rackmanagerpro.com

สั่งอาหารผ่านแอพ Get! เทียบกับคู่ปรับเก่าเจ้าตลาด Grab

ประหยัดเงินค่าอาหารและค่าส่งอาหารจากร้านใกล้บ้านคุณด้วย Get ! (ไม่ใช่ Grab)

ผมเคยสังเกตมาได้สักพักแล้วล่ะครับว่า ทำไมราคาอาหารใน Grab ถึงดูแล้วออกมาแพงๆกว่าปกติ แม้ว่ามันจะมีโปรโมชั่นลดราคาเท่านั้นเท่านี้แต่ยังไงซะ ผมลัพธ์เมื่อลดราคาแล้ว มันก็เหมือนราคาปกติที่ไปซื้อหน้าร้าน ยิ่งถ้าหากว่าคุณซื้ออาหารไม่ได้เยอะแยะเพื่อให้ได้ลดราคาเป็น % ตามโปรที่ทาง Grab กำหนดด้วยแล้ว ก็จะพบได้ว่า มันแพงกว่าหน้าร้านปกติ ซึ่งเดาเอาได้ว่า น่าจะเป็นกลยุทธ์ของการสร้างแรงจูงใจให้เกิดยอดซื้อต่อครั้งให้มาก เพื่อที่จะได้ลดราคา และ เป็นการหารายได้จากทางแอพเพื่อเอาไปให้คนขับรถส่งอาหารในระบบของเขา

เช้าตรู่วันนี้มีโอกาสได้เจอแอพใหม่ ที่เข้าใจว่า เป็นแอพที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งทางตรงกับแกร็ปกันเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ Get! โดยแอพนี้เค้าจะเน้นการเดินทางด้วยวินก่อน ไม่ว่าจะเป็นรับส่งอาหาร การเดินทางด้วยวินมอเตอร์ไซด์ และ การรับส่งของพัสดุ ทั้งหมดจะกระทำผ่านทางแอพ และ ให้คนที่ทำหน้าที่หลักเหล่านี้คือ มอเตอร์ไซด์วินในระบบของเขานั่นเอง แต่ประเด็นสำหรับบทความนี้เราไม่ได้ต้องการเทียบอย่างอื่น เราจะเน้นไปที่เรื่องราคาอาหารและการเรียกรับส่งอาหารมาบ้านของเราเอง (เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องไปไหนแล้วก็มีอาหารอร่อยๆนอนกินที่บ้านได้ในราคาที่ประหยัดที่สุด)

แ่นนอนว่าการเทียบนี้จะไม่ได้เอา LINEMAN เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะ มันแพงกว่าที่จะเทียบกับอะไรแล้ว คือ LINEMAN ราคาสูงมากสำหรับการเรียกวินเพื่อเอาอาหารมาส่งบ้าน และ ผมเองมีโอกาสได้ใช้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะ มันแพงเกินไปในสายตาของผม สำหรับคนที่สั่งอาหารไม่มากนัก เพื่อคนที่บ้านแค่สามสี่คนเท่านั้น ไม่ได้เป็นออฟฟิศที่จะแชร์ค่าขนส่งอาหารเหล่านั้นได้คุ้มค่า

เวลานี้คือ ตีห้าสามสิบ ของเช้าวันพุธ วันทำงานปกติ เพราะงั้นแล้ว ร้านอาหารที่จะเปิดให้่สั่งได้ก็จะเป็นร้านที่เปิด 24 ชั่วโมงเท่านั้น มันก็คือ ร้านโจ้กหมูทอง ที่เป็นตัวอย่างสำหรับการเปรียบเทียบ Grab vs Get! ในครั้งนี้มาดูกันเลยดีกว่าราคาหน้าเมนูนั้นคือเท่าไหร่กัน สำหรับเมนูโจ้กหมูธรรมดาใส่ไข่เยี่ยวม้า (ที่เป็นเมนูโปรดของผมเมื่อผมจะต้องสั่งอาหารในร้านโจ้ก)

เริ่มต้นจากการดูราคา “โจ้กหมู+ไข่เยี่ยวม้า” ในแอพ Grab กันก่อนดีกว่า และ นี่คือราคาอาหารต่อหนึ่งหน่่วยสั่งซื้อในแกร็ป ! มันก็คือ 60 THB./ห่อ แน่นอนว่ามันแพงกว่าหน้าร้านแหงๆเพราะว่าถ้าหากว่า คุณตั้งราคาโจ้กธรรมดาใส่ไข่เยี่ยวม้าราคานี้บอกได้เลยว่า ผมไม่ซื้อแน่ๆ ไม่ได้งก แต่รู้ว่ามันแพงกว่าปกติอย่างไม่ต้องสงสัยอะไรเลย …

ราคาโจ้กในแอพ Grab เรียกจากร้านเดียวกัันคือ​โจ้กหมูทองเปิดทำการ 24 ขั่วโมงทุกวัน ไม่มีวันปิดทำการเลย ราคาแพงกว่าหน้าร้านอีกต่างหาก

อันนั้นคือส่วนของราคาอาหารอย่างเดียวที่แอบบวกเพิ่มเข้าไปแล้วอย่างน้อยก็ 15 บาทถ้าหากว่าหน้าร้านจะซื้อได้ในราคา 45 บาทแปลว่าพวกเข้าไปเท่ากับ 33% จาก Original Price ครับ เรียกได้ว่าเป็นสัดส่วนราคาที่สูงเอาการ แต่จริงๆแล้วเค้าก็ยังจะบวกเพิ่มค่าจัดส่งอีก 10 บาทตามภาพสำหรับแอพ Grab

ค่าอาหาร 60 THB และ ค่าส่งอีก 10 THB ทั้งหมด 70 THB Net.-

จะสังเกตได้ว่าถ้าหากว่าผมซื้อผ่านทาง Grab จะเสียเงินสำหรับค่าโจ้กของผมเท่ากับทั้งหมด 70 บาท ถือได้ว่ามันแพงไปหน่อยสำหรับการกินโจ้กธรรมดาไข่เยี่ยวม้าสักห่อหนึ่งครับ !

ทีนี้ลองเข้าไปดูแอพ Get ! ใหม่ของเราที่เพิ่งจะบุกตลาดไทยเข้ามาได้ไม่นานคือแอพ GET! (ต้องมีเครื่องหมายตกใจด้วยนะ) ถ้าหากว่าคุณสังเกตจะพบได้ว่าราคาอาหารเหมือนกับหน้าร้านทุกประการ แนะนำให้ลองเทียบกับ Wongnai จะมีภาพถ่ายของป้ายเมนูแสดงอยู่ เราก็จะรู้ได้เลยว่า ราคาไม่ได้ถูกบวกเพิ่มอะไร แต่อย่างว่าน่ะครับ ถ้าหากว่าคุณเข้าแอพ Wongnai ก็อย่าไปสั่งอาหารในแอพนั้นเพราะมันเป็นการสั่งอาหารผ่าน LINEMAN และ แน่นอนว่า LINEMAN มันแพงมากถ้าหากว่าเทียบกับแอพสองแอพที่กำลัง review เทียบกับอยู่นี้ครับ

สินค้าตัวเดียวกันในแอพ GET! คือ โจ้กหมูไข่เยี่ยวม้าธรรมดา ราคามันแค่ 45 บาทเองนี่หน่า ไม่ใช่ 60 THB เหมือนกับ Grab

ทีนี้มาลองดูต่อว่าถ้าหากว่าผมเรียกรถแล้วจะมีค่าบริการจัดส่งอีกเท่าไหร่มั้ยสำหรับแอพ Get! สำหรับแอพทั้งสองตัวนี้ ระยะการเดินทางจากร้านอาหารมาที่บ้านส่วนตัวของผมนั้นสำหรับพี่วินแล้วเค้าจะเดินทางไม่เกิน 15-20 นาทีก็จะส่งถึงแล้วน่ะครับ ด้วยระยะการเดินทางไม่น่าจะเกิน 5 km เท่านั้นเรียกได้ว่า ร้านโจ้กหมูทองร้านนี้เป็นร้านที่ไม่ได้อยู่ไกลอะไรจากบ้านผมเลยแม้แต่น้อยมาดูว่า เกิดค่าบริการส่งเพิ่มเติมอะไรมั้ย ? ตามภาพด้านล่างนี้เลย

การเรียกซื้ออาหารจากแอพ GET! นี้จะได้ราคาปกติหน้าร้าน พร้อมทั้งค่าบริการที่อาจจะไม่มี (ได้ด้วยเหรแ) หรือ เค้าอาจจะคิดราคาเป็น KM ก็ได้ ไม่รู้ว่าแพงหรือเปล่าเพราะว่า กรณีทดสอบของผมมันเป็น 0 บาท หรือ ฟรี นั่นเอง!

ถ้าหากว่าผมสั่งโจ้กในแอพ GET! จะได้ราคาทั้งหมดเท่ากับ 45 บาทเท่านั้นเอง เพราะว่า เค้าน่าจะยังทำตลาดอยู่ และก็ต้องการส่งเสริมการขายให้คนมาใช้กันเยอะๆ ก็เลยไม่ได้คิดค่าบริการกับการเดินทางระยะไม่เกิน 5 km นี้ (หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงแล้วแต่เค้า) ทำให้ผมประหยัดเงินไปได้มาก ถ้าหากว่าเทียบกับการซื้อในแอพ Grab 70 บาท ประหยัดเงินทั้งหมด 25 บาทในการสั่งซื้อครั้งนี้ครับ

โดยสรุป : ถ้าหากว่าคุณใช้แอพ Grab คุณอาจจะมีความเสี่ยงประมาณหนึ่งที่อาหารที่คุณซื้อจากเมนูจะเป็นเมนูที่ีมีการ Markup ราคาเอาไว้แล้วให้แพงกว่าเดิม ถ้าหากว่าคุณไปซื้อเอาหน้าร้านอาจจะได้ราคาที่ประหยัดกว่านี้ แต่เท่าที่สังเกตจะเป็นเฉพาะบางร้านเท่านั้นที่ราคามีการเพิ่มขึ้นจากหน้าร้านในแอพ แต่บางร้านก็เห็นราคาเท่านั้น ซึ่งหมายรวมว่า ถ้าหากว่าคุณไปกินที่ร้านจะโดนค่า service charge อะไรด้วยก็มีเหมือนกัน แต่ถ้าหากว่าคุณอยากจะซื้ออาหารแบบห่อละไม่แพงมาก ถ้าหากว่าโดน Markup price แบบนี้จะทำให้คุณเสียเงินเป็น % มากกว่าเดิมเยอะเอาการอยู่ แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากว่าคุณเลือกร้านอาหารที่เริ่มไกลออกมาไปจากรอบบ้านของคุณสักระยะหนึ่ง คุณอาจจะพบได้ว่าถ้าหากว่าคุณใช้ App Grab เพื่อเรียกซื้อาหาร โดยรวมแล้วอาจจะประหยัดกว่าแอพ GET! ก็ได้เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลว่าเรื่องของค่าบริการจัดส่งทางแอพ GET! จะเรียกค่าจัดส่งเป็นตัวคูณตามระยะทางของการเดินทางของพี่วิน เพราะงั้นแล้ว ตอนนี้คุณอาจจจะต้องลองดูเมนูอาหารในแอพ GET! อีกตัวเทียกับแอพ Grab เพื่อประเมินได้ว่า คุณจะเลือกซื้อผ่านแอพของใครที่จะประหยัดเงินคุณได้มากกว่ากันครับ

Exit mobile version