rackmanagerpro.com

ทำไมโควิดทำให้เรากลัวโรค NCD และรักสุขภาพมากกว่าเดิม

โควิดเป็นโรคอย่างหนึ่งเหมือนเป็นไข้หวัดใหญ่ปกติเว้นแต่ว่าเชื้อมีโอกาสลงปอดและทำลายปอดได้ด้วยซึ่ง มันเป็นการตัดเส้นทางลำเลียงอากาศและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากที่สุด หากว่าโรคเล่นงานระบบทางเดินหายใจระดับถึงปอดแบบนี้ และ ทำให้ข่าวสารก็ออกมาว่า หากว่าคนที่เป็นคนที่เสี่ยงเสียชีวิตหรือคนที่เสี่ยงที่จะมีอาการหนักหากว่าติดโควิดแล้วคือคนที่เป็นโรค NCD กันทั้งหมดทั้งสิ้น (และคนที่เป็นคนสูงอายุมากกว่า 60 ปี) 

นั่นก็เป็นเหตุว่าทำไม คนจะต้องมากลัวโรค NCD กันเพราะข่าวสื่อสารออกมาเป็นแบบนั้น 

รู้หรือเปล่าล่ะว่า โรค NCD พวกนี้เป็นโรคที่คนนิยมเป็นกันมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับโรคที่ได้รับโหวดให้ความนิมยมจาก Life style คนที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และ มันเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนอยู่แล้วทุกวี่วันอย่างไร้การปราณีและไร้การประกาศกร้าวให้คนกลัว แต่พบว่าเป็นเรื่องประหลาดมากที่หลายคนรอบตัวจะบอกว่า โรคเหล่านี้เป็นผลจากพันธ์กรรมและอื่นๆ หาใช่ Life Style หรือการกินอยู่ไม่่ ซึ่งสำหรับการแพทย์ยุคนี้แล้วนั้น กลับบอกตรงข้ามกับสิ่งที่เราโดนบอกต่อๆกันมา เพราะ แท้จริงแล้ว โรค NCD นั้นกลับเกิดจากพฤติกรรมการกินอยู่เกือบจะทั้งหมด 

เคยสงสัยไหมว่า แต่ก่อนทำไมคนไม่กลัวโรค NCD กันล่ะ ?

อย่าว่าแต่แต่ก่อนเลย (ก่อนโควิด) คนไม่เคยกลัวอะไรเรื่องพวกนี้ เพราะ คิดว่าเป็นเรื่องสะสมระยะยาว และ ผลลัพธ์นั้นไม่แน่นอนกว่าจะเกิดก็อีกนานอะไรพวกนี้ คิดเหมือนกับสารเสพติดเลย ว่า เรากินเหล้าเมายา หรือดูดบุหรี่ก็กว่าจะเกิดผล มันเป็นผลสะสม และ มันสะสมนานกว่าจะเกิดปัญหา แล้วเกิดปัญหาก็มาหยุดเอาก็น่าจะได้ (มั้ง) ก็คิดกันแบบนี้ คนก็ไม่คิดว่าจะต้องกลัวอะไรและมันก็เหมือนกับโรคระบาด แม้นว่า ชื่อมันจะก็บอกว่า มันไม่ระบาดหรือไม่สามารถติดต่อกันได้ทางกายภาพ แต่ แท้ที่จริงแล้ว มันกลับติดต่อกันได้จากพฤติกรรมของคนรอบตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้โควิดขึ้นรายชื่อมาเลยว่า โรคทั้งความดัน เบาหวาน และ โรคอ้วนนั้น ถือว่าได้ทำให้คุณมีโอกาสตายมากกว่าคนสุขภาพปกติมากๆ เรียกได้ว่า จัดเข้าไปเป็นกลุ่มเสี่ยงกันเลยสำหรับสถานการณ์โรคระบาดอะไรแบบนี้ และ นั่นก็เป็นเหตุหลักว่า ทำไมคนถึงได้รู้ตัวอีกทีว่า มันทำให้คนเราตายได้ง่ายขึ้นแบบตรงไปตรงมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คนเราไม่อยากจะเข้าไปเป็นกลุ่มเสี่ยง(ตาย)หากไม่จำเป็น ดังนั้นแล้ว หากเขาเหล่านั้นรู้ว่า มันไม่ได้เป็นโรคพันธุกรรม หรือ เป็นโรคสืบทอดมรดก และ มันแก้หรือป้องกันไม่ให้เกิดได้แล้วล่ะก็ คนเหล่านั้นก็จะเริ่มมีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพของตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

ต้นตอของโรค NCD เกือบทั้งหมดเกิดจากเรื่องการกินน้ำตาล

น้ำตาลเป็นต้นเหตุของ NCD ที่มีความสัมพันธ์ต่อการตายโดยตรงจากสถิติ

แทบไม่เคยสังเกตกันหรอกว่า เรากินอาหารได้แย่แค่ไหน และ อุตสาหกรรมอาหารนั้นโหดต่อประชากรมากเพียงใด เรียกได้ว่า ไม่เคยปราณีเพราะ ต้องการเพียงเงินรายได้หมุนเวียนเท่านั้น โดยเน้นการทำให้อาหารนั้นอร่อยเหลือล้ำด้วยกระบวนการที่ไม่ได้เป็นมิตรต่อสุขภาพ ใช่แล้ว มันไม่ได้เป็นมิตรกับสุขภาพเอาเสียเลย เช่น ออกสินค้าน้ำหวานผสมรสชาติออกมาให้เด็กดื่มกินกัน ออกอาหารขนมเกลือเข้ามาให้เรากินเล่นกัน หรือแม้กระทั่งออกอาหารสำเร็จรูปที่ใส่น้ำตาลเป็นปริมาณมาก มากกว่าที่คนหนึ่งคนจะกินได้ในหนึ่งวัน แล้วอัดมาในบรรจุภัณฑ์หนึ่งหน่วยให้เราเอามากินกัน แปลความได้ว่า เขาเหล่านั้นไม่ได้แคร์หรอกว่า คนซื้อกินเข้าไปแล้วจะยินดียินร้ายอะไร ขอเพียงอย่างเดียวว่า ถ้าหากว่ามันอร่อยแล้วคุณซื้อมัน เรื่องก็จบ ได้เงินเข้ากระเป๋า และ คนกินได้เสียเงินและได้อร่อยดื่มด่ำกับรสชาติหวานเค็มมันเหล่านั้นได้อย่างไร้ความกังวล (เพราะไม่เคยคิดอยู่แล้วว่าจะต้องระวังอะไร แอบคิดอีกว่าคนออกแบบอาหารน่าจะต้องออกแบบมาเพื่อให้คนกินได้ซิเค้าถึงมีขายกันอย่างงี้) หารู้ไม่ว่า อาหารเหล่านั้น ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้คนกินได้อย่างมีสุขภาพดีแม้แต่น้อย ! 

เรื่องง่ายที่สุดที่คุณอาจจะเริ่มสังเกตได้ด้วยตัวเอง คือ ปริมาณน้ำตาล! ซึ่งมันมากเกินกว่าที่ คุณจะกินได้ในหนึ่งวัน เช่น ปกติแล้ว คนธรรมดาที่เป็นผู้ใหญ่ทำงานทำการ แล้วก็จะกำนดให้กินน้ำตาลต่อวันได้ไม่เกินกว่า 25-30 กรัมก็มากแล้ว แต่หากมองไปที่ฉลากคุณค่าทางอาหารแล้ว เราจะพบได้ว่า ถ้าหากว่ากินหมดกระปุกเล็กๆที่ถือเอาไว้อยู่ น้ำตาลก็เกินแล้ว กินอย่างอื่นไม่ได้แล้วอะไรทำนองนั้น 

แล้วทำไมต้องแคร์น้ำตาลกันด้วยล่ะ? คุณอาจจะคิดอย่างงั้น ก็มันหวาน มันก็อร่อยดีนี่หน่า เด็กๆก็กินขนมก็กินน้ำตาลได้นี่หน่า ถ้าหากว่ามันแย่มาก ทำไมเด็กกินได้ล่ะ คำตอบ คือ เด็กจริงๆไม่ควรกินต่างหาก เราได้รับสื่อทางการตลาดว่าให้เด็กกินได้แต่นั่นมันเป็นสารเสพติดและพิษต่อระบบหลอดเลือดโดยตรงของสัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ น้ำตาลนี่แหละ คือ ตัวการที่แท้จริงทั้งต้นเหตุของเบาหวาน ความดัน และ ไขมันในเส้นเลือดทั้งหมด ก็เริ่มจากน้ำตาลทั้งหมด ! หากคุณคิดว่าอยากจะตัดอะไรออกไปจากชีวิตเพื่อให้คุณมีโอกาสรอดตายเมื่อติดโควิดแล้ว แนะนำอย่างมากเลยแหละที่ให้คุณเลิก “น้ำตาล” ออกจากอาหารทั้งหมดให้จงได้ อย่าคิดประณีประนอมกับการบริโภคน้ำตาลทีเดียวเชียว 

ทำไมไม่เคยรู้ล่ะว่าน้ำตาลเป็นผลร้ายต่อร่างกายเรามากขนาดนี้ ? 

เพิ่งไม่นานมานี้ต่างหากที่รู้กลไกการทำงานของน้ำตาลในระบบสมอง การหลั่งอินซูรินและการเป็นต้นเหตุของเส้นเลือดอุดตันไข้มัน และ การสะสมของไขมัน เพราะ ไม่มีคาดเดาได้หรอกว่า ก็แค่กินหวาน กินน้ำตาลปกติแล้ว มันดันไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดของสุขภาพได้มากมายเพียงนี้ เราแทบคิดไม่ออกหรอก เพราะ มันฟังดูไม่ make sense ไม่สมเหตุสมผลอะไรเลยว่า น้ำตาล มันจะไปเกี่ยวกับเรื่องไขมันอะไรได้อย่างไรกัน มันก็เป็นแค่สารเสริมรสมิใช่หรือในมุมมองของคนปกติทั่วไปก็เท่านั้น วงการแพทย์สมัยใหม่ (ใหม่ระดับสามปีหน้าปีนี้เลยก็ว่าได้) มันค้นพบกลไกเหล่านี้แล้ว และ ผนวกกับคนที่ตายด้วยโรคเหล่านี้ดันมีความสัมพันธ์เชิงสถิติ co-relation กันอย่างตรงไปตรงมา ระหว่างคนที่เป็นโรคและปริมาณน้ำตาลเฉลี่ยต่อคนที่บริโภค แทบไม่ต้องมองอะไรเรื่องอื่นเลยก็ว่าได้ ใช่แหละ ความสัมพันธ์เชิงสถิตินั้นสามารถสื่อความได้ แต่มันไม่ได้มีหลักฐานว่า “ทำไม” จนกระทั่งไม่นานมานี้อย่างที่บอกว่าสามถึงห้าปีที่ผ่านมาถึงได้รู้กลไกแบบครบถ้วนสมบูรณ์ทำให้มั่่นใจได้เลยว่า น้ำตาล เป็นตัวก่อโรค NCD แบบเป็นต้นเหตุของสาเหตุ และ เหตุปัจจัยของโรคเกือบทั้งหมดที่ว่ามา 

สรุปง่ายๆเป็นว่า หากคุณกลัวตายจากการติดโควิดให้ลดน้ำตาล(แป้งก็อยู่หมวดเดียวกัน)ลดไปให้ได้มากที่จะทำได้ แล้วน้ำหนักก็จะลดเป็นผลสะท้อนที่คุณสามารถชั่งตวงวัดได้ด้วยตัวคุณเองที่บ้านแบบง่ายๆ เมื่อน้ำหนักแล้ว เหตุการณ์ผลพวงอื่นๆก็จะดีขึ้นตามมาเอง ซึ่งหวังว่า บทความสั้นๆนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณเริ่มเลิกน้ำตาลและ ยังผลให้เกิดสุขภาพที่ดีได้ในที่สุดต่อไป

Exit mobile version