แต่ก่อนถ้าหากว่าคุณจะอวยพรปีใหม่ระหว่างกัน คุณสามารถที่จะทำได้แค่ไม่กี่ทางเท่านั้น คือ การโทรไปหา หรือส่ง SMS หรือที่แพงกว่านั้น (แต่แสดงความจริงใจมากกว่าแบบอื่น) ก็คือ การซื้อ กระเช้าและเดินทางไปหา
แต่สำหรับสมัยนี้เรามีการสื่อสารประเภทอื่นๆที่เมื่อหลายปีก่อนไม่มี ไม่ว่าจะเป็นการส่ง Message ผ่าน Facebook หรือ การข้อความผ่าน Line หรือผ่าน Whatsapp แบบส่งทีเดียวได้กันหมดทุกคน มันเป็นการทำให้ต้นทุนในการแสดงความคิดถึงหากันนั้นต่ำเท่ากับ 0 กันเลยทีเดียวครับ
ผลที่เกิดคือ
1. คุณได้รับข้อความจะคนที่ปกติแล้ว เค้าก็แคร์คุณอยู่แล้วผ่านช่องทางใหม่ๆ
2. คุณจะได้รับความจากคนที่เค้าทำตามธรรมเนียมและเลือกคุณเพื่อให้ได้รับข้อความปีใหม่เหล่านั้น
เนื่องด้วยเหตุผลเดียว คือ “การส่งข้อความมีต้นทุนต่ำเหลือ 0 และแค่ออกแรงพิมพ์เนื้อความ หรือแม้กระทั่ง copy เนื้อความอวยพรปีใหม่น่ารักๆที่คนอื่นส่งมา หรือแม้กระทั่งทางศูนย์โทรศัพท์เองก็ส่งมาเพื่อให้คนส่งต่อ (ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มยอดการส่ง SMS ซึ่งเป็นอะไรที่ทางโทรศัพท์ได้กำไรมากสุดๆแล้ว เพราะแทบไม่มีต้นทุนเพื่อให้บริการใดๆเหมือนกัน)”
สำหรับร้านค้าธุรกิจยังคงเลือกที่ส่งด้วยวิธีการแบบเดิม !
ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ “ร้านค้าธุรกิจที่ติดต่อกับเป็นประจำ” ยังคงเลือกที่จะส่งการ์ดอวยพรประเภท สคส. เหมือนเดิม และยังคงเข้าเยี่ยมลูกค้าระหว่างกันแบบเก่า ซึ่งมันก่อให้เกิดโอกาส การเข้าพบพูดปะแบบเห็นหน้าเห็นตา และเป็นโอกาสที่เอาของหรือกระเช้ามาให้ด้วย และ Business to Business แบบนี้ก็ไม่เลือกที่จะส่งเป็นข้อความผ่านอุปกรณ์ electronics internet online แบบที่ส่วนตัวใช้กัน (แบบต้นทุน 0)
เหตุผล ?
การติดต่อค้าขายระหว่างกันแบบ B2B นั้น โดยปกติแล้ว sales 1 คนจะไม่ได้ติดต่อกับลูกค้าจำนวนมาก หรือ อยู่ในพิสัยที่เยี่ยมแวะหากันได้ โดยพนักงานหรือทีมขายเหล่านี้ ปกติจะต้องไปติดต่อลูกค้าอยู่แล้วเป็นประจำ และนั่นก็เป็นหน้าที่ปกติที่จะต้องเข้าพบลูกค้าเพื่อ update สถานการณ์ความเป็นไป สภาพความอยู่ดีมีสุขของลูกค้าทั้งกายภาพและการเงิน การเข้าพบจึงได้อะไรมากกว่าที่ ได้พูดจาปราศัยเห็นหน้าเห็นตากันเพื่อเล่าสารทุกข์สุขดิบ หรือจะได้มากกว่านั้นก็คือ โอกาสขายสินค้าอื่นๆเพิ่มเติม หรือ เพื่อที่จะได้นัดหมายเพื่อสำเสนอสินค้าตัวใหม่หรือคาดว่าน่าจะออกของปีต่อไปได้อีกด้วยเป็นของแถมสำหรับเข้าพบปะพูดคุยกันแบบ Live Face to Face ครับ