เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน ผมได้มีโอกาสสยามพาราก้อน แล้วก็เหลือบมองไปเห็นว่าร้าน โดนัท ที่ผมสังเกต และเดินผ่านเป็นประจำนั้น ปรากฏว่า คิวที่เห็นนั้นสั้นลงไปมาก ทำให้ได้เป็นคลื่นลูกที่สอง เพื่อลองดูว่า ร้านเค้ามีอะไรให้เลือกบ้าง แล้วหน้าร้านเป็นอย่างไร ? อาจจะแปลกใจว่า ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้าร้านทั้งๆที่เดินผ่านประจำ เหตุผลก็ตรงไปตรงมาน่ะครับ เพราะ แต่ก่อนร้าน Donut ร้านนี้ คนต่อคิวกันเยอะ ทำให้บังหน้าร้านทั้งหมด เรียกได้ว่า บังมิดทำให้ผมแม้ว่าจะเดินผ่านก็มองไม่เห็นอยู่ดีว่าเค้ามีหน้าอะไรให้เลือกบ้าง หรือ ร้านเค้าวางของขายกันอย่างไร
เมื่อคิวมันสั้นแล้ว ทำให้ผมมีโอกาสได้คิดที่จะลองเข้าไปต่อคิว โดยเมื่อเดินไปต่อแล้วก็งงเล็กน้อย เพราะว่า มีการแยกคิวระหว่างคนที่กะว่าจะมาซื้อ donut ประเภทหน้าที่เป็นแบบ original หน้าธรรมดา และ แบบหน้าที่เป็นอื่นๆ ออกจากกันครับ ซึ่งผมว่าเป็นวิธีการที่ฉลาดในการเพิ่มอัตราการซื้อให้มากขึ้นครับ เพราะว่าจริงๆแล้ว ถ้าหากว่าคนที่จะมาต่อคิวเพื่อซื้อหน้าปกติจะจัดโดนัทเข้าในกล่องและจ่ายเงินได้เร็วกว่า และมันจะเร็วกว่าที่จะต้องมารอรับ order เพื่อให้ลูกค้าเลือกว่าจะเอาหน้าอะไรบ้าง จำนวนกี่ชิ้นบ้าง อยู่เยอะนาทีครับ ทำให้ flow การไหลของคิวหน้า original เร็วกว่าเป็นไหนๆ
แม้ว่าคิวของโดนัทแบบปกติจะเร็วแต่ผมก็ไม่ได้ไปต่อหรอกนะครับ เพราะว่าผมเคยกินโดนัทหน้าปกติของเค้าแล้ว โดนการซื้โดนัทผีบนทางเท้าแล้วครับ ก็กินแล้วไม่ค่อยเท่าไหร่ เอาให้คนอื่นกินก็ไม่ได้มีคนชอบแต่ประการใด ทำให้เลิกคิดที่จะซื้อแบบธรรมดากินแล้วล่ะครับ ผมก็เลยเดินไปต่อคิวเพื่อได้มีโอกาสเข้าไปเลือกหน้าอื่นๆ ว่าจะมีหน้าแบบไหนที่คิดว่าน่าอร่อยจะได้เอามากินดูน่ะครับ (ดีใจๆมีคนซื้อให้อีกต่างหาก) ปรากฏว่า คิวที่ผมต่อนั้นกินเวลาประมาณสัก 15 นาทีเห็นจะได้ แล้วสีหน้าทุกคนก็ไม่ได้คิดว่านี่คือการรอแต่ประการใด เพราะ ทุกคนก็จะเอามือถือออกมาเล่น หรือว่าอย่างน้อยที่สุดก็ต้องต่อกันสองคนเพื่อที่จะมีคนคุยด้วยระหว่างการรอนั้น (เพราะว่าใครๆก็รู้อยู่แล้วล่ะครับว่า จะซื้อโดนัทนี่ก็ต้องรอ ไม่ได้เหมือนกับร้านปกติที่จะเดินเข้าไปเลือก แล้วก็จ่ายเงินได้ทันที)
เมื่อไปถึงหน้าร้านซึ่งอย่างที่ผมบอกไปคือผมไม่เคยเห็นหน้าร้านของร้านนี้จริงๆ ก็จะมีหน้าให้เลือกไม่มากนัก อาจจะเป็นเพราะว่าที่วางไม่พอหรือเปล่า (หรือว่าเค้าทำได้ไม่หลากหลายด้วยกำลังการผลิตที่ต่ำกว่าความต้องการ) ผมก็เลือกเท่าที่จะมีให้เลือกครับ ซึ่งส่วนตัวแล้ว ผมจะชอบกินอะไรที่เกี่ยวกับ chocolate ก็จะเลือกอะไรแต่ chocolate ครับ แต่เนื่องจาก พนักงานร้านจะไม่ทำการ pack แยกครับคือ ถ้าหากว่าจะซือ้เป็นราคา pack แบบ 12 ชิ้นก็ต้องเอากล่องเค้ากล่องเดียว จะแยกกล่องออกมาไม่ได้ แต่ว่าผมอยากจะแยกนี่หน่า ทำยังไงได้ ก็ต้องเอากล่องของเค้าแล้วก็มา packing กันเองอีกทีครับ โดยเอาถุงพลาสติกมาแยกใส่อีกทีหนึ่ง แต่ก็พบเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมากอยู่ประการก็คือ การ packing นั้นมีผลต่อภาพลักษณ์ของสินค้าอย่างน่าตกใจมากๆ
ถ้าหากว่าคุณดูภาพด้านบนจะเห็นได้ว่าผมเอา Donut ประมาณ 6 ชิ้นใส่เข้าไปในถุง plastic แบบไม่มี logo หรือยี่ห้อปะหน้าแต่ประการใด ถุงจะเป็นสีเหลืองๆ เหมือนกับร้านของปาท่องโก๋ทั่วไป ทำให้เมื่อเอาโดนัทใส่เข้าไปแล้ว มองไม่ออกว่ามันคือโดนัทอีกต่อไป ไม่มียี่ห้อบอกว่าน่าคือโดนัทยี่ห้ออะไร ไม่มีแม้กระทั่งบอกว่า มันคือโดนัทที่ทุกคนต้องมาต่อคิวซื้อกัน (แม้ว่าจะแค่สิบห้านาทีเท่านั้นก็ตามที) แล้วที่มากกว่านั้นมันมองเหมือนกับ "ปาท่องโก๋" ทุกประการ เมื่อเปิดถุงมอง donut เหล่านั้นจาก TOPVIEW เข้าไปในถุงที่จะเห็นเนื้อแป้งกองๆอยู่ มองยังก็มองไม่ออกว่าเป็นโดนัทครับ ความหรูหรา ดูดีมีราคาตกลงอย่างน่าตกใจ ผมก็เลยไม่แปลกใจนักหรอกครับว่าทำไมเค้าไม่แยกกล่องหรือว่าใส่ถุงอะไรก็ได้มาให้ผมตอนที่ผมขอพนักงานเค้าให้แยกถุงมาให้ (เค้าก็แค่บอกผมไม่มีถุงแยกเท่านั้นเองล่ะครับ)
เมื่อคิวสั้นลง ทำให้กลุ่มคน กลุ่มที่สองที่ไม่อยากรอคิวอะไรนานเกินไป (30 – 60 นาทีผมว่ามันนานเกิน) เข้ามาต่อคิวแบบนี้ ทำให้คนกลุ่มใหม่นี้ได้ทดสอบ ทดลองกินกันครับ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามคาดครับ คือ คิวจะต้องสั้นลงเรื่อยๆ ลงไม่เหลือคิวเพื่อที่จะซื้อ ถ้าหากว่าทางร้านไม่ได้กำหนดให้มีการผลิตที่หน่วงคนให้เข้าคิวไว้ เพราะ การมีคิวนั้นเป็นเรื่องที่ทำให้ดึงดูดคนเข้าร้าน หากว่า การ packing เลือกโดนัท ทำได้เร็ว จะทำให้คิวสั้นเหลือเสียจนหน้าร้านไม่น่าสนใจได้ครับ แต่ผมว่านะสักวันร้านโดนัทร้านนี้ก็จะต้องเหมือนกับร้านอื่นๆ เพราะ รสชาติก็ไม่ได้ดีเด่นเป็นพิเศษอะไร แค่ว่าเป็นเรื่องกระแสความบ้าเห่อของคนกรุงฯเท่านั้นเองครับ แล้วผมจะรอดูร้านโดนัทร้านนี้ว่าเมื่อไหร่ waiting time ของร้านจะเข้าใกล้ศูนย์ครับ