รีวิวขั้นตอนการเรียกรถและใช้ฟังก์ชั่นต่างๆในแอพ UBER

uber Thailand app review

วันนี้พอมีเวลาว่างๆ หลังจากนั่งเล่นอยู่บ้านได้สักพักเลยอยากจะเอาหน้าจอที่ capture มาตอนที่เรียก uber มาเล่าให้ฟังแบบ review การใช้งาน uberกันแบบละเอียดเสียหน่อยว่าใน app ของ uber นั้นมันมีอะไรให้ใช้หรือว่ามี function ลูกเล่นอะไรมั่ง สำหรับคนที่ไม่เคยใช้จะได้กดตามหรือว่าเข้าใจว่ามันใช้ไม่ยากอย่างที่คิดแต่อย่างใด ไม่ต้องกลัวว่าเราจะเรียกผิดเรียกถูกหรอกครับ เพราะสุดท้ายแล้ว ในแอพนี้จะมีฟังก์ชั่นเพื่อให้เรากดติดต่อคนขับรถของ uber  คนที่จะมารับเราได้อยู่ดี แต่ว่าจะทำอย่างไรนั้นมาดูกันเลยดีกว่า

ผมคิดว่า คุณสามารถ download Uber App ใน iPhone หรือว่าใน Android phone กันเป็นแล้วน่ะครับ ก็จะไม่ลงรายละเอียด หรือถ้าหากว่าลงไม่เป็นนี่แนะนำว่าให้ google หาวิธีการลงแอพทั่วไปดูก่อนว่ามันลงยังไง เพราะในบทความนี้จะไม่มีรายละเอียดเรื่องการลงแอพให้น่ะครับ มันเป็นเรื่องพื้นฐานเกินไปครับ ที่สามารถจะถามร้านค้าขายมือถือ หรือถามเพื่อนๆพี่ๆน้องๆได้ไม่ยาก และ หากว่ายังไม่ได้สมัครบัญชี uBer แนะนำให้สมัครแบบมี promotion code เพื่อให้ได้เครดิตมานั่งฟรี 300 บาท โดยการกดสมัครได้จาก link นี้

https://uber.com/invite/uberget300FreeRide   หรือกรอกรหัส promo code : uberget300freeride” 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมจะเริ่มคือ คุณกดเข้ามาที่หน้าแอพของอูเบอร์แล้วกันน่ะครับ เมื่อคุณกด uBer App จะเห็นเป็นภาพด้านล่างหลังจากที่มันโหลด program และค้นหาพิกัดของตัวคุณได้แล้ว จะมีหน้าตาเหมือนกับภาพแรก ด้านล่างนี้ครับ คือ จะมีเครื่องหมายเหมือนกับนาฬิกาหมุน ๆ ไปเรื่อยๆ และถ้าหากว่ามันหมุดแล้ว ไม่หยุดเสียที แสดงว่าคุณอยู่นอกพื้นทื่การให้บริการรับของ uber ครับ หรือว่า ตอนนั้นไม่มีรถอูเบอร์เหลือในพื้นที่ของคุณอีกแล้ว  เพราะถ้าหากว่ามีรถพร้อมที่จะรับคุณอยู่ใกล้ๆไม่เกิน สาม สี่กิโลเมตร ที่ตรงที่มันหมุนๆ มีเป็นเวลาหน่วยเป็นนาที แสดงให้เห็นว่าถ้าหากว่าคุณกดเรียกรถตอนนี้ จะมีรถมารับคุณในอีกกี่นาที(ถ้ารถไม่ติด) นอกจากนี้แล้ว คุณสามารถเลื่อนหมุดสีเขียวๆได้ว่า คุณต้องการจะให้เรียกรถไปที่ตำแหน่งใดในแผนที่ กทม. นี้โดยการเลื่อนแผนที่ไปเรื่อยๆ เพราะหมุดจะอยู่ตรงกลางหน้าจอตลอดเวลาครับ ตำแหน่งของหมุดนั้นจะแสดงที่หน้าจอของคนขับรถ เพราะอย่างงั้นแล้ว ให้แน่ใจหน่อยว่าตำแหน่งหมุดสีเขียวนี้คือตำแหน่งที่่คุณต้องการให้ uber เค้ามารับจริงๆครับ แน่นอน่า ตำแหน่งที่เรียกนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นตำแหน่งพิกัดที่คุณอยู่ก็ได้ครับ

วิธีการเรียกรถใน uber application

เราสามารถกดดูอัตราค่าโดยสารตอนนั้นได้ว่า ถ้าหากว่าเราเรียกรถอูเบอร์มันตอนนี้จะเสียค่าใช้จ่ายอะไรเท่าไหร่ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน โดยการกดที่รูปรถสีน้ำเงินด้านล่างของหน้าจอเท่านั้นเอง แต่ว่าถ้าหากว่าคุณไม่ได้แคร์เรื่องราคาอัตราค่าโดยสารของอูเบอร์อยู่แล้ว แล้วคุณกดเรียกรถมันก็จะแสดงราคาอัตราค่าโดยสารให้คุณเห็นอยู่ดี เพราะ มันเหมือนกับว่าเป็นกฏหมายอะไรสักอย่างว่า คุณจะเสียเงินต้องรู้ว่าจะเสียเงินด้วยอัตราเท่าใดกันแน่ เพื่อความชัดเจนระหว่างคนนั่งและคนขับรถที่จะต้องไม่เกิดปัญหาในภายหลัง

ราคามีความผันผวนแปรปรวนเรียกว่า Surge Pricing

สำหรับบางครั้งค่าโดยสารของอูเบอร์มีการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลง (การลดลงนั้นถือว่าเป็นโปรโมชั่น) แล้วแต่ว่าทางอูเบอร์ตอนนี้ใช้หลักการอะไรมาวิเคราะห์ว่า มันจะแพงขึ้นกี่เท่า เช่น ตอนเย็นๆ ห้าหกโมงแล้วฝนตกหนัก หรือว่าคนเรียกกันเยอะในพื้นที่เขตใจกลางเมือง อูเบอร์จะคิดเงินเพิ่มประมาณ 1.25 ถึง 1.5 เท่าจากราคาปกติที่แพงกว่าแท็กซี่อยู่แล้ว ให้มันแพงขึ้นไปอีก โดยการคูณจำนวนเท่าของราคานี้จะไปคูณเฉพาะค่าเสียเวลาในการเดินทาง คือ บาทต่อนาที ที่จะเพิ่มขึ้น และ อีกส่วนคือ บาทต่อกิโลเมตรที่จะเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเดียวกัน เช่นเดียวกัน เหมือนกับภาพด้านล่าง คือ การเรียกรถหน้ามาบุญครองเพื่อที่กลับบ้านในเวลาเย็นวันธรรมดา แน่นอนว่าเป็น rush hour สำหรับคนเมืองนั่นเอง (แอบฟันกำไรให้มากขึ้นก็ตรงนี้น่ะหละ) สำหรับเงินที่เอาไว้ขึ้นทางด่วนจะไม่มีการโดนคูณเข้าไปด้วยแต่อย่างใด

ราคาที่ผันแปรได้แบบนี้เหมือนกับเป็นการต่อรองระหว่าง คนเรียกรถ และระบบของอูเบอร์เพราะหลักเกณฑ์นั้นไม่แน่นอนและไม่มีการประกาศออกมาว่า เอาอะไรมาคิดกันแน่ เหมือนว่าไม่มีเหตุผลว่าจะเรียกราคาให้มากขึ้นนั้นตอนไหนอย่างไร แต่มันมีเหตุผลอันหนึ่งที่น่าจะทำให้คนเรียกรถเข้าใจได้ คือ รายได้ของคนขับ ถ้าหากว่ามีการปรับราคาหรือตัวคูณที่มากขึ้นจะทำให้คนขับรถได้เงินมากขึ้นตามไปด้วย และ จะทำให้เหมือนกับว่าเป็นการเรียก คนขับรถให้ออกมา online เพื่อรับผู้โดยสารที่มากขึ้นด้วยอัตราค่าโดยสารที่น่าจูงใจกว่านั่นเอง เหมือนกับ supply demand ที่จะทำให้ balance สมดุลกันได้ด้วยการเรียกอัตราค่าโดยสารที่ยึดหยุ่นนี้เอง

Uber User Tips : ถ้าหากว่าคุณกดเรียกแล้ว ไม่มีรถมารับหรือ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่บริการ (มันจะไม่มีตัวเลขนาทีแสดงให้เห็นในแอพ) ให้ทำตามวิธีการติดต่อพนักงาน uber ผ่านการโทรคุยกัน หรือโทรไปที่เบอร์ของพนักงาน uber ได้โดยตรง 

surge-pricing-uber ทำให้ราคาอัตราค่าโดยสารผันผวนในช่วงทีมีคนเรียกใช้บริการมาก

ที่ภาพด้านบนนั้นจะเป็นภาพตัวอย่างว่า ถ้าหากว่ามีการขึ้นราคาตอนที่เรากดเรียกจะแสดงเหมือนกับภาพด้านบนนี้ให้เราเห็นและ แน่นอนว่าถ้าหากว่าคุณอยากจะยังนั่งรถอยู่ ก็ต้องกด “I accept higher fare” หรือถ้าหากว่าคุณยังพอมีเวลาหน่อยไม่ได้รีบเดินทางไปไหน อาจจะเลือก “Notify me if surge ends” คือ กดปุ่มนี้ไปแล้ว จะไม่มีการเรียกรถใดๆ แต่ว่าระบบจะเตือนเราถ้าหากว่า ราคากลับมาอยู่ในสภาวะปกติ (แต่ว่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อาจจะเป็นสองชั่วโมงหลังจากนั้นก็ได้ แม้นว่าด้านล่างจะเขียนว่าอัตราค่าโดยสารนี้จะหมดอายุในอีกสองนาทีก็ตาม)

หากคุณกดเรียกรถแล้ว หน้าตาของแอพ uber  แสดงเหมือนภาพด้านล่าง คือ แสดงนาทีที่รถกำลังจะมารับ เช่น 6 นาที (ถ้าหากว่ารถไม่ติดเกินความคาดหมาย) และ จะแสดงตำแหน่งพิกัดของรถให้เราเห็นอีกด้วย (ในรูปจะมีรถดำๆให้เราเห็น) และแจ้งเราว่า “Driver is arriving now” หรือแปลไทยได้ความว่า “คนรถส่วนตัวของคุณกำลังเดินทางารับคุณอยู่น่ะครับ” หน้าที่ของเราเหลือแค่รอเท่านั้นเอง หรือว่าถ้าหากใกล้ๆแล้ว คนรถอูเบอร์ จะติดต่อมาที่เบอร์โทรขอเราที่เคยกรอกเอาไว้ตอนสมัคร uber account ใหม่ครับ

3-driver-coming-uber

คุณสามารถโทรคุยกับพนักงานขับรถ UBER ได้

นอกจากไปจากนี้ถ้าหากว่าคุณไม่แน่ใจว่าคนรถ uber จะเดินทางมาหาคุณถูกมั้ย หรือคุณสามารถโทรหาคนรถอูเบอร์คันที่กำลังจะมารับคุณได้ โดยการกดไปที่ปุ่ม ลูกศรชี้ขึ้นด้านขวาล่างของหน้าจอ (ข้างชื่อคนขับรถ) แล้วมันจะแสดงภาพให้เราเลือกต่อเหมือนกับด้านล่าง ให้เราเลือก contact driver แล้ว จะมี option ให้เราเลือกต่อว่าจะ sms หรือว่าจะโทรเอา ให้เลือก CALL DRIVER แล้วมือถือของคุณจะติดต่อไปยังเบอร์ของคนรถ uber ทันที ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ที่คุณใช้อยู่ แน่นอนว่า แบบนี้เราจะมีเบอร์เก็บแสดงไว้ใน recent call หรือรายการคนที่เราเพิ่งติดต่อแล้วล่ะครับ (ให้เก็บเบอร์นี้เอาไว้ด้วยเพราะครั้งหน้าถ้าหากว่าคุณจะขึ้นรถเวลาเดิม หรือ อยากจะนัดหมายคนรถให้มารับสถานที่อื่นๆพิเศษตามเวลาที่อยากนัดหมายเอาไว้ก่อน สามารถติดต่อพนักงาน uber ที่ขับรถพวกนี้ได้โดยตรง ไม่ผิดกฏของทาง uber แต่อย่างใด เพราะถือได้ว่าเป็นบริการที่ทำให้คนนั่งหรือ user ประทับใจและมองว่าเป็นบริการที่ดีขึ้นไปอีกระดับ และ user พอใจกับคนรถคนที่เคยนั่งแล้วนั่นเอง)

uBer Pro Tips : บอกว่าคุณใส่เสื้อสีอะไรยืน และยืนตรงไหน โดยการอ้างอิงอาคารสถานที่โดยรอบให้ชัดเจน จะทำให้คนรถมารับคุณได้สะดวกและแม่นยำขึ้น อย่าคิดว่า มีพิกัดแล้วจะเพียงพอ แน่นอน่วา มันก็ใช้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าคุณอยากจะทำให้มั่นใจมากกว่านั้น ให้คุยกันบอกจุดเด่นของสถานที่ด้วยจะดีที่สุด และ ให้คุณสอบถามด้วยว่า รถป้ายทะเบียนเขียว จะเป็นรถสีอะไร เพื่อให้เราสังเกตได้เมื่อรถมาถึง มันไม่ได้จำเป็นต้องมีสีดำเสมอไป เพราะยอ่างตัวอย่างที่ผมทดสอบการใช้งานนี้ มันเป็นรถสีขาวครับผม

cancel-contact-driver

จากภาพ capture หน้าจอด้านบนนี้ คุณสามารถยกเลิกการเรียกรถครั้งนั้นได้ หากว่าคุณกดเรียกรถแล้วไม่เกิน 5 นาที (มันไม่มีตัวนับเวลาบอกที่หน้าจอใดๆ) และมันเป็นสิทธิ์ของคนเรียกรถ และ คนขับอยู่แล้ว ! ที่ยกเลิกแล้วจะไม่เสียเงินแต่อย่างใด กรณีของคนขับ uber ที่คุณยอมรับได้น่าจะมีแค่กรณีเดียว คือ พนักงานขับรถเหล่านั้นยังอยู่บนทางด่วนหรือสะพานอะไรสักอย่างแต่ว่าดันมาอยู่ใกล้กับตำแหน่งปักหมุดที่เราต้องการให้ uber มารับ แน่นอนว่า คนที่ติดต่อมาจะยกเลิกไม่ได้เป็นเราแต่ว่าเป็นคนขับรถของอูเบอร์แทน เพราะทั้งนี้ ปุ่มยกเลิกอยู่ที่หน้าจอในโทรศัพท์เราเท่าน้ัน พนักงานขับรถพวกนี้จะยกเลิกเองไม่ได้ ถือว่า online แล้ว และต้องพร้อมที่จะรับคนครับ เมื่อคุณยกเลิกแล้ว (ย้ำกว่ากด cancel trip แบบไม่เกิน ห้านาที หลังกด requests pick up) ให้รอเวลาอีกสักหน่อย เพื่อให้รถคันที่ไม่รับเรานั้นออกจากบริเวณที่ใกล้ที่สุด เพราะ ไม่อย่างงั้นกดซ้ำไปอีก เราก็จะได้รถเดิม และ ก็ต้องมากดยกเลิกกันใหม่อีกน่ะหละครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น การขอยกเลิกโดยคนขับรถอูเบอร์ ต้องถือว่าเป็นกรณีพิเศษ และ จะต้องแทบไม่เกิดขึ้นเลย หรือ บอกได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นเลย เพราะด้วยนโยบายแล้ว พนักงานขับรถจะต้องรับผู้โดยสารเท่านั้น ไม่อาจจะปฏิเสธได้

contact-sms-or-call-driver-uber

เมื่อคุณขึ้นรถแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเปิดแอพ uBer ค้างเอาไว้แต่อย่างใด และ แทบไม่ต้องเปิดมือถือจนเสร็จสิ้นการเดินทางเลยก็ได้ เพราะการเดินทางทั้งหมดไม่ได้โดยบันทึกบนเครื่อง iphone หรือ smart phone ของผู้โดยสารแต่อย่างใด แต่มันบันทึกระยะทางและเวลาด้วย iPad Mini ที่ lock เอาเครื่องเอาไว้ที่รถ uBer นั่นเอง (ipad นี้พนักงานจะไม่สามารถเอามาเล่น cookie run ได้เพราะมันมีการ Lock Program เอาไว้ว่าเปิดแอพอะไรได้บ้าง และ เครื่อง iPad นี้มันทำอะไรได้บ้างเราจะไม่ทราบแล้ว เพราะเป็นเรื่องของทางบริษัท แต่ว่าที่แน่นอนว่า iPsd มันมีรูรับเสียง มีกล้อง และ มีการต่อ internet 3G เอาไว้ตลอดเวลา ให้คิดเอาเองแล้วกันว่ามันทำอะไรได้บ้างจากเจ้าเครื่อง  iPad ที่มีการลงโปรแกรมพิเศษจากทางบริษัทอูเบอร์เอาไว้)

อย่างไรก็ดี หากว่าคุณเปิดแอพ uBer จะเห็นหน้าตาเหมือนกับภาพด้านล่าง คือ มันจะแสดงตำแหน่งพิกัดของรถที่คุณนั่งอยู่ ผมไม่ได้หมายความว่าคุณต้องอยู่ในรถด้วยน่ะครับ ถ้าหากว่าคุณเรียกรถเพื่อให้ไปส่งคนอื่น มันแสดงตำแหน่งของรถที่มารับนั้นต่างหาก เพราะมันไม่ได้เอาพิกัดจากมือถือของคุณมาคิดเงิน แต่มันเอาพิกัดของรถมาคิดเก็บเงินคุณนี่หน่า ไม่น่าแปลกอะไรที่ไม่มีการใช้พิกัดของเครื่องมือถือคุณมาแสดงในแอพ

during-trip-uber ระหว่างการเดินทางจะแสดงพิกัดรถยนต์ตลอดเวลา

SHARE MY ETA ? คืออะไรกันแน่ ?

มีอีก function หนึ่งที่คนธรรมดาจะไม่ได้ใช้กันเท่าไหร่นัก คือ function การใช้งาน share my eta ฟังก์ชั่นนี้ คือการแสดงเส้นทางการเดินทางแบบ realtime ตามจริงไปยังหน้า website โดยมันจะสร้าง link พิเศษขึ้นมาและ เราสามารถแชร์ลิงค์นี้ไปยังคนที่เราอยากให้รู้ว่า เราอยู่ตรงไหนได้ ภาพการ share link เหมือนกับด้านล่างนี้น่ะครับ จะแสดงแผนที่ว่าเราขึ้นมาจากที่ไหน และ รถอยู่ตรงไหนของเส้นทางการเดินทาง (แต่ว่ามันไม่บอกน่ะครับว่าปลายทางจะไปไหน เพราะมันไม่ได้ตั้งค่าการเดินทางเอาไว้ก่อนในแอพว่าจะไปไหน เราแค่ขึ้นรถแล้วบอกคนขับรถด้วยปากเปล่าต่างหากว่าเราจะให้เขาพาเราไปที่ไหน)

เส้นทางการเดินทางด้วย uber ระหว่างการเดินทาง

โดยรวมแล้ว การเดินทาง เรียกรถด้วย uBer จะยังคงมีอุปสรรคอยู่แค่ 2 ประเด็นเท่าที่เห็น คือ

1. ตัวรถเองยังมีไม่มากเท่าที่ความต้องการคนขับอยากจะเรียกแม้นว่าในพื้นที่เขตเมืองเองก็ตามทำให้ช่วงที่คนนิยมเรียกกันเยอะๆ เกิด surge pricing หรือการปรับราคาอย่างก้าวกระโดด ให้เราเห็นกัน และตรรก หรือวิธีการคิดเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องกำกวมไม่สามารถแจ้งเราก่อนหน้าได้ว่าเพราะเหตุใด ถึงมีการปรับราคา หรือถ้าหากว่าเราคาดหวังว่าจะเรียกรถ uBer แล้วเราจะไม่สามารถประมาณค่าใช้จ่ายก่อนล่วงหน้าได้ เพราะ มันไม่ได้มีอัตราที่แน่นอนตลอดเวลา

2. พื้นที่ที่ให้บริการ uber ยังมีเฉพาะใจกลางเมืองมากจริงๆ ที่ถ้าหากว่ารถติดสุดๆ การที่รอรถนั้นจะแสดงนาทีที่ไม่แน่นอนเอามากๆ อันนี้เข้าใจได้ เพราะ การใช้โปรแกรมคำนวณระยะเวลาเพื่อมารับนั้น จะไม่สามารถพิจารณาความผันผวนของ สภาพการจราจรอันหฤโหดในเวลา rush hour ของกรุงเทพมหานครได้เลย ดังนั้นแล้ว มีโอกาสสูงมากที่อาจจะต้องรอนานกว่าที่เป็นจริง นอกเสียไปจากนี้ถ้าหากว่ามันรอนานมากๆแล้ว เราอยากจะเปลี่ยนและ มันเกิน ห้านาทีแล้ว เราไม่อาจจะอเปลี่ยนใจในรูปแบบการเดินทางเป็นแท็กซีที่ผ่านอยู่ตรงหน้าได้ เพราะมันจะเรียกเก็บเงินจากเครดิตการ์ดของเราตามขั้นต่ำที่ได้กำหนดเอาไว้แล้วว่าเท่าไหร่ (อย่างไรก็ดีถ้าหากว่าจะโวยวายสามารถทำได้แต่ว่าต้องติดต่อเพิ่มเติมไปยัง support ของทางอูเบอร์ และแน่นอนว่าทางนั้นเพื่อเป็นการรักษาลูกค้า เนื่องด้วยการรอนานเกินเวลาที่ประเมินเอาไว้มากเป็นความผิดของทางอูเบอร์เป็นหลัก น่าจะได้เงินคืนในส่วนนี้ได้ไม่ยาก หากว่าคุณต้องการและมีเวลา email หรือติดต่อไปยังทีมงานเบื้องหลังบริการนี้ได้)

ยังไงซะผมมองว่าบริการนี้ถือว่าเป็นสุดยอดช่องทางทำมาหากินจากรูโหว่การให้บริการระหว่างการเดินทางแบบเดิมๆ คือ แท็กซี่ และ การบริการแบบพิเศษสุดๆอย่างลีมูซีนตามห้างร้านโรมแรมขนาดใหญ่ กลับมีบริการ uBer มาเติมช่องว่าที่ทุกคนมองไม่เห็นเหล่านี้ และ คาดว่าน่าจะมีเป็นบริการมาตราฐานหนึ่งที่คนสังคมเมืองยอมรับและใช้บริการได้ไม่ยาก และ อาจจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นได้ไม่ยากเช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้ว uBer  เองเพื่อที่จะรักษาตลาดนี้เอาไว้ และสร้างกำแพงเพื่อกันคนอื่นเค้ามาแข่งด้วยมีแค่วิธีการเดียวเท่านั้น คือ มีรถมากเพียงพอจนไม่เติมเต็มความต้องการได้ทันหมด ก็จะทำให้โอกาสของคู่แข่งน้อยลงไปได้ทันทีนั่นเอง

คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:

  • อูเบอร์ แท็กซี่ pantip

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *