rackmanagerpro.com

เปลี่ยนจาก Windows PC มาใช้ iMac มีอะไรแตกต่างกันอย่างงั้นหรือ ?

mac-windows

ไม่ได้ blogging เสียตั้งนานเหตุผลเพราะว่า ตอนนี้ผมเพิ่งได้ คอมพิวเตอร์ตัวใหม่ คือ iMac จริงๆแล้วเหตุผลที่ผมซื้อก็เพราะาอยากจะลองมากกว่าทำไมคนถึงบอกว่า เครื่อง Apple มันใช้ดีอย่างงู้นอย่างงี้ แล้วก็บอกมาจริงๆจังไม่ได้ว่ามันดียังไง เพราะว่าเค้าเหล่านั้นแค่ไม่เข้าใจว่าถ้าหากว่าคุณ PC หนักๆ แล้วมันต่างอะไรกับ Mac จริงๆกันแน่ แต่ว่า หลังจากผมใช้ iMac มาได้ 1 week แล้วผมพอจะประเมินออกมาเป็นภาพที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน หรือ แม้กระทั่งคุณได้มีโอกาสลองเครื่องที่ Mac store แล้วก็ตามคุณไม่ได้คำตอบอยู่ดีว่า มันมี มิติไหนกันแน่ที่ Mac ดีกว่า Windows PC

ตอนแรกผมก็กะว่าจะอยู่ที่ร้าน Apple Store สักพักเพื่อหาทางวิเคราะห์ดูให้ได้ว่า มันดีกว่ายังไงหรือว่า มันเจ๋งกว่าตรงไหน หรือถ้าหากว่ามันดีกว่า มันดีกว่าด้วยเหตุผลอะไรกันแน่ ผมนั่ง iMac (จริงๆแล้วยืนเพราะว่ามันไม่ได้มีเก้าอี้ให้นั่งน่ะครับ) อยู่ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง หลายครั้ง แต่จากการเล่นไปเล่นมาก็ไม่สามารถบอกได้อยู่ดีเพราะ ปรากฏว่าสิ่งที่ผมกำลังจะเล่านี้มันต้องเอากลับมาใช้ sync กับ ชีวิตการใช้งาน ถึงจะรู้ว่ามันดียังไง งั้นผมเล่าเป็นฉากๆ เป็นประเด็นๆไปเลยแล้วกันนะครับว่า Mac ที่ผมได้มา 1 สัปดาห์มันแสดงความดีงามอะไรของมันออกมาให้ผมรับรู้ (และคุณกำลังจะได้รู้บ้าง)

ลำโพงในตัวเสียงดี : เหตุผลไม่ยากหรอกนะครับ เพราะว่า Mac จริงๆแล้ว มี iTune เพื่อขายเพลงด้วยทำให้มีความต้องการที่จะทำให้เสียงที่ออกจากเครื่องใดๆ หรืออุปกรณ์ของตัวเองออกมาให้ฟังเพลง แล้วดูดี ฟังดีที่สุดเท่าที่ราคาที่เหมาะสมจะอำนวยได้ เพราะงั้นแล้ว ที่ผมซื้อ iMac มาผมก็ต้องเข้าใจด้วยอีกส่วนว่า ผมได้ทำการซื้อ ลำโพงเกรด A ติดเข้ามาด้วย แต่อย่างไรก็ดี ลำโพงนั้นไม่ได้เป็นระดับ AA หรือดีมากๆ เพราะว่า เนื่องจากการออกแบบเครื่องต้องทำให้มันไม่รกเลอะเทอะใหญ่โตอะไร ลำโพงต้องฝังเข้าไปที่เครื่องทำให้ เล่นทุ้ม ( bass ) ทำออกมาได้ไม่ดีนัก นอกนั้นแล้ว เสียงกลางและเสียงแหลมโทนเสียงทำออกมาได้ดีมาก ฟังแล้วเพลงดูเพราะขึ้นไปอีกระดับกว่า ลำโพง 300 บาทที่ผมติดกับเครื่อง computer PC เครื่องที่ผมใช้อยู่แต่ก่อนคนละเรื่องล่ะครับ ทั้งนี้ จริงๆแล้วผมมี ลำโพง Bose ด้วยแต่ก็ไม่ได้เอามาติดตั้งที่เครื่อง computer ที่ผมเอามาพิมพ์ blog ในห้องนอนนี้หรอกนะครับเพราะว่า ผมติดเอาไว้กับเครื่อง computer ที่ต่อกับทีวีแทนเพื่อเอาไว้เล่นเกมส์จะได้มันส์สะใจดีครับผม (นอกประเด็นนิดหน่อยน่ะครับเรื่องนี้ แต่อยากจะบอกน่ะครับ)

ทำให้ห้องดูไม่รกเลย ! : เป็นเครื่องแปลกว่า ผมใช้ computer ตั้งโต้ะจะมีสายไฟอะไรต่อมิอะไรเต็มเครื่องไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสายไฟที่ต่อเข้ากับจอภาพ สายต่อระหว่างจอภาพและเครื่อง CPU หรือ Case และนอกจากนั้นก็ต้องมีต่อสาย LAN แล้วก็ต่อกล้อง webcam อีกต่างหาก อ้อ ลืมไปว่าต้องต่อสายลำโพงอีกต่างหากครับ ทำให้ Zone computer ตัว PC ผมดูรกมาก ถึงมากที่สุด แต่ว่าเมื่อเทียบกับ computer iMac แล้วภาพของสายที่รกรุงรังไม่มีแม้แต่น้อยไม่เห็นแม้แต่เส้นเดียว อ้อ จริงๆแล้ว มันมีสายไฟเพื่อต่อจากเต้าเสียบไฟ เข้าเครื่องเท่านั้น นอกนั้นจะมีสายอะไรให้เห็นอีกแล้ว รวมทั้ง สาย USB ของ mouse และ Keyboard ก็ยังไม่มีเพราะว่าเป็นแบบไร้สายทั้งหมดครับ (โดนบังคับซื้อมาพร้อมกับเครื่องครับเพราะว่าเค้าแถมว่าอย่างงั้นไม่ยอมให้ใช้ mouse keyboard แบบมีสายซะด้วยถ้าหากว่าจะเอาก็ต้องซื้อเพิ่มอีกอะไรจะใจร้ายปานนั้นก็ไม่รู้อ่ะครับ) ประเด็นเรื่องสายไฟ เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผมเริ่มมองเครื่อง iMac เพือเอามาทดแทนเครื่องตั้งโต้ะที่เป็น PC มาได้สักพักใหญ่แล้วล่ะครับ เพราะว่า ถ้าหากว่าคุณรู้จักผมเป็นการส่วนตัวแล้วล่ะก็ คุณก็อาจจะรู้ได้ว่าผมไม่ชอบให้ข้าวของรกครับ สิ่งที่ผมจัดการกับข้าวของก็คือ ซื้อของมาในห้องให้น้อยเอาไว้  (หากว่าไม่จำเป็นหรือว่าไม่คิดว่าจะต้องมีก็ไม่ซื้อมาครับ) หรือว่า ถ้าหากว่าเริ่มรกผมจะมีอาการเริ่มอยากทิ้งครับ ไม่ว่าของเหล่านั้นมีมูลค่าตัวเงินเท่าไหร่ ผมก็จะจัดการทิ้งมันไปเหมือนกับไม่เสียดายแม้แต่น้อยครับผม

จอใสกิ้งกว่าจอ computer Desktop PC ที่มีขายปกติมากและค่าสีหน้าตอเป็นมาตราฐาน : อันนี้ผมคิดว่าผมไม่ได้คิดไปเองคนเดียวน่ะครับ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนที่หลงเข้าไปที่ร้าน Mac Apple Store จะสังเกตได้ว่า เค้าจะเร่งแสงของหน้าจอให้แรงที่สุดตลอดเวลาเพื่อบอกกับลูกค้าที่แค่เดินผ่านไปผ่านมาว่า เครื่อง computer Mac ของ Apple นี่ให้ภาพที่สีสดใสกว่าปกติมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากว่าคุณได้สังเกตว่า Screen Saver จะเป็น Deskop สีขาว หรือ backgound สีขาวเพื่อให้ดูหน้าจอกันเด่นๆว่ามันแสดงแสงขาวสว่างใสได้มากแค่ไหนกันครับ นอกจากนี้ หน้าจอสีจะมี มาตราฐาน กล่าวคือจะไม่มีการปรับ Hue หรือค่าความสดของสีแต่อย่างใด ที่หน้าจอหรือ software ใดๆที่เป็น โปรแกรมที่มากับ iMac แม้แต่น้อย เข้าใจว่า เพื่อเป็นการทำให้หน้าจอการแสดงผลนั้นออกมาเป็นมาตราฐานไม่ใช่เห็นงานที่เครื่อง iMac เครื่องหนึ่งสีออกมาสีหนึ่งแต่พอมาเอามาเปิดที่หน้าจอ iMac อีกเครื่องหนึ่งกลับเป็นโทนสีเป็นอีกสีหนึ่ง นี่อาจจะเป็นสาเหตุก็ได้ว่า ทำไมพวกที่ทำเกี่ยวกับภาพแต่งภาพหรือว่าแสงสีตัดต่อ VDO จะใช้ computre iMac ในการจัดการงานของเค้าครับผม

iTune บน Mac OS เร็วกว่าในทุกมิติ : ไม่ว่าจะเป็นการโหลด file หรือการกดเพื่อเปลี่ยนหน้าต่างหรือหน้าอัลบั้มเพลง ก็จะกดแล้วมาทันที จะไม่ต้องรอเหมือนกับ iTune บน Windows อันนี้ผมเดาเองว่า น่าจะเป็นการวางยาของ iTune เองมากกว่าเพราะว่า แปลกใจเหมือนกันน่ะครับ ว่าทำไม iTune ที่ run บน OS ของ Mac เองกลับแสดงผลได้เร็วกว่ามากๆ แต่ว่าเครื่อง Windows แม้ว่าจะมี spec. ที่สูงมากเพียงใดก็ไม่ทำให้ iTune กดปุ้บเปลี่ยนปั้บได้เหมือนกับที่เป็นใน Mac

Streaming Podcast / หรือโปรแกรมเสียงอื่นๆได้เร็วกว่าปกติ : ปกติแล้วเนื่องจากความช้าของในการใช้งาน iTune ใน Windows จะทำให้ การ Streaming เสียง Padcast จากเครื่อง Windows นั้นแทบจะทำไม่ได้เลย ทำได้ก็จะเป็นลักษณะการกด download เอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วก็ค่อยกลับมาเข้ามาฟังอีกครั้งหรือว่า upload เข้าสู่เครื่อง iPad หรือ iPhone ต่ออีกรอบเพื่อเอาไปฟังนอกสถานที่ครับ เลิกพูดเกี่ยวกับการฟังทันทีเป็นแบบ streaming กันได้เลยล่ะครับ แต่ว่า ! สำหรับเครื่อง mac เองแล้ว เมือ่เปิด iTune หรือว่าเปิดโปรแกรม Songbird เพื่อเข้าไปฟัง radio online ก็จะให้ผลการ Streaming เสียง (เพลงและคำพูดสำหรับ Podcast) ได้ต่อเนื่องไม่สะดุดหรือกระตุกแต่อย่างใด เรียกได้ว่า ทำให้เราผมเปิด Mac แทนวิทยุแบบ international กันไปเลยก็ว่าได้น่ะครับ ซึ่งเป็นกิจกรรมใหม่ที่ผมทำเพิ่มจากแต่กอ่นที่ computer PC ผมจะเปิดฟังอะไรพวกนี้ไม่ได้ก็ไม่ได้งฟังมัน แต่ว่าตอนนี้เปิดฟังได้แล้วก็เปิดฟังครับ ! ก็เท่านั้นเองอ่ะครับ

โปรแกรมที่ออกแบบมาสำหรับเครื่อง MAC กลับทำออกมาได้ดีกว่า : จริงๆแล้วประเด็นนี้ผมกำลังบอก่วา software ใดๆที่มีการออกทั้ง version mac และ version Windows เองนั้น ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นโปรแกรมของ Microsoft แล้วจะออกมาสำหรับเครื่อง mac แล้วทำให้ มี User Interface และ user experience ในการใช้งาน software แตกต่างจาก Windows มากเอาการครับ เช่น ถ้าหากว่าโปรแกรมนั้นไม่จำเป็นต้องมีการกรอบนอกเป็นหน้าต่าง สำหรับ Windows จะมีอยู่แต่สำหรับ mac ก็จะโดนออกมาให้ไม่มีกรอบหรือขอบเลยก็ทำได้น่ะครับ หรือว่า แค่เทียบ program Skype ก็พอจะเห็นความแตกต่างได้ไม่ยากในขั้นตอนการใช้งาน เมื่อต่อติดแล้ว Skype ใน mac จะมีการย่อขนาดออกเพื่อให้พิ้นที่หน้าจอเอาไปแสดงผลหรือทำอย่างอื่นได้ แต่ว่า Windows Skype ไม่ได้ทำตัวอย่างงั้นแต่อย่างใดครับ การวนของเสียงที่ออกจากลำโพงเพื่อกลับเข้าไปที่ mic นั้นเกิดขึ้นได้น้อยมาก หรือเรียกได้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลยก็ว่าได้เพราะว่า mac เองนั้ออกแบบให้เอา mic ไว้ด้านบนสุดของขอบเครื่องด้านบน ส่วนลำโพงนั้นวางเอาไว้ที่ด้านใต้สุดเครื่องเพื่อไม่ให้เราเห็นว่าช่องลำโพงมันดูน่าเกลียด และยังจะเป็นการทำให้เสียงเกิดการสะท้อนกับพื้นโต็ะได้เพื่อให้เสียงออกกังวาลต่ออีกรอบหนึ่ง เสียงที่อออกมานั้น ถ้าหากว่า เป็น mac แล้วก็จะไม่มีการวนเข้าไปที่ mic อีกรอบแต่อย่างใด ทำให้การคุยกันแบบไม่ต้องใช้หูฟังและ mic นั้นเป็นไปได้ และไม่ก่อให้เกิดอาการกวนประสาทใดๆกับคู่สนทนา แต่ว่าถ้าหากว่าเป็น Windows ที่ลง Skype การวางลำโพงนั้นจะวางที่ไหนอย่างไรก็ได้อยู่แล้วเพราะว่าเราซื้อลำโพงแยกออกมา ถ้าหากว่าเครื่อง webcam คุณเพื่อรับเสียงไม่ได้เป็นแบบ RightLight หรือ RightSound Technology ของ Logictech แล้วล่ะก็การวนซ้ำของเสียงก็น่าจะเกิดขึ้นได้ไม่ยากครับ

การออกแบบปุ่ม Sleep นั้นเหมือนกับ stand by ใน Windows แต่เจ๋งกว่า : เครื่อง mac นั้น Design ให้เหมาะกับการใช้ชีวิตสำหรับคนรุ่นที่ต้องใช้ computer เป็นเครื่องมือหลักในการ entertain และเพื่อใช้งานอื่นๆ เป็นประจำ ทำให้การออกแบบปุ่ม power จะเป็นการกดเพื่อให้เครื่องหลับไป ( sleep ) จะเหมือนกับ Windows ว่าถ้าหากว่าคุณกดปิดเครื่องก็จะเป็นการทำให้ระบบ Windows ของเครื่อง PC นั้นเข้าสู่อาการ Standby mode แต่ในเนื้อแท้แล้ว ระหว่างสองอย่างคือระหว่าง mac และ windows นั้นกลับแตกต่างกันใน Details ที่ว่า เมื่อคุณเปิด mac ออกจาก sleep แล้ว โปรแกรมทั้งหมดจะ online เปิดเพลง หรือแม้กระทั่ง run ค้างเอาไว้ที่หน้าไหน อย่างไร ทุกอย่างจะเหมือนเดินร้อย % อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะพวก software ที่เราเปิดเพลงอยู่ เมื่อกลับมาปลุกเครื่อง mac จากอาการ sleep มันก็จะเล่นต่อทันทีเหมือนกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นครับ แต่ว่า Windows อาการ Standby ไม่ได้เป็นอย่างงั้นครับ

Mac เครื่องเดินเงียบมากถึงมากที่สุด เมื่อเทียบกับ PC แบบตั้งโต็ะเครื่องประกอบ : ที่ผมต้องบอกว่าต้องเอาไปเทียบกับเครื่องประกอบก็เพราะว่า เครื่องที่ผมใช้อยู่ตอนนี้เป็นเครือ่ง HP ที่เป็นขนาดเล็กพิเศษ ก็มันก็ไม่ได้สีเสียงดังอะไรมากมายนัก แต่สำหรับ สำหรับคนปกติแล้วคนที่ซื้อเครื่อง computer Desktop จะเป็นเครื่องประกอบแบบที่เป็น case โตปกติครับ ซึ่ง ผมก็มีเครื่องแบบนั้นเหมือนกันน่ะครับ แต่ว่าเอาไปต่อเข้ากับ TV (เพื่อทำให้เป็น internet TV) เครื่องพวกนี้จะไม่รู้อะไรนักหนาจะมีเสียงพัดลมๆเป่าๆ หรือเกิดอาการสั่นของเครื่องจักรหรือมอเตอร์ด้านในอะไรก็ไม่รู้ทำให้มีเสียงน่ารำคาญใจเอาได้ (แต่สำหรับผมแล้วไม่ค่อยจะ serious สักเท่าไหร่เพราะว่าเอาไว้ต่อกับ TV ซึ่งมันก็อยู่ไกลจากโซฟาที่ผมเอาไว้นั่งเล่น computer ผ่าน TV อยู่ดีครับ) แต่สำหรับเครื่อง mac แล้วเข้าใจว่า ความเงียบนี่ก็ระดับ notebook เห็นจะได้หรือเบากว่านั้นด้วยซ้ำ ผมมองไม่เห็นช่องระบายอาการแต่อย่างใด (แต่ว่าผมก็รู้ว่ามันระบายที่ด้านหลังเนี่ยะน่ะหละ) แต่ว่า มันจะเป็นพื้นที่ลับเหมือนกับที่ คุณจะไม่เอามือไปโดนหรือแตะต้องมันได้ เป็นการปิดโอกาส ที่คุณจะรับรู้ว่าเครื่อง mac มันร้อนมากน้อยแค่ไหน ตอนที่ run เครื้องอยู่หนักๆ ต่อเนื่องครับ แต่สำหรับ Notebook จะอยู่ด้านข้างหรือด้านใต้ที่คุณก็อาจจะได้รับรู้ความร้อนนั้นครับ และสำหรับเครื่องตั้งโต้ะความร้อนเหล่านั้นจะส่งผ่านจากความรู้สึกว่า มันมีเสียงพัดลมๆเป่าๆตลอดเวลาเหมือนว่าเครื่องมันบอกว่า .. มันร้อนแล้วต้องเป่าเยอะๆจะได้หายร้อนอะไรทำนองนั้น แต่อย่างว่าล่ะ คุณก็จะรำคาญเสียพัดลมมันอยู่ดียังไงอย่างงั้นน่ะครับ

ผมว่าถ้าหากว่าผมใช้ต่อไปเรื่อยๆ ก็น่าจะมีประเด็นอะไรให้บอกต่ออีกว่า ระหว่าง Mac และ Windows computer นั้นมันให้อะไรแตกต่างกันอีก นอกจากความรู้สึกอย่างอื่นที่วัดไม่ได้ต่อไปอีกน่ะครับ ยังไงซะ ถ้าหากว่าคุณมีโอกาสลองเอาเครื่อง iMac มาใช้งานแทนเครื่องตั้งโต้ะ Desktop Windows สักเครื่องลองดูก็ไม่น่าจะเสียหายเนาะ (แค่ว่าเสียเงินเท่านั้นเอง)

คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:

Exit mobile version