rackmanagerpro.com

นัดเดทครั้งแรกจะเลือกร้านอาหารแบบไหนดี และต้องทำตัวยังไงถึงจะเหมาะ?

ร้านอาหารสำหรับการ dating ครั้งแรกต้องเลือก

สำหรับหนุ่มๆสาวๆเมื่อเข้าสู่วัยทำงานแล้วโอกาสการพบปะผู้คนก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่างานที่คนๆนั้นได้ทำนั้นเป็นแบบไหน ถ้าหากว่า งานเป็นงานที่ต้องอยู่ประจำที่ไม่ได้เดินทางหรือว่าพบปะผู้คนมากเท่าไหร่นัก หรือว่าต้องทำงานอยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่สำนักงานอย่างเดียว ก็จะไม่ได้เจอคนอื่นเพิ่มเติมมากขึ้นในชีวิตสักเท่าไหร่ ทำให้อาจจะต้องอาศัยเพื่อนๆ พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนพ่อ เพื่อนแม่ ในการ networking หาหนุ่มหรือสาวที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับที่เราต้องการ หรือว่าทางเลือกสมัยใหม่หน่อยสำหรับคนรุ่น IT ก็จะเป็นเรื่องของการใช้ระบบการหาคู่ผ่านตัวช่วยทาง online service หรือจะเป็น offline service ที่มีการเลือกคนแบบ hand-picked  ที่มีการ interview ผู้ใช้บริการอย่างจริงจังก็ได้

แต่ประเด็นสำหรับวันนี้คือ ผมอยากจะเอาประสบการณ์เล็กๆเพื่อให้หนุ่มที่จะไปเจอสาวครั้งแรกผ่านระบบ Networking วิธีการใดๆที่ผมได้ว่าไปแล้วเมื่อครู่ และจะต้องมีการเจอกันครั้งแรก ! เพื่อเป็น First Date ว่าผู้บ่าวจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ครับ เอาเป็นว่ามาดูกันเป็นประเด็นๆไปเลยแล้วกันครับผม

เลือกร้านอาหารสำหรับการออเดทให้ฉลาดเสียหน่อย !

ร้านอาหารเลือกเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น? : เจอครั้งแรกถ้าหากว่าเป็นไปได้เพื่อความปลอดภัยของทั้งสองฝ่าย ให้เลือกอาหารเป็นมื้อกลางวันจะดีกว่า เพราะ ผู้สาวจะมองว่า กลางวันก็น่าจะปลอดภัยกว่า กลางคืนมาก หรือในทางกลับกันสำหรับลูกคุณหนูมากๆ จะไม่สามารถกลับบ้านหลัง 2 ทุ่มได้ ! ซึ่งคนแบบนี้มีอยู่จริงในโลก (ประมาณว่า ที่บ้านเลี้ยงมาดีและผู้สาวไม่ต้องการให้ที่บ้านเป็นห่วง) สำหรับคนที่ทำงานกลางวันด้วยกันทั้งสองฝ่าย หากจำเป็นต้องเลือกเป็นมื้อค่ำก็ไม่ได้เป็นทางเลือกแย่กว่าอะไรมากนัก เพราะ อย่างน้อยก็จะทำให้รู้ได้ว่า ทางบ้านผู้สาวนั้นก็ปล่อยให้เธอกลับบ้านดึกได้ เป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการนัดผู้สาวในครั้งถัดเพื่อเป็นการเพิ่ม range ของ location ร้านอาหารและเพิ่ม Time Span ในการเจอกันได้อีกต่างหาก

สถานที่นัดเจอและเวลานัด : เลือกเป็นร้านอาหารที่ไม่ได้เป็นร้าน Fast Food หรือคนพลุกพล่านมากนัก การเจอกันครั้งแรก สภาวการณ์ที่ไม่อยากจะให้เจอเท่าไหร่ก็คือ อาการโมโหหิว เพราะงั้นแล้วก็ควรนัดเจอกันก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะหิวมากๆ เพราะ ไม่แน่เหมือนกันว่า ผู้สาว อาจจะโมโหหิวได้ไม่ยาก ถ้าหากว่ามาเจอคิวที่ต้องต่อหน้าร้าน fuji (ที่มีคนต่อคิวยาวตลอดเวลา) หรือว่าร้านอะไรที่มัน Hot Hit มากๆเป็นต้น  การเลือกที่ให้ไม่พลุกพล่านจะทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันน้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคิว เรื่องรอนาน หรือว่าเรื่องอาหารมาช้า มาบ้างไม่มาบ้าง หรือ อาหารที่สั่งตกหล่น หรือแม้กระทั่งอาหารมาไม่พร้อมกัน !

เสียงในร้านจะต้องไม่ดังมากนัก : แน่นอนว่ากิจกรรมที่คุณนัดเดทครั้งและต้องทำกันก็คือ “การคุยกัน!” เสียงในร้านจะต้องไม่ดังกลบบทสนทนานั้น หรือ เสียงในร้านจะต้องไม่เปิดเพลงดังหรือเสียงโต๊ะอื่นดังมาก จนต้องตะโกนคุยกัน สำหรับผู้สาวที่เสียงเบาและเล็กอาจจะเกิดความกังวลต่อการได้ยินของอีกฝ่ายหนึ่งได้ และก็จะพูดน้อยลงไปอย่างมาก (โดยส่วนตัวแล้วผมก็เป็นเหมือนกันก็คือ เป็นคนพูดไม่ค่อยดังมากสักเท่าไหร่ เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังก็จะไม่อยากจะพูดอะไรมาก) แต่ถ้าหากว่า คุณอยากจะเอาปากแนบหูผู้สาวในครั้งถัดไป ก็เลือกร้านทีมีดนตรีสดหรือร้านที่เสียงอึกทึกครึกโครมได้ เพื่อได้มีโอกาสทำอย่างที่ผมบอก (และนั้นก็แปลว่าคุณอาจจะยังไม่ได้คิดที่จะหาคู่จริงๆจังอยู่ก็ได้ครับ)

ร้านนั้นจะต้องไม่ติดทีวี ! : ไหนๆก็่ว่าด้วยเรื่องบรรยากาศร้านแล้ว การเลือกร้านที่มีทีวีติดตั้งอยู่ถือได้ว่าเป็นความผิดพลาดมหัน เพราะ TV ในช่วง prime time จะทำให้ผู้สาวหันไปมองละครที่เจ้าหล่อนติดอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นละครตบตีกันช่องสามห้าเจ็ดและเก้า) และลดความสนใจต่อบทสนทนาของเรา หรือ ลดความสนใจแม้กระทั่งตัวเราได้ ทั้งๆที่เหตุผลเพื่อมาเจอกันนั้นก็คือ “เพื่อเดทกันและให้ความสนใจศึกษากันในครั้งแรกสุด!” ต่างหาก  ถึงแม้ว่า ผู้สาาวจะไม่ได้สนใจละครมากนักแต่ว่า การที่ร้านค้าร้านอาหารเปิด TV เพื่อให้มีบทสนทนาที่รุนแรง(ด่าทอ กรีดร้อง โวยวายผ่านตัวละครในหน้าจอ) ผ่านออกลำโพง TV ออกมาได้นั้น ก็จะทำให้บรรยากาศร้านโดยรวมเสียไปอย่างมากอยู่ดี เอาเป็นว่าถ้าหากว่าคุณรู้ว่าร้านไหนติดทีวีก็อย่าเลือกเป็นร้านอาหารเพื่อการ date ครั้งแรกก็แล้วกัน

ร้านอาหารที่เป็นอาหารหลายหมวด ต้องให้ผู้สาวเลือกอาหารก่อน : จริงๆแล้วเป็น เหตุผลที่ไม่ได้เป็นเหตุผลมากนัก ในการเลือกอาหารจากเมนู กล่าวคือ เมื่อคนแรกเลือกอาหารอะไรไปแล้ว คนที่สองหรือคนอื่นๆก็จะไม่เลือกอาหารซ้ำกันในโต๊ะอาหารเดียวกันนั้น มันไม่ได้เป็นธรรมเนียมอะไรแต่ก็ทุกคนก็ทำกันเหมือนได้ตกลงกันด้วยสัญญาใจเอาไว้แบบนี้แล้วครับ อาจจะเป็นเพราะว่า ถ้าหากว่าอาหารจานเกิดไม่อร่อยขึ้นมาก็จะได้มีคนไม่อร่อยอยู่แค่คนเดียวหรือว่า ดูอาหารบนโต๊ะแล้วก็จะไม่ไม่เหมือนกันแล้วมันก็จะทำให้ดูโอ่อ่าสวยงามบนโต๊ะอาหาร ก็เป็นได้ครับ (แต่ว่าทั้งนี้ก็ยังไม่ได้มี research เรื่องนี้อย่างจริงจังว่าเหตุผลเบื้องหลังคืออะไร) ถ้าหากว่าคุณเป็นเลือกอาหารจากเมนูก่อน นั้นก็แปลว่า คุณได้ตัดตัวเลือกไปแล้วตัวหนึ่ง ซึ่งมันก็อาจจะเป็นอาหารจานโปรดของเจ้าหล่อนก็ได้ นอกจากนี้แล้ว ถ้าหากว่าร้านอาหารมีเมนูที่หลากหลาย Theme เช่น ร้านนั้นขาย Pizza และอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่นในร้านเดียวกัน (ซึ่งแปลว่าร้านอาหารร้านนั้นไม่มี Theme ร้านที่ชัดเจนหรือว่าคิดว่ามีอาหารเสนอให้ลูกค้ามากแล้วจะดี … ) แล้วคุณเลือกอาหารแล้วก็คือ แกงกระหรี่ไก่ (แต่ว่าผมไม่แนะนำเมนูนี้น่ะครับเพราะว่าแค่ชื่อฟังก็แย่แล้ว แล้วตอนกินยังจะต้องมีคราบกะทิติดปากอีกสำหรับหนุ่มๆที่กินอาหารออกแนวซกมกหน่อย)

เลือกอาหารให้ดูดีกินดีมีชาติตระกูลระหว่างทาน : การสั่งอาหารไม่แนะนำเป็นอาหารเส้นสักเท่าไหร่เพราะ คุณจะต้องดูดเส้นเคี้ยวเอื้องเพื่อย่อยเส้นหมี่หรืออูด้งยาวๆด้วยกิริยาที่ดูไม่ค่อยจะเข้าท่ามากนัก การเอาเส้นอูด้งออกจากชามอาจจะเกิดการกระเด็นกระดอนไหลหลุดลื่นจากตะเกียบที่คุณใช้งานอยู่ได้ไม่ยาก ให้คุณออกแรงคิดนิดนึงว่า อาหารมื้อนี้อาการในการกินต้องไม่อุจาดตามากนัก อาหารต้องเอาเข้าปากได้โดยง่ายและไม่ทำให้คุณเลอะเทอะเปรอะเปื้อน

ตำแหน่งเก้าอี้เลือกเป็นแบบโต๊ะนั่งสองคน : เรื่องนี้อาจจะดูไม่เป็นประเด็นมากนัก เพราะยังไงซะ เมื่อพนักงานรู้ว่าคุณจะเข้ามากินร้านเค้าแค่สองคน เมื่อมีโต้ะขนาดสำหรับสองคน พนักงานร้านอาหารก็จะเลือกโต๊ะให้เหมาะกับคุณอยู่แล้วนั่นเอง แต่มันมีเหตุผลอีกเล็กน้อยว่าโต๊ะสองคนโดยมากแล้วจะมีขนาดเล็กกว่าแบบสี่คน จะทำให้ระยะห่างระหว่างคุณทั้งสองคนใกล้มากขึ้น ทำให้คุณคุยได้สะดวกขึ้นและสังเกตสิ่่งอื่นๆได้สะดวกกว่าเดิม

เลือกร้านอาหารที่มีแสงเป็นแบบไฟออกสีเหลืองนวล : เรื่องแสงเป็นเรื่องของบรรยากาศและความรู้สึกเป็นหลักครับ เพราะว่า ปกติแล้วแสงสีเหลืองนวล (ที่ให้แสงสวยที่สุดจะเป็นแสงจากหลอดฮาโลเจนที่ดิมปรับแสงเอาไว้หรือหลอดไส้สีเหลืองก็ได้) จะทำให้รู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง และรู้สึกเหมือนบ้าน และไม่เหมือนกับสำนักงานหรือออฟฟิศที่จะต้องมีอาการตื่นตัวตลอดเวลา (โดยมากแล้วสังเกตหรือเปล่าครับว่าที่โรงงานสำนักงานหรือแม้กระทั่งร้านค้าแบบต้องการเร่งให้คนซื้อของจะเป็นไฟที่มีแสงเป็นสีขาวสว่าง) นอกจากนี้แล้ว เรื่องแสงของร้านอาหารอย่างเลือกร้านให้มืดเกินไป เพราะ มันจะทำให้คุณสังเกตอาการต่างๆของผู้สาวได้ไม่ดีเท่าที่ควร จะดูไม่ออกว่าเค้ามีอาการเขิลหรือไม่ หรือแววตาเป็นอย่างไร มีความสนใจในตัวคุณหรือไม่เป็นต้น แย่กว่านั้นก็คือ ถ้าหากว่าคุณเลือกร้านที่แบบมืดแบบสุดๆ (ผมเคยเห็นอยู่หลายร้านเหมือนกันนะครับ ที่ร้านแม้ว่าจะไม่ได้เป็น Pub & Restaurantก็ตาม) อาการร้านอาหารมืดขนาดนั้นจะทำให้อาหารดูไม่น่าอร่อย มันมองไม่เห็นสีอาหารกันเลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่าครั้งแรกเลือกร้านอาหารที่เป็นพวก Family กินกันเสียหน่อยก็ดีครับ เพราะว่าพวกนี้จะจัดแสงให้เห็นอาหารอยู่แล้ว

การนัดหมายและประเด็นสนทนา

เมื่อคุณเลือกร้านอาหารด้วยเงื่อนไขทั้งหมดที่ผมได้กล่าวเอาไว้แล้ว เมื่อถึงเวลาก็แค่ไปตามนัดเท่านั้นเอง แนะนำว่าให้เซอร์เวย์โดยรอบก่อนว่าร้านอาหารมีโต๊ะนั่งอยู่หรือเปล่าหรือร้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านขนมหวานที่คุณจะต่อ (ถ้าหากว่าคลิ๊กกัน) มันอยู่ที่ไหน แถวนั้นมีร้านขนมหรือว่าของว่างอะไรเพิ่มเติมที่คุณจะไปทานกันสองต่อสองได้อีกหรือไม่เป็นต้นน่ะครับ

ผมแนะนำว่าให้คุณเดินทางไปก่อนแต่ว่าเมื่อถึงแล้ว ถ้าหากว่าคุณถึงก่อนเวลามากๆ ไม่ต้องโทรไปหาผู้สาวบอกว่าถึงแล้วน่ะครับ เพราะบางคนถ้าหากว่าเป็นพวกคนที่ตรงต่อเวลาเป็นนิสัย ก็อาจจะรู้สึกกดดันได้ต่อการเดินทางเนื่องจากไม่อยากจะให้อีกฝ่ายหนึ่งรอ หรืออีกประเด็นก็คือ มันจะทำให้คุณดูเหมือนว่าเป็นพวกตื่นเต้นเวอร์เกินเหตุ อะไรจะตื่นเต้น หรือว่าดีใจอะไรขนาดนั้นที่ต้องไปก่อนเวลาซะมากมาย (แบบว่ายังไม่เคยเห็นหน้าฉันมาก่อนก็ตื่นเต้นขนาดนี้แล้ว ถ้าหากว่าเจอตัวเป็นๆจะลิงโลดเร้าใจไปถึงขนาดไหน)

ให้ไปก่อนเวลานั่นน่ะหละครับ แต่ว่าไม่ต้องโทรไปบอกเค้ามาว่างถึงแล้วถ้าหากว่าคุณถึงก่อนเวลานานมาก แล้วก็ใช้เวลาว่างๆนั้นให้เป็นประโยชน์ด้วยการเดินสำรวจเส้นทางต่างๆเอาไว้ก่อนล่วงหน้าครับ แล้วเมื่อใกล้เวลาสัก 20 นาทีไม่เกินนี้ก็ค่อยโทรบอกได้ครับ

เน้นคุยหัวข้อสนทนาทั่วไปแนวสนุกสนาน  : ใช่ครับ นี่มันไม่ได้เป็นเวลาเครียดหรือเวลาที่จะเอาเรื่องทุกข์ร้อนของตัวเองมาเล่าให้อีกฝ่ายหนึ่งฟังสักเท่าไหร่ เพราะ คุณเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก ไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงอาการน่าสงสารหรือน่าเป็นห่วง หรือ แม้กระทั่งบ่นเรื่องราวใดๆให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ยินได้ฟังครับ แต่ว่าให้เน้นคุยในประเด็นที่กว้างออกไปก่อน ทั้งนี้เพื่อหา “ประเด็นที่คุยได้ร่วมกัน” กล่าวคือ มีความคิดเห็นเหมือนกันหรือคล้อยตามกันในประเด็นเหล่านั้น และเป็นประเด็นที่ดูเบาๆของทุกๆคนอันได้แก่ ประเด็นต่อไปนี้

– ร้านอาหารนี้เคยมาทานแล้วหรือไม่? 
– ชอบกินอาหารแนวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?
– เคยกินร้านอะไรอร่อยหรือเปล่า แล้วแถวบ้านมีร้านอาหารเด็ดๆแนะนำหรือเปล่าครับ?
– ตอนว่างๆเสาร์อาทิตย์ทำอะไรเป็นหลักหรือเปล่าครับ ? (ถ้าหากว่าผู้สาวบอกว่านอนก็ไม่ต้องมีประเด็นอะไรต่อครับผม เพราะว่ารู้แล้วว่า เป็นคนทำงานเยอะไม่เป็นเวลาแล้วก็เป็นพวกนอนยาว …)
– พี่น้องกี่คนครับ ?  แล้วแต่ละคนทำงานหรือว่าเรียนอะไรกันล่ะครับ ?  (แอบสืบประวัติเล็กน้อย)
– เป็นต้น …

บทสนทนาเลี่ยงเรื่องเครียดเอาไว้ก่อนเป็นดี : เรื่องเครียดสำหรับคนส่วนมากจะเป็นเรื่องงาน (ยกเว้นคนที่ประสบความสำเร็จในงานแล้วหรือเป็นคนที่ชอบในงานของตัวเองมากการคุยเรื่องงานอาจจะกระทำได้แต่ว่า … คนแบบนี้ไม่ได้เป็นคนส่วนมากหรอกน่ะครับ ไม่แนะนำให้เสี่ยง) หรือว่าเรื่องเรียนหากว่าผู้สาวเป็นคนเรียนไม่เก่งเท่าไหร่ก็ไม่อยากให้พูดถึงมากนัก ก็เพียงถามกันได้ว่าจบอะไรที่ไหนมาอย่างไร แต่ว่าอาจจะไม่ต้องลงลึกว่า ได้เกรดเฉลี่ยมาหรือไม่ ได้เกียรตินิยมอะไรหรือเปล่าหรือว่าสอบตกวิชาอะไร เป็นต้น ให้เลือกบทสนทนาที่เป็นเรื่องที่น่าสนุกมากกว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกินไม่ว่าจะเป็นของหวาน ของคาว ร้านอาหารแถวบ้าน อาหารโปรด ขนมที่ชอบกิน สัตว์เลี้ยงแสนรักที่บ้าน หรือเรื่องเที่ยวป่าเที่ยวเขาก็ได้ครับ

คำถามทั้งหมดนี้เป็นคำถามเปิดประเด็นเท่านั้น เพื่อให้เกิดการสนทนาที่คุณสามารถคล้อยตามได้ วัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดบรรยากาศเป็นกันเองกันเนื้อหาที่ดูเป็นเรื่องพิ้นๆสำหรับทุกคนไม่เฉพาะเจาะจง และไม่มีศัพท์พิเศษอะไรเฉพาะให้งงกันได้ นอกจากนี้ คำถามทั้งหมดที่คุณถามแล้ว ตัวคุณเองก็ต้อง share ความคิดเห็นเหมือนกับเป็นการตอบในคำถามเดียวกันนี้ให้ผู้สาวได้รับรู้ด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการ share information ระหว่างกันเพื่อรู้จักกันมากขึ้นแม้ว่าจะเป็นมื้ออาหารสั้นๆในครั้งแรกก็ตามที

พฤติกรรมระหว่างการสนทนาและระหว่างเดทครั้งแรกของคุณ

เนื่องจาก ผู้สาวไม่รู้จักคุณมาก่อน คุณสามารถที่จะสร้างภาพลักษณ์ครั้งแรกให้เป็นแบบใดก็ได้ทั้งนั้น ขึ้นกับพฤติกรรมคุณระหว่างการเดทครั้งของคุณนั่นเอง ผมไม่ได้เรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการเสแสร้งและ mind set ของคุณก็ต้องรับรู้อย่างงั้นด้วยเช่นเดียวกัน เพราะ เราต้องการให้ผู้สาว “คลิ๊ก” เราเป็นหลัก ดังนั้นยังไม่ต้องแสดงอากัพกิริยาประหลาดๆที่เป็นต้วตนที่แท้จริงของคุณให้ผู้สาวได้เห็นก็ได้ ผมลอง List รายการสิ่งที่ให้ระวังเอาไว้ตอนเดทเป็นประเด็นๆไปน่ะครับ ลองไปดูกันเลยว่ามีประเด็นอะไรต้องระวังกันบ้าง สำหรับการออกเดทกันครั้งแรก

อย่างแบ่งจ่ายเงินแบบ American Share : ถึงแม้ว่า คุณและผู้สาวของคุณจะจบจากยูดังในอเมริกาหรือว่าเรียนหนังสือหนังสือจากเมืองนอกเมืองนากันตั้งแต่หนวดยังไม่ขึ้น มันไม่ได้เป็นเหตุผลว่าการเดทจะต้องเป็นการแบ่งกันจ่าย เพราะ ผู้สาวนั้นเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการเดทครับ ! ดูเหมือนเป็นการเปลืองตัวนิดหน่อยที่จะต้องมาคุยกับใครก็ไม่รู้ที่รู้แต่ประวัติเบื้องหลังมาบ้างแต่ว่าไม่เห็นหน้าเห็นตามาก่อน แต่ว่าผู้สาวเค้าก็ต้องจัดการแต่งองค์ทรงเครื่อง แต่งหน้าทาปาก เอาไว้อย่างดีระดับหนึ่งกันเลยดีเดียวเพราะว่าไม่แน่เหมือนกันว่าเค้าอาจจะได้เจอกับชายในฝัน(กลางวัน)ก็ได้เพื่อเป็นการทำให้ผู้ชายประทับใจนั่นเอง ดังนั้นแล้วเพื่อเป็นการชดเชยที่คุณได้รับโอกาสอันประเสริฐนี้แล้วไซร้ “จงออกเงินค่าอาหารมื้อเดทแรกนี้เสีย!” (เพราะว่าจริงๆแล้วคุณก็เป็นคนเลือกร้านอยู่แล้ว และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้คุณควบคุมงบประมาณการจ่ายได้อยู่ดี)

การแบ่งกันจ่ายนั้นอาจจะดูเหมือน Fare ดีและดูเป็นฝรั่งหัวนอกแต่ว่า ผู้สาวอาจจะไม่ได้อย่างนี้น่ะซิครับ และ ผมว่าส่วนใหญ่แล้ว จะมองในภาพที่แย่กว่านั้นด้วยก็คือ แหม แค่นี้เองออกให้หน่อยก็ได้ .. .หรือมองแย่กว่านั้นอีก ก็คือ  … อี๋ตานี่นี่ขี้งกน่าดูนะเนี่ยะ เป็นต้น แม้ว่า คุณก็รู้ว่า คุณอยากจะกรองเอาคนที่ไม่ได้หวังเงินออกจากสาระบบวงโคจรของคุณออกแต่ว่า อย่าเพิ่งทำในครั้งแรก เพราะว่าจริงๆแล้วจะมีวิธีการตรวจจับด้วยรูปแบบอื่นๆ ในเดทครั้งถัดไปได้ไม่ยาก เช่นการดูกระเป๋าที่ถือว่ายี่ห้ออะไร หรือการถามถึงการได้มาซึ่งรองเท้าหรือกระเป๋าที่ถืออยู่ หรือ ดูลักษณะการจับจ่ายหรือร้านค้าที่เข้าเป็นประจำก็ได้เช่นเดียวกัน โดยดูเทียบกับสภาพของ ความร่ำรวยของที่บ้านผู้สาว ซึ่งนั่นก็แปลว่า คุณต้องเห็นบ้านเห็นรถ หรือแม้กระทั่งรู้จักผู้ใหญ่มาก่อนก็ได้เช่นเดียวกัน เรื่องทั้งหมดนี้ที่ผมบอกมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังทั้งนั้นครับ

อย่าเอามือถือออกมาเล่น Chat ! เป็นอันขาด : นี่ไม่ใช่เวลาเพื่อ Chat กับเพื่อนครับ แต่ว่าเป็นเวลาเดทติ้งของคุณ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมีการรบกวนจากสื่อภายนอกแต่ประการใด การเอามือถือออกมาแล้วพิมพ์อะไรก็ไม่รู้แล้วปล่อยให้คู่เดทของคุณเว้งว้างลอยหน้าลอยตามองฟ้ามองดินอยู่คนเดียวจะทำให้บรรยากาศดูแปลกไปมาก (ประมาณว่าแล้วเรียกฉันออกมาทำอะไรล่ะเนี่ยะ) แต่ การเอามือถือออกมาเพื่อดูเวลาอาจจะเป็นสิ่งที่กระทำได้ เพราะ ไม่แน่ถ้าหากว่าผู้สาวสนใจคุณ เค้าก็อยากจะรู้ว่าจะติดต่อคุณผ่านทาง Whataspp Line หรือ Skype อะไรได้หรือไม่ ก็ขึ้นกับชาติพันธุ์ของมือถือของคุณนั่นเอง

ทำตัวให้เหมือนว่ามีบุคคลิกภาพที่ดีเข้าไว้ (ถึงแม้ว่ามันไม่ใช่ตัวคุณก็ตาม) : ต้องเข้าใจเสียก่อนว่า คุณกำลังโดนสังเกตพฤติกรรม แม้ว่าผู้สาวจะไม่ได้ตั้งใจอะไรขนาดนั้น ผมรู้ว่าคุณไม่ได้หล่อขั้นเทพและก็ไม่ได้เป็นนเดชที่จะทำอะไรก็ดูดีไปเสียทุกอย่าง และนั่นก็เป็นเหตุผลว่า คุณก็ไม่ควรเปิดเผยอาการแย่ๆในการเดทครั้งแรกให้เห็น (ความเป็นจริงถ้าหากว่าคุณแต่งงานกัน คุณจะตดใส่กันก็ไม่มีใครเค้าว่าหรอกเพราะว่าอย่างงั้นเค้าเรียกว่า รับกันได้แล้วครับ) อาการที่คุณอาจจะเผลอได้ทั้งหมด เมื่อคุณเกิดอาการตื่นเต้นระหว่างการสนทนา ก็เช่น การเอามือไปเกาแกะอวัยวะใดๆของคุณเอง (อย่าไปเกาแกะของผู้สาวเค้าล่ะ) หรือว่าท่านั่งหลังโก่ง หรือ การเอามือพาดไปกันผนักพิง (มันจะได้ภาพลักษณ์ของนักเลงให้เห็นกันคาตาเลยล่ะครับ)

อย่าไปชมว่าเสื้อสวยกระโปรงสวยหรือบอกว่าแขนแขนเรียวเล็กในเดทครั้งแรก : มันทำให้ผู้สาวจับได้ว่า คุณไม่ได้กำลังสนใจเนื้อหาของบทสนทนาของตัวเค้าเลย แต่ดันไปสนใจสังเกตสิ่งที่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล (มันยังเป็นส่วนตัวอยู่สำหรับการเดทครั้งแรกครับแต่ว่าครั้งที่สองนั้นคุณต้องกลับบอกและชมกับเสื้อผ้าหน้าผมเป็นอย่างแรกเมื่อเจอกันเลยล่ะ กลับทางกันอย่างเห็นได้ชัดในประเด็นนี้ เพราะนั่นเป็นการแต่งตัวมาเพื่อพบคุณแล้วล่ะครับ)  แต่ทั้งนี้ถ้าหากว่าคุณเป็นพวกปากหวานจริงๆแล้วล่ะก็ แนะนำว่าให้เลือกวัตถุรอบตัวผู้สาวนัดเดทของคุณแทนก็ได้ เช่น กระเป๋า รถ หรือแม้กระทั่งถ้าหากว่าโชว์ หมาหรือแมวที่ถ่ายเอาไว้ก็ชมมันเสียหน่อยว่า “น่าร๊ากกกอ่ะ” อะไรประมาณนี้ทำได้เต็มที่ครับ เพราะว่า ของเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องการแสดงออก (อยากโชว์) อยู่แล้ว และผู้สาวก็จะดีใจเมื่อมีคนชมวัตถุรอบกายเหล่านี้ ผมว่า .. คุณก็แยกแยะออกว่าอะไรควรชมไม่ควรชมครับ แต่ว่าก็เตือนเอาไว้ก่อนที่คุณจะพลั้งปากออกไปเท่านั้นเอง

เอาที่นั่งโซฟาให้ผู้สาวนั่ง  มีหลายร้านอาหารที่จะมีที่นั่งที่มีลักษณะ ด้านหลังเป็น โซฟาแบบ Build-in กับผนังร้านอาหาร และ อีกด้านหนึ่งของโต้ะอาหารก็จะเป็นเก้าอี้แบบธรรมดา ๆ คุณที่เป็นผู้ชายต้อง lead ให้ผู้หญิงนั่งเก้าอี้ฝั่งที่เป็นโซฟาเอาไว้ก่อน เพราะ ใครๆก็รู้อยู่ว่าด้านที่เป็นโซฟานั้นจะนั่งสบายมากอยู่แล้ว ไม่ใช่คุณพุ่งก้นเข้าไปเป็นเก้าอี้ดนตรีเพื่อแย่งที่นั่งที่สบายที่สุดกับคู่เดทของคุณครับ

หากมีดอกไม้ หรือแผ่นป้ายอะไรขวางกลางระหว่างเราให้เอาออก : ร้านอาหารอาจจะมี Promotion หรือแผ่นป้ายวางเอาไว้ที่โต๊ะอาหาร แน่นอนว่าเราไม่ได้อยากจะรู้สักเท่าไหร่ เดือนนี้มีอะไรลดราคาเป็นพิเศษหรือไม่ หรือก็ไม่ได้อยากจะให้อะไรมาขวางกั้นระหว่างการสนทนา (เรียกว่าเห็นหน้ากันไม่ชัด) ก็ให้ยกแผ่นป้ายเหล่านั้น หรือดอกไม้ตกแต่งออกวางเอาไว้ด้านข้างของโต๊ะด้่านที่ไม่เกะกะสักเท่าไหร่ในการทานอาหาร โดยมากแล้วจะเห็นด้านซ้ายมือของผู้สาว (อันนี้ก็แล้วแต่สถานะการณ์นะครับ)

ระวังสายตาที่คุณจะมองผู้สาวโต๊ะอื่นหรือแม้กระทั่งสาวๆที่เดินผ่านคุณ : แน่นอนว่าเมื่อมีผู้หญิงแบบสวยพริ้งวิ้งเวอร์เดินผ่านคุณหรืออยู่ในรัศมี 5 เมตรรอบตัวคุณ สัญชาติญาณปกติของเพศผู้ก็จะสามารถรับรู้ได้และ “หันไปมอง” หรือจะให้เป็นผู้ดีกว่านั้นก็คือ “เหลือบไปมอง” ด้วยชายตาที่อาจจะต้องการซ่อนการมองนั้น แต่นี่เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรทำให้เห็นชัดแจ้งเมื่อคุณเดทครั้งแรก เก็บเอาไว้ก่อนคิดเอาไว้ในใจว่า ปกติคุณก็มองไปทั่วแล้วได้อะไรกลับมาบ้างมั้ย ถ้าหากว่าไม่ได้จงสนใจกับกิจกรรมที่อยู่ตรงหน้านี้เสียเป็นหลักก่อนที่จะทำให้ผู้สาวตรวจจับการเคลื่อนไหวของสายตาคุณว่าเล็งไปยัง ณ ตำแหน่งใด

 

ผมว่าผมพิมพ์แค่นี้ก่อนดีกว่าเพราะว่านี่เป็นเนื้อหาที่ยาวที่สุดเท่าที่ผมเคยพิมพ์มาแล้วแต่ว่าจริงๆแล้วยังมีประเด็นอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสังเกตว่าผู้สาวให้ความสำคัญกับคุณหรือไม่หรือว่าสนใจคุณมั้ย จะทำยังไงหรือข้อมูลอะไรเพื่อทำให้คุณได้มีการนัดเดทครั้งที่สองต่อไป แม้ว่าอีกทางจะไม่ได้คลิ๊กคุณสักเท่าไหร่ (แต่ว่าคุณดันคลิ๊กผู้สาวเข้าให้แล้ว) เป็นต้น …

ถ้าหากว่ามีคนกด Like เนื้อหานี้มากกว่า 200 Likes แล้วผมจะพิมพ์ต่อครับ ยังไงถ้าหากว่าชอบบทความนี้นอกจากกด Like แล้วให้กด Share ด้วยเพื่อที่ผมจะได้รู้ได้ว่า เนื้อความประเภทนี้เป็นที่ต้องการของบรรดาสังคม online หรือว่ามีการค้นหาใน Google เยอะและมีความต้องการมาก ผมก็จะพิมพ์เนื้อหาประเภทนี้ต่ออกมาเพิ่มเติมอีกและจะ Post เอาไว้ในภายหลังผ่าน rackmanagerpro Facebook (คุณต้องไปกด Like ที่ด้านขวานี่อีกน่ะครับถึงจะเห็นข้อความเมื่อผมมีการ Post content เนื้อหาใหม่ผมก็จะได้แจ้งผ่านทาง Facebook ไปได้ครับ)  แต่ว่าผมก็อยากจะพิมพ์อีกน่ะครับ เพราะว่าพิมพ์ได้มันส์สะใจมากครับ กับการเอานิ้วกระเทาะแป้นพิมพ์กับบทความประเภทเดทติ้งและประสบการณ์ที่มีเพื่อเอามา share กันใน Blog แห่งนี้ครับ

คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:

Exit mobile version