ออกกำลังกายให้สะดวกที่สุดเท่าที่จะทำได้เป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่จะทำให้คุณมีโอกาสออกได้มากแบบไม่ต้องมีข้ออ้างกันเลย โดยปกติแล้ว การออกกำลังกายจะเป็น work load ที่คนที่รักสบายจะไม่อยากจะทำกันสักเท่าไหร่ เพราะ แน่นอนว่าออกกำลังกายแล้วก็ต้องเหนื่อย ถ้าหากว่าไม่อยากจะเหนื่อยก็ไม่ต้องออก วิธีการหลอกตัวเองเพื่อให้ไม่ต้องออกก็คือ การตั้งเงื่อนไขที่จะทำให้ตนเองรู้สึกดี เพื่อที่จะไม่ต้องออกกำลัง เหตุผลหลากเหตุผลที่ส่วนใหญ่จะคิดกันออกเพื่อเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะไม่ต้องไปออกหรือได้โอกาสอู้ไม่ออกกำลังกันก็มีดังต่อไปนี้
1. ฝนตกเดินทางไปออกกำลังกายไม่ได้ : เหตุผลนี้คนที่คิดได้ก็จะเป็นพวกที่มักจะออกกำลังกายด้วยกาเดินหรือวิ่งแบบ outdoor อยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าฝนตกก็เลิกคิดที่จะออกกำลังกายในวันนั้นไปเลย ทั้งๆที่จริงๆแล้ว คุณควรจะมีแผนสองเอาไว้ด้วย สำหรับวันที่ไม่สามารถออกเดินทางเพื่อไปออกกำลังกายนอกบ้านได้ เช่น อาจจะมีเครื่องปั่นจักรยานเอาไว้ที่บ้านสักหน่อย หรือว่าทำโยคะอยู่ที่บ้านก็ได้ โดยให้คิดวิธีการออกกำลังกายแบบอยู่บ้านเอาไว้ก่อนล่วงหน้าและทำเป็นนิสัยที่่จะต้องทำเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าสถานการณ์อากาศจะเป็นอย่างไรก็ต้องออกกำลังกายในเวลาเดิมๆได้ทุกวันอย่างไม่มีเงื่อนไข
2. งานเยอะและไม่มีเวลาเดินทางไปออก : พวกนี้จะเป็นข้ออ้างสำหรับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนและมักจะคิดว่า เอาเรื่องงานมาเป็นข้ออ้างหลอกตัวเองให้ดูดีได้ จริงๆแล้วถ้าหากว่างานเยอะมากๆจริงๆ และไม่สามารถมีเวลาเพื่อไปออกกำลังกายได้เลย แสดงว่าคุณเลือกงานได้ไม่ดีสักเท่าไหร่นัก ตอนนี้ life style เป็นเรื่องแรกสุดสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ดูแลตัวเอง การเลือกงานให้เหมาะสมกับเวลาที่ตนเองมี โดยจักต้องจัดเวลาเพื่อออกกำลังกายนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นปัจจัยในการเลือกเข้าทำงานด้วยเช่นเดียวกัน หรือ ถ้าหากว่าคุณเป็นเจ้าของกิจการด้วยแล้ว สุขภาพนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ใช่เอาเวลาทั้งหมดไปทำงานแล้วคิดว่า การเอาเวลาไปทำงาน จะทำให้คุณดูดีในสายตาตัวเอง !
3. ไม่มีเพื่อนไปออกด้วยกัน : พวกนี้จะเป็นพวกขี้เหงา ไม่สามารถที่จะออกกำลังกายด้วยการเดินหรือวิ่งแบบมีระยะทางไกลๆได้ แล้วคิดว่าต้องมีเพื่อนเดินหรือเพื่อนวิ่งเพื่อจะทำให้ตัวเองได้ออกกำลังกาย แต่ผมต้องบอกเอาไว้ที่นี้เลยดีกว่าว่าถ้าหากว่าคุณจะออกจริงๆ แนะนำว่าให้ไปตาม fitness ก็ได้หากว่าคุณไปประจำด้วยเวลาเดิมๆแล้วล่ะก็ ก็จะมีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับคุณ หรือ ออกกำลังกายด้วยเครื่องหรือรูปแบบเดียวกับคุณคุยด้วยครับ ! เพราะ เค้าก็อยากจะมีเพื่อนใหม่ระหว่างออกกำลังกายไปด้วยเช่นเดียวกัน แต่สำหรับหนุ่มๆก็ระวังเกย์ตาม fitness หน่อยก็แล้วกันครับผม นอกเหนือไปจากนี้ สำหรับคนที่คิดว่าคุณจะต้องเดินหรือวิ่งคนเดียว ขอบอกเอาไว้เลยว่าคุณคิดผิดแล้ว เพราะหากว่าคุณไปเป็นเวลา เริ่มเป็นเวลา ที่เดิมๆ แล้วล่ะก็ ก็จะมีคนหน้าเดิมๆ ที่วิ่งเส้นทางเดิมๆด้วย speed เดิมๆทำเป็นประจำเหมือนกัน แค่คุณ join วิ่งตามหรือทักแค่ “สวัสดี” เท่านั้นก็สามารถวิ่งหรือเดินไปพร้อมกับกลุ่มเหล่านั้นได้แล้ว ง่ายๆแค่นี้เอง
4. ไม่มีชุดใส่ไปออกกำลังกาย : คำอ้างนี้จะหลุดออกจากปากสาวๆที่รักสวยรักงามและอยากดูดีเสมอแม้จะมีเหงื่อออกท่วมตัวก็อยากจะให้ตัวเองดู sexy เงื่อนไขอ้างเพื่อจะได้ไม่ต้องไปออกกำลังกายง่ายๆก็คือ”ไม่มีชุดใส่” หากว่าไม่มีจริงๆก็แนะนำว่าให้ซื้อก็ได้หากว่าคุณไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทองอะไร เสื้อผ้ากีฬาเพื่อสวมใส่วิ่งหรือเพื่อออกกำลังกายตาม fitness นั้นไม่จำเป็นต้องไนกี้หรือว่าอดิด๊าสหรอกน่ะครับ พวกไม่มียี่ห้อหรือว่าแบรนด์ไทยก็ใส่ได้เหมือนกันหมด ต้องเข้าใจตัวเองเสียก่อนว่า คุณใส่ชุดก็เพื่อมาออกกำลังกายไม่ได้มาเพื่อโชว์ชุดกีฬาครับผม หรือถ้าหากว่าไม่อยากจะซื้อเลย ก็แค่เอาเสื้อยึดมาใส่ไม่หลวมหรือว่าไม่ลัดเกินไป ใส่ขาสั้นก็ออกเดินหรือวิ่งได้แล้ว แต่รองเท้าก็ต้องเหมาะสมกับการออกกำลังกายน่าจะเป็นเรื่องคุณต้องคิดมากกว่าเสื้อผ้าเสียอีก
5. ดูเหมือนฝนกำลังจะตก : เหมือนกับข้อแรกแต่ว่านี่แค่การตั้งเค้าของฝนก็จะทำให้คุณตัดสินใจที่จะไม่ออกกำลังกายแบบ outdoor แล้ว แต่อย่างไรก็ดีอย่างที่ผมได้บอกไปก็คือ คุณต้องมีแผนสองเสมอ แบบ indoor เพื่อลดโอกาสการอดออกกำลังกายอันเนื้่องมาจากสภาพอากาศไม่เหมาะสมลงไปได้อีกส่วนหนึ่ง
6. ถ้าหากว่าออกตอนนี้ก็เลิกค่ำเกินไป : คนที่ทำงานสำนักงานหรือทำงานติดงานหลังเลิกงานไปนานๆ จะทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายรอบเย็นได้ อย่างไรก็ดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนที่คิดว่า “อาหารเย็น” เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องกินเป็นมื้อหนักก็จะทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายรอบเย็นได้ แต่ในทางกลับกันหากว่า คุณต้องการลดน้ำหนัก การทานอาหารเย็นแบบเบาๆ แล้วปรับอาหารให้มีพลังงานไม่มากนัก ไม่ได้กินเป็นมื้อหนักเลย ก็จะทำคุณสามารถออกกำลังกายรอบเย็นคั้งแต่ 6:00 – 8:00 น.เวลาไหนก็ได้ทั้งนั้น เพราะคุณไม่ได้กินอาหารเย็นจริงจังแล้วนี่หน่า ดีออกเป็นการลดปริมาณอาหารที่เอาเข้าปากไปด้วย
7. เช้าอยู่ง่วงนอนไม่ออกดีกว่า : คนที่ไม่ตื่นเช้าเป็นเรื่องปกตินั้น จะทำให้การตื่นเช้าเป็นเรื่องที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้เลยก็ว่าได้ แต่นั่นก็เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น แท้ที่จริงแล้ว สามารถเริ่มปรับเวลานอน จากการนอนหลังเที่ยงคืนแล้ว ลองนอนแค่สามทุ่มดู จะทำให้คุณมีเวลาเช้าตั้งแต่ตีห้าเพื่อพร้อมที่จะไปออกกำลังกายได้ โดยไม่ง่วง การปรับตัวจะต้องเริ่มทำวันนี้ เพื่อที่คุณจะได้ย้าย timing ในการตื่นจากรอบเวลาที่ไม่เหมาะกับชีวิตการออกกำลังกาย ให้กลายเป็นรอบเวลาที่เหมาะขึ้นกับการออกกำลังกายในตอนเช้า
8. เม็นมาออกไม่ได้ : เรื่องนี้เป็นประเด็นที่น่าเห็นใจคุณผู้หญิงครับ เพราะ อาการเม็นมานั้นจะปวดมากหรือน้อยก็แล้วแต่คน ซึ่งกะเกณฑ์อะไรกันมากไม่ได้ อย่างไรก็ดี ถ้าหากว่าการปวดเม็นเป็นอาการปวดที่มากเหลือเกินทน ผมว่ามันไม่ปกติแล้วอาจจะต้องเข้าปรึกษาคุณหมอเพื่อให้ตรวจสอบดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่หรือว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้อาการปวดเหล่านี้น้อยลงไปได้บ้าง อย่างไรก็ดี คุณสามารถออกกำลังกายแบบเบาๆหรือแค่เป็นการเดินทั่วไปได้ โดยเน้นการเดินให้นานขึ้น เพื่อเป็นการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน โดยเฉพาะส่วนของไขมันออกไปได้ อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียเวลาเปล่าประโยชน์ .. เอาไขมันออกไปได้สักหน่อยก็ยังดี
9. ปวดเมื่อยเนื้อตัวอยากหายปวดก่อนแล้วค่อยไปออก : อาการปวดเมื่อยนี้ มักจะเกิดกับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายในส่วนกล้ามเนื้อที่เพิ่งจะใช้งานไป เช่น หากคุณไม่เคย sit up มาก่อนแบบเยอะๆหน่อย เมื่อคุณลองออกกำลังกายกล้ามเนื้อโดยการ sit up ก็จะพบว่าเช้าวันต่อมา จะมาอาการปวดท้องเป็นพิเศษ (กล้ามเนื้อมันตึงๆ) แนะนำว่าให้ออกกำลังกายโดยการเปลี่ยนชุดกล้ามเนื้อออกแทน เช่น ถ้าหากว่ามันปวดแขน ก็ไปวิ่งซะใช้ขาแทนเป็นต้น จะทำให้การอ้างว่าปวดนู้นนี่ไม่เป็นผลในการหลอกตัวเองไม่ให้ออกกำลังกายได้อีกต่อไป การเปลี่ยนชุดกล้ามเนื้อในการออกกำลังกายนั้น ส่วนมากแล้ว แนวคิดนี้จะได้จากพวกที่เล่นกล้ามเป็นหลัก เพราะ การเล่นกล้ามนั้นจะต้องทำให้กล้ามเนื้อล้าถึงระดับปวดในวันต่อไป แล้วก็ย้ายให้กล้ามเนื้อพักฟื้นด้วยมัดกล้ามเนื้อที่มากขึ้นแข็งแรงขึ้น ระหว่างที่รอกล้ามเนื้อฟื้นก็ออกกำลังกายส่วนอื่น ในวันอื่นแทนต่อไป
10. ไม่ได้เป็นสมาชิกฟิตเนส : ชีวิตคนเราไม่ได้ไฮโซอะไรขนาดนั้นน่ะครับ คุณไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายแบบที่ต้องไปสุมๆรวมกันก็ได้ แค่คุณมีใจที่จะออกจริงๆแล้วล่ะก็ การออกกำลังกายสามารถทำได้ที่บ้าน อย่างมีแรงบันดาลใจได้อยู่เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกฟิตเนสก็สามารถออกได้ครับผม อ่อ .. อยากจะบอกว่า คนที่่เป็นสมาชิกฟิสเนสมันจะมีความหนืดในการที่เขาเหล่านั้นจะได้ออกกำลังกาย เพราะ จะต้องอ้างทุกครั้งว่า จะต้องเสียเวลาเดินทาง แต่งตัวเนื่องด้วยมีเงื่อนไขเรื่องสถานที่เข้ามาเกี่ยวข้องทำให้โอกาสในการได้ออกกำลังกายลดน้อยถอยลงไปได้แบบไม่จำเป็น
11. แถวบ้านไม่มีที่ออก : ออกที่ได้ไม่ได้เหรอครับ !
12. อากาศร้อนวันนี้ไม่ออกดีกว่ามั้ย : ออกที่บ้านเปิดพัดลมก็ได้ครับ !
13. หิวข้าวไม่มีแรงออก : หิวข้าวพวกจะเกิดกับคนที่ทานอาหารเที่ยงไม่มากพอ หรือว่าระหว่างภาคบ่ายมีการใช้แรงงานหรือความคิดอย่างหนัก ร่างกายก็เอาพลังงานจากอาหารกลางวันไปใช้แทบหมดสิ้น ทำให้เกิดอาการหิวข้าวได้ อย่างไรก็ดี ถ้าหากว่าคุณมีอาการแบบนี้อยากจะให้เน้นว่า กลางวันอาจจะกินข้าวให้เยอะขึ้นอีกสักหน่อยแบบที่อิ่มท้องเข้าไป คุณก็สามารถเลือกอาหารให้เหมาะสมเพื่อให้คุณไม่หิวจนเกินไปนักตอนเย็นได้ หรือ อีกกรณีก็คือ ตื่นขึ้นมาแล้วหิวข้าวมาก แล้วก็อ้างว่าหิวออกกำลังกายไม่ได้ วิธ๊การแก้สำหรับกรณีการออกกำลังกายเช้านั้นไม่ยากก็คือ ให้กินน้ำเข้าไปครับ แล้วก็ออกกำลังกายได้เลย ร่างกายเมื่อออกกำลังกาย หรือระหว่างออกนั้นจะเริ่มรับรู้ว่า อืม .. มันยังไม่ถึงเวลากินข้าวนะ ต้องออกแรงเสียก่อน แล้วร่างกายเราเองเนี่ยะ มันก็จะเลิกส่งสัญญาณความหิวมาที่สมอง เราก็จะหายหิวแล้วก็ออกกำลังกายต่อไปอย่างตั้งใจ โดยไม่ต้องคิดเรื่องหิวอีก
ข้ออ้างพวกนี้เป็นข้ออ้างเท่าที่ผมจะคิดออกจากประสบการณ์ที่ผ่านมา คิดโดยตัวเอง เพื่อหลอกตัวเองไปวันๆเพื่อที่จะทำให้ตัวเองไม่ต้องออกกำลังกายแบบที่ไม่ทำให้ตัวเองรู้สึกผิดอีกต่างหาก ! (เรียกว่าหลอกตัวเองอะไรแบบนั้นน่ะครับ) แล้วก็เป็นข้ออ้างจากคนอื่นๆรอบตัวที่เคยได้ยินได้ฟังกันมา เอาเป็นว่าทุกๆอย่างนั้น คิดซะว่ามันเป็นแค่เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นหรอก ก็แค่หลอกตัวเองไปวันๆเท่านั้นเอง หรือว่าไม่จริง!?