แบบที่เป็นป้ายให้ลูกค้าแสกนแล้วกดเลือกในเมนูอาหารร ทำให้ข้อมูลที่สำคัญอย่างหนึ่งนั้นหลุดออกไปอย่างที่บอกก็คือ อะไรขายดี และ คุณขายได้เงินเท่าไหร่ คำถามเหล่านี้จะถูกตอบจากข้อมูลผ่านแอพพวกนี้ได้นั่นเอง ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นแล้วบน Lazada ที่เขาขายข้อมูล(แบ่งปันหรือแชร์ผลประโยชน์ก็สุดแล้วแต่) เพื่อช่วยให้เข้าถึงโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคารโดยที่ธนาคารลดความเสี่ยงลงไปได้มาก เพราะรู้ว่ายอดขายที่เกิดขึ้นนั้นเกิดอะไรบ้างและขายอะไร ขายดีหรือเปล่า และ คิดว่าน่าจะขายดีต่อไปหรือไม่ เพราะ Lazada รู้ข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมด และบอกให้กับธนาคารรู้ได้อีกต่างหากเมื่อต้องการ 

ลองจินตนาการดูหน่อยสิว่า มันเลวร้ายแค่ไหน !? เมื่อช่องทางจัดจำหน่ายรู้ว่าอะไรขายดี และ ออกแรงตี่อีกนิดหน่อยเพื่อให้รู้ว่าอะไรทำกำไรได้ดี ก็จัดการทำ House brand แบบเดียวกับที่ ARO เป็น แบบเดียวกับที่ แบรนด์ของ Tesco Lotus และ Big C ทำ house brand ออกมาแข่งกับสินค้า หรือ แบบเดียวกับที่ Amazon ทำกับแบรนด์รองเท้าที่ขายดี และสิ่งนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับแอพที่ “trade ข้อมูลกับการใช้งานฟรี” ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกเดือนสองเดือนที่จะถึงนี้ 

ใครๆก็รู้หรอกว่า ข้อมูล เป็นสิ่งสำคัญ แต่การเอาข้อมูลไปใช้และการกลั่นกรองข้อมูลเพื่อหาประโยชน์ได้นั้นจำนวนข้อมูลอาจจะต้องมากสักหน่อย และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลก็สามารถทำการกรองข้อมูลที่เห็นเด่นชัดหรือสัมพันธ์กันออกมาเพื่อ “สร้างเม็ดเงิน” หรือ “สร้างโมเดลหารายได้” ได้ในระยะยาวอยู่ดี ซึ่งร้านอาหารหนึ่งๆนั้นไม่ได้เห็นค่าอะไรเลย และ ยอมเสียอธิปไตยทางข้อมูลให้กับระบบอื่นๆต่อไป โดยไม่รู้หรอกว่า มันอาจจะเป็นภัยก็ได้ในวันหนึ่ง และนั่นมันแฝงมากับคำว่าให้ใช้บริการฟรีนั่นเอง !

Exit mobile version