ผมเล่นนกๆได้สักพักแล้วก็พอจะรู้ได้ว่า มันเอาไว้ทำอะไรบ้าง และ อีกส่วนผมก็หาอ่านจากบล็อคที่มีการเขียนเกี่ยวกับ Twitter (เพราะว่า NokNok ก็เห็น copy concept มาโจ้งๆครับ แต่ว่ามันไม่มี Tools มากมายให้เล่นและใช้งานได้เหมือน Twitter เท่านั้นเอง) โดยมากแล้วการใช้งานจะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆด้วยกันก็คือ
ประเภทแรก เพื่อเป็นการบอกว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ก็เป็นวิธีการใช้งานตรงๆสำหรับเว็ปประเภทนี้ครับ คนพวกนี้อยากจะบอกเพื่อนๆ(หรือว่าไม่ได้เป็นเพื่อนก็ตาม แต่ว่าอยากจะบอก)ว่าวันนี้ไปไหนมา เช่น ตอนนี้อยู่บิ้กซี ตอนนี้จะไปกินข้าวเที่ยง หรือบอกว่า ตอนนี้หิวแล้วเป็นต้นผมก็เป็นคนประเภทนี้อยู่เหมือนกัน เพราะแค่คิดว่าบางคนอาจจะตามผมจากระบบ SMS ทำให้ต้องบอกด้วยความระมัดระวังว่ามันจะกวนเค้าหรือเปล่า หากว่าส่งเยอะเกินไปหรือถี่เกินไปมันก็น่ารำคาญแล้วก็ ทำให้คนที่ติดตามระดับที่ว่าติดตามด้วย SMS เค้าจะเลิกรับข่าวจากเราไปซะก่อนได้ครับ
ประเภทที่สอง คือ พวกที่คาดหวังว่าจะนกๆหรือ Twitter จะถูกใช้ไปเพื่อการโปรโมตเว็ปครับ มันมีความเป็นไปได้สูงมากว่าถ้าหากคนที่ใช้งานนกๆแล้วหาเพื่อนๆที่มีความสนใจแนวเดียวกันได้จริงๆแล้วล่ะก็.. เค้าก็สามารถที่จะทำการโปรโมตเว็ปของเค้าเองได้ไม่ยาก ทั้งนี้เว็ปของเค้าก็ต้องพูดถึงเนื้อหาที่คนอื่นๆที่อยู่ในวงที่ติดตามกันสนใจด้วยครับ นอกจากนี้คนประเภทนี้อาจจะคิดได้อีกแบบว่าถ้าเค้าทำธุรกิจหรือขายอะไรออนไลน์เช่น ขายอาหารแมว หรือว่าเป็นหมอหมา เค้าก็ต้องหาคนที่เลี้ยงสัตว์ แมวหรือหมา แล้วก็ต้อง นกๆเนื้อความที่เกี่ยวข้องกับแมวหรือหมาเอาไว้เป็นประจำ เพื่อให้ได้เจอคนที่รักแมวเลี้ยงหมาเหมือนๆกันครับ นอกจากนี้ที่ profile ก็ต้องมีเว็ปที่ต้องการจะโปรโมตปะเอาไว้ด้วย ไม่ก็ที่เนื้อความที่ประกาศที่นกๆก็ต้องมีลิงค์กลับไปที่หน้าเว็ปตัวเองบ่อยๆ แล้วก็การเปลี่ยน Background ของหน้าแรกของตัวเองให้เป็นรูปหรือโลโก้ แบรนด์ของร้านตัวเองก็ได้ด้วยครับ แต่ว่ามันจะดูเป็นธุรกิจไปหน่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ เพราะว่า ตอนนี้ผมยังไม่เห็นใครที่ใช้นกๆเพื่อการธุรกิจอย่างจริงจังครับ
ผมอธิบายการใช้งานทั้งสองแบบไปแล้วซึ่งถือได้ว่าเป็นการใช้งานแบบปกติอยู่ครับ แต่ที่ผมกะลังจะเล่าต่อไปมันอาจจะเป็นการใช้งานที่แปลกออกไปจากปกติมาก แต่ว่าก็อยู่วิสัยที่ไม่น่าจะผิดกฏอะไรสำหรับการใช้งานครับ มันก็คือการใช้ นกๆ เพื่อกระจายข่าวภายในองค์กรครับ อาการที่จะใช้งานแบบนี้ก็เหมือนกับการที่เราสมัครรับข่าวจากแหล่งข่าวที่ไหนสักแห่งครับ ที่ส่วนมากจะเสียเงินต่อเดือน เดือนละ 15-30 บาท แล้ว ใครก็ไม่รู้ก็จะส่งข่าวมาให้ทาง sms ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นราคาทอง หรือข่าวประเด็นร้อน ก็แล้วแต่ว่าคนที่รับข่าวสารนั้นเลือกข่าวประเภทไหนมาที่ sms ครับ เราทำตัวเป็นแหล่งกระจายข่าวได้ด้วยเหมือนกันครับ ด้วยการใช้งานนกๆเนี่ยะหละครับ
ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพให้ชัดกว่านี้ก็คือ สมมุติว่าผมมีพนักงานขายที่เดินทางทั่วไปตลอดเวลา วันๆไม่อยู่ที่รถก็อยู่กับลูกค้าคุยงานกันไม่ได้กลับมาเข้าสำนักงานใหญ่สักเท่าไหร่ การส่งข่าวจะกระทำได้โดยการส่งอีเมล์ไปหาเซลล์ทุกคน แต่ว่ากว่าเค้าจะมาอ่านก็อีกสักพัก หรือว่าดินแดนที่เค้าไปเดินสายเพื่อขายของหรือเพื่อนำเสนอสินค้าเป็นดินแดนที่หาอินเตอร์เน็ตใช้ได้ยาก ความถี่ในการเข้ารับข่าวสารใหม่ก็จะทำได้ยากเช่นกัน หรืออีกวิธีทีทำได้ก็คือ ให้คนโทรบอกกันเหมือนเป็นสายงาน ซึ่งก็เป็นวิธีที่ดี แต่ว่าการบอกต่อแบบนี้อาจจะมีการสื่อสารที่ผิดพลาดได้เหมือนกับเกมส์การบอกต่อที่เด็กๆเราเคยเล่นกันน่ะครับ เนื้อความจะถูกบิดเบือนไปได้บ้างเล็กน้อย หรืออาจจะเกิดความผิดพลาดได้ครับ แล้วก็ยังมีอีกวิธีก็คือการ sms ไปหาเซลล์ทุกคนพร้อมกันในเวลาเดียวกันครับ การอัพเดทข้อมูล อาจจะเป็นแค่ว่า วันจันทร์หน้าให้นัดประชุมที่สำนักงานเวลา 08.30 น หรือ ราคาสินค้าตัวนี้ให้ตั้งราคาเพิ่มจากเดิมอีก 2 บาทจากราคาเดิมเป็น 40 บาท หรืออาจจะบอกว่า สินค้าตัวนี้หมดแล้ว ของมีอีกครั้งวันพุธหน้า เป็นต้น เนื้อความเล็กๆแบบนี้สามารถส่งข้อมูลทาง sms ได้และมันก็มีประสิทธิภาพดีซะด้วยซิถ้าเกิดว่าเซลล์มีเยอะขนาดนั้น แล้ว.. มันเกี่ยวอะไรกะนกๆล่ะ ? สำหรับคนที่ไม่เคยใช้อาจจะนึกไม่ออก แต่ว่าถ้าคนที่เคยใช้แล้ว น่าจะปิ้งปั้งคิดออกเหมือนกันว่าเหตุการณ์การกระทำแบบนี้ทำได้ด้วยนกๆเนียะหละครับ
วิธีการตั้งระบบแบบนี้ก็ไม่ยากเอาซะเลยแต่ว่าอาจจะกินเวลาอยู่บ้างแต่คิดว่าผลที่ได้น่าจะคุ้มค่ากับการลงทุน(แต่เวลา)เพื่อให้ได้มีระบบศูนย์ส่งข้อมูล sms แบบนี้ครับ
เริ่มโดยการสมัครนกๆให้กับทุกคนที่เราอยากจะให้เค้ารับ sms จากสำนักงานใหญ่ครับ แล้วก็สร้าง noknok account สำหรับเป็นแหล่งกระจายข่าวครับ อาจจะสร้างไว้หลายๆ account ก็ได้เช่น account นี้กะว่าจะเอาไว้ส่งพนักงานเขตกรุงเทพ และ อีก account หนึ่งกะว่าเอาไว้ส่ง sms เพื่อส่งให้พนักงานเขตดินแดนอีสาน และก็อีก account ก็อาจจะเพื่อใช้ส่ง sms ให้กับพนักงานทั้งหมดขององค์กรครับ(ไม่ว่าจะเป็น พนักงาน กทม หรือพนักงานเขตดินแดนอีสาน) แล้วจดเอาไว้ครับว่า account อะไรกะว่าจะเอาไว้ส่งให้กับใครบ้างครับ การสร้าง account เพื่อพนักงานขายแบบนี้ตอนที่สร้างเสร็จทุก account จะต้องไปล็อคการ update ที่มันจะเขียนเอาไว้ว่า “ป้องกันการอัพเดทของฉัน” แต่ดูๆแล้วการใช้งาน นกๆ นี่มันเหมือนจะเน้นให้แสดงเนื้อความกันไม่ว่าคุณจะป้องกันการอัพเดทของฉันหรือไม่ก็ตามสำหรับตอนนี้ หรือว่าระบบมันยังไม่สมบูรณ์ผมก็ไม่แน่ใจครับ เพราะฉะนั้นเพื่อความมั่นใจเนื้อความที่ส่งออกไปนั้น ต้องแน่ใจได้ว่ามันก็ไม่ได้เป็นความลับอะไรหรอก ตัวอย่างเช่น การนัดประชุม การบอกเนื้อหาประชุม การแจ้งข้อมูลราคาขายใหม่วันนั้น(อาจจะเป็นความลับหรือไม่แล้วแต่..) หรือ เนื้อความจะเป็นรหัสอะไรบางอย่างก็ได้ครับ ที่คิดว่าคนอื่นไม่เข้าใจหรอกรู้กันเอง หากเช่นอ้างอิงรหัสสินค้าเป็นต้น
ขั้นตอนต่อไปที่จะต้องทำก็คือ เข้า account ของพนักงานแต่ละคนที่จะเป็น account เพื่อรับข้อมูล เมื่อเข้าไปแล้วให้ค้นหาติดตาม account ที่เป็นตัวกระจายข่าวให้ถูกประเภทครับ ตัวอย่างเช่น พนักงานอีสานก็ต้องแอด account ของตัวกระจายข่าว 2 accounts ด้วยกัน คือ อันแรกคือ account ที่เอาไว้กระจายข่าวสำหรับพนักงานทุกคน และอีก account ที่ต้องติดตามก็คือ account ที่มีเอาไว้เพื่อกระจายข่าวให้เฉพาะพนักงานเขตอีสานเท่านั้นครับ ทำแบบนี้กับทุก account ที่เอาไว้รับข้อมูลครับ สำหรับ account เพื่อการกระจายข่าวก็ไม่ต้องทำอะไรครับ นอกจากไปดูว่า account ที่ติดตามอยู่นั้นมีจำนวนและรายชื่อ account ถูกต้องครบถ้วนหรือไม่เท่านั้นเองครับ หากว่ามีคนอื่นๆติดตามอยู่ก็ไปบล็อคเค้าซะงั้นก็ได้ครับ
พอจะส่ง sms ไปหาใครก็เข้า account ประเภทส่งนั้นๆแล้วก็พิมพ์ส่งไปเลยครับ แต่ก็อย่างว่าล่ะครับขอให้มั่นใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไม่ได้เป็นความลับอะไร หรือยังมีอีกวิธีครับ เพื่อความ Sure ว่าจะไม่อะไรหลงเหลือปะเอาไว้ที่อินเตอร์เน็ตเมื่อเราส่งไปแล้วก็ลบออกทันทีก็ย่อมทำได้เหมือนกันครับ ข้อความที่เหมือนว่าไม่อยากจะปะเอาไว้ในเน็ตก็จะหายไป แต่ว่าคนที่ติดตามเราที่เป็นคนนอกเค้ารับข้อมูลแบบ sms แล้ว ก็แปลว่าเค้าก็เนื้อความนั้นไปแล้วเช่นเดียวกันครับ
เขียนไปเขียนมาคิดไปคิดมา มันดูเหมือนการใช้ผิดวัตถุประสงค์ไปบ้าง แล้วก็มีเรื่องความลับเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการใช้งานตามที่ผมว่าไปนั้นต้องคิดให้รอบทั้งหมดนะครับ ว่ามันมีข้อเสียมากกว่าข้อดีหรือเปล่า หรือว่าเราเอามาประยุกต์กับงานหรือการใช้งานของเราได้มากน้อยแค่ไหนครับ อันนี้ก็สุดแล้วแต่องค์กรและคนที่จะต้องตัดสินใจทดสอบใช้งานกับตรงนี้แล้วล่ะครับ
ลองคิดประยุกต์หลายๆแบบนะครับ อาจจะใช้สำหรับการทำ promotion ก็ได้หากว่าลูกค้าเค้ายินยอมรับข่าวสารจากเราทางมือถือก็ทำแบบนี้ได้เหมือนกันครับ เช่น อาจจะบอกว่าตอนนี้เราลดแบบนู้นแบบนี้เป็นต้น มันยังมีที่ไปอีกเยอะมากๆน่ะคับ ลองคิดๆดูแล้วกันนะครับ ที่ผมเสนอมาก็เป็นคนทางหนึ่งที่เราจะใช้งานได้เท่านั้น ต้องกลับไปคิดเองเพิ่มเติมต่อไปแล้วล่ะครับ ว่าจะใช้ยังไงได้อีก..