นอกจากนี้ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ระดับของจอมันไม่ได้เหมาะกับระดับหัวของคนใช้งานเอาซะเลย ไม่ว่าด้งยเหตุผลอะไรก็ตาม เช่น เค้าไม่ได้ใช้ monitor ทีมันปรับเงยได้ หรือว่าจอมันตั้งเอาไว้ไกลเกินไปติดปลั้กไฟ เอามาใกล้ให้เหมาะหรือถนัดเราไม่ได้ หรือว่าเป็น Monitor ทีมีการออกแบบมาให้ฝังไว้ใต้โต้ะเพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่ก็ตามที จะเห็นได้ว่าตัวแปรพวกนี้เป็นตัวแปรที่เราควบคุมและปรับเปลี่บนมันไม่ได้เอาซะเลยครับ หากว่าการปรับระดับของ keyboard ไม่เหมาะสม และยังไม่มีที่รับแรงแขนพาดไปที่แขนเก้าอี้ได้ และ หน้าจอก็ไม่ได้ถูกกะระดับสายตาเราเท่าไหร่สัก ความกดดันของกล้ามเนื้อน่าจะกระทบไปสองส่วนหลักๆ ก็คือ ช่วงหัวไหล่ และต้นคอครับ อาการอาจจะไม่รู้หรือดูไม่ออกว่ามันเป็นเพราะเจ้าสาเหตุของการใช้คอมที่ไม่เหมาะสมนักนี้ มันก็จะสะท้อนออกมาราวกับว่า เรานอนตกหมอนครับ ผมเคยเป็นมาแล้วครับ ผมถึงรู้ว่านี่มันเป็นเพราะการใช้งานคอมต่างหาก นอกจากนี้ผมยังได้ยินจากคนอื่นเค้าเล่าเรื่องที่พนักงาน programer คนหนึ่ง เค้าเป็นคนทีทำงานอย่าเดือดมาก และไม่ได้สนใจที่จะดูแลตัวเองเอาซะเลย ทำให้เค้าเกิดอาการปวดคอ จนสุดท้ายเป็นอาการเรื้อรังและต้องรักษา และออกจากบริษัทไปในที่สุดครับ เรื่องมันก็ดูน่าเศร้าอยู่เพราะว่าเราไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยสักนิด
เมื่อไม่นานมานี้น้องสาวผมก็บอกผมว่า เค้าเริ่มปวดคอๆเหมือนกัน ผมก็บอกเค้าไปว่า เอ.. นี่มันเป็นอาการของการใช้คอมไม่ถูกหลัก แล้วนะ แล้วก็แนะนำไปว่า จะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุได้อย่างไรบ้าง
ดังนั้นหากว่ามันทำการปรับระดับปรับแก้อะไรไม่ได้ตามที่ผมบอกมา ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ .. สิ่งที่ทำได้คือ ออกกำลังส่วนนั้นๆให้แข็งแรงเพื่อรับงานหนักนี้ให้ได้ครับ การออกกำลังส่วนหัวไหล่ โดยการยกตุ้มน้ำหนักกางแขนออกไปให้สุดแล้วยกขึ้นลงทางด้านข้าง ด้านหน้า และยกตุ้มนำหนักชูขึ้นฟ้าคือสามสิ่งที่ผมทำเพื่อให้หัวไหล่และต้นคอรับแรงได้มากชึ้น และสำหรับผมแล้วผมเห็นว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ เพราะหากว่าไม่ทำนานๆเข้า อาการก็จะสะท้อนผ่านการนอนเหมือนอาการตกหมอนได้ แล้วกว่าจะหายก็เจ็บปวดไปหลายวันครับ ไม่คุ้มกันเลยระหว่างอาการที่มันเป็นกับการแค่ออกกำลังกันเอาไว้ก่อนครับ ยังไงผมคงบอกให้ทำไม่ได้หากว่า อาการปวดนี้ไม่ได้ไปเจอกับคัวเองน่ะครับ ขอให้โชคดีแล้วกันครับชาวโลกคอมพิวเตอร์