ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าผมมีประสบการณ์ในการใช้งาน Paywave มาแล้วมากกว่า 3 ปีครับ เพราะว่า บัตรเติมที่ได้มาตอนนั้น เป็นรุ่นแรกๆที่ Kbank ออกโปรโมชั่น Kwave และ มีการทำสื่อเพื่อส่งเสริมการใช้งานตัว NFC K-Wave PayWave ในทุกๆที่ แต่นั่นมันก็ผ่านไปนานแล้ว และ ตอนนี้เหมือนว่าทางธนาคารเองก็ไม่ได้ออกสื่อเพื่อส่งเสริมการใช้งานแบบนี้อีก ซึ่งจริงๆแล้ว สำหรับปี 2017 คร่อมปี 2018 นั้นการใช้งาน PayWave ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีอยู่ดี แม้ว่า ทุกคนตอนนี้จะหันไปทำการส่งเสริมให้คนใช้ Promptpay แทนกันหมดแล้วก็ตามที
ผมยังคงแนะนำเพื่อนๆคนอื่นๆให้หาเครดิตการ์ดประเภท PayWave ติดตัวไว้สักอันหนึ่งตลอด เพราะ มันใช้ได้สะดวกจริงๆ คือแค่แตะการ์ดกับเครื่องอ่าน PayWave (จะเห็นตาม SuperMarket และ ห้างใหญ่ๆกันเสียเป็นส่วนมาก) และพวกร้านอาหาร Fast Food แบบที่เราต้องไปชำระเงินที่ Couter เองก็จะมีตัวรับ PayWave ติดตั้งอยู่เกือบจะทั้งหมดทุกที่ (แค่ว่าพนักงาน มักจะใช้ไม่ค่อยเป็นเพราะ คนที่ใช้ไม่ค่อยจะเยอะมากนั่นเอง ทำให้ผมเองนั่นน่ะแหละ ที่คอยบอกคนอื่นๆเสมอ เพื่อให้คนอื่นใช้เหมือนกันด้วย ทำให้พนักงาน เขาจะได้มีประสบการณ์รับชำระเงินด้วย PayWave นั่นเอง)
วิธีการใช้พวกการ์ด Paywave พวกนี้ก็แค่เมื่อจะจ่ายเงินแล้ว เจอ Counter ที่มีสัญญักษณ์ PayWave เราก็สามารถใช้ได้แล้ว ให้บอกพนักงานเขาว่า “พี่ครับ ผมจะจ่ายด้วย PayWave นะครับ!” พนักงานเขาก็กดเลือกแบบชำระเงินเป็น Paywave และเครื่องอ่านก็จะกระพริบให้เราเอาการ์ด PayWave ไปแตะที่เครื่อง เท่านั้นการชำระก็จะเสร็จสิ้น เราจะได้ใบเสร็จพร้อมกับสลิปชำระเงินด้วยเครดิตการ์ดมาเป็นหลักฐาน และ แน่นอนว่า มันจะไม่ต้องเซ็นเอกสารที่ไหนอะไรเลย เพื่อประหยัดเวลาเรา ข้อสำคัญอีกอย่างก็คือ คุณไม่ต้องไปแคร์ว่ายอดมันต่ำแค่ 9 บาทหรือต่ำกว่านั้นก็ชำระเงินด้วย Paywave ได้ ทั้งนี้ด้วยเหตุผลก็ค้ือ การ์ดนั้นได้รับการออกแบบแนวคิดการใช้งานมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่า เพื่อให้เกิดความเร็วในการชำระเงินน้อยๆนั่นเอง ทำให้ไม่ต้องเซ็น โดยคุณเป็นคนกำหนดกับทางธนาคารเอาไว้ว่า เท่าไหร่ถึงจะไม่สามารถใช้ได้ เช่น อาจจะกำหนดเอาไว้ว่า การ์ด Paywave นั่นจะชำระได้เมื่อยอดไม่เกิน 1500 THB.- เท่านั้นก็ได้ แล้วแต่ว่า คุณใช้ของธนาคารใด และ มีข้อกำหนดหรือไม่ว่าลูกค้าของการ์ดเป็นคนกำหนดว่าการ์ดนี้จะใช้ได้สูงสุดต่อ Transaction ที่เท่าไหร่กัน หรือว่าทางธนาคารเป็นผู้กำหนดเอาไว้อยู่แล้วหรือเปล่า อันนี้ก็สุดแล้วแต่กฏที่ตั้งเอาไว้
สำหรับบทความนี้จะเอาการ์ด K-Wave NFC มาดัดแปลงนิดหน่อยเพื่อเอามาติดกับเครื่อง iPhone ของผม โดยผมต้องการให้ภาพลักษณ์ของโทรศัพท์ยังคงเป็นโทรศัพท์อยู่เหมือนเดิม ทำให้ผมต้องทำการปลอมตัวเจ้าการ์ด PayWave ตัวนี้สักหน่อยหนึ่งครับ
เริ่มต้นมาให้กดเลขที่เครดิตการ์ด และ ข้อมูลทั้งหมดไว้ก่อน เพราะ เรากำลังจะทำลายทิ้งมันเสียครับ เมื่อได้การ์ดมาแบบผมจะมีรอยปรุให้ฉีกการ์ดออกมา จะเป็นการ์ดที่เล็กแค่ 2 x 3 cm แค่นั้นเอง
หลังจากนั้นให้คุณหาปากกาเมจิกประเภทที่เอาไว้เขียนบนพลาสติกได้ จัดการทำการถมดำการ์ดเสีย หรือ คุณจะทำเหมือนผมก็ได้ คือ ให้เหลือสัญลักษณ์ไร้สาย Paywave Logo เอาไว้แค่นั้นเอง
เอาการ์ดนั้นลอกสติกเกอร์ด้านหลังออก มันจะเป็นเหมือนกับกาวสติกเกอร์เพื่อเอาไปติดกับโทรศัพท์ ถ้าหากว่า คุณกังวลว่า มันจะติดเหนียวกับโทรศัพท์สุดที่รักของคุณ ผมแนะนำว่าให้เอาสติกเกอร์นั้นไปแปะๆกับผ้า หรือกางเกงของคุณสักห้าหกรอบ แค่นี้กาวมันก็จะลดประสิทธิภาพไปได้มากแล้วล่ะครับ แล้วก็จัดการเอาไปติดกับโทรศัพท์ และ ครอบทับด้วยเคส (สำหรับของผมเป็นเคสใสน่ะครับ) แน่นอนว่า การถมดำนั้น ถ้าหากว่า คุณเป็นเคสทึบอยู่แล้วก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องถมดำแต่อย่างใดได้ฟังก์ชั่น การใช้จ่ายเงินด้วย NFC ก็แค่ซ่อนการ์ดนี้ด้านในเคสแค่นั้นเอง สะดวกกว่ามาก
นี่คือผลลัพธ์ที่ไดก็จะได้ iPhone ที่ด้านหลังสามารถชำระเงินด้วย PayWave ได้แล้ว เท่ห์ใช้ได้เลย ลองเดินไป Big C แล้วซื้อแหนมมาสักแท่ง เดินไปที่เค้าเตอร์แล้วบอกว่า เค้าจ่ายเงินด้วย PayWave พนักงานก็กดให้เครื่องรับ PayWave กระพริบ ผมก็จัดแจงเอาเครื่องโทรศัพท์ ที่ไม่ได้เปิดหน้าจออะไรแตะที่เครื่องรับ PayWave ไม่เกิน 3 วินาทีก็จบกระบวนการ รอ Slip การจ่ายเงินด้วย PayWave และใบเสร็จการชำระเงินก็เป็นอันจบพิธีกรรม