rackmanagerpro.com

การสมัคร Paypal เพื่อเชื่อม credit card เอาไว้เมื่อเปิด account Paypal เอาไว้แล้ว

บทความนี้เหมาะสำหรับคนที่มี account Paypal แล้ว และคุณอยากจะเชื่อมต่อ account Paypal เพื่อให้มีการตัดเงินจากบัตร credit ได้ครับ วิธีการที่คุณจะทำนี้ก็เพื่อที่จะเอา account Paypal เอาไปใช้จ่ายเงินผ่านทาง internet ด้วยระบบ Paypal ครับ ซึ่งผมว่าเป็นวิธีการจ่ายเงินที่ปลอดภัยและรวดเร็วมากๆที่สุดแล้วในโลก internet (ในมุมมองของผมน่ะครับ)  เพราะ การใช้งาน Paypal สำหรับคนที่เปิดร้านค้าแล้วสามารถจะเอาปุ่มหรือว่าเอาระบบการรับเงินของ Paypal มาเชื่อมต่อกับร้านค้า Online ได้ง่ายและดูเหมือนกับค่าใช้จ่ายในการรับเงินของร้านค้า ก็ถูกกว่าทำใช้งานแบบอื่นๆด้วยล่ะครับ (ในกรณีที่ลูกค้าอยากจะจ่ายเป็นบัตรเครดิตน่ะครับ เพราะว่าการรับเงินผ่านการโอนเงินก็เป็นวิธีการที่เหมือนว่าจะไม่เกิดค่าใช้จ่ายกับร้านค้าแต่ประการใดเลย เป็นการผลักภาระค่าใช้จ่ายเพื่อการโอนเงินให้เป็นภาระของลูกค้าแทน แต่ว่าการใช้ Paypal ภาระค่าโอนเงินต่างๆจะเป็นเรื่องของทางร้านค้าเองน่ะครับ ) เอาล่ะครับผมว่าผมจะไม่พูดในมุมมองร้านค้าต่อแล้วดีกว่าเพราะว่าประเด็นของเราวันนี้คือ เพราะว่าร้านค้าทั้งหลายแหล่ สามารถเอาระบบ Paypal มา intregrate ใช้งานได้สะดวก ก็แปลว่า คุณในฐานะคนซื้อสินค้า เพื่อความสะดวกแล้ว ก็ต้องหันมาใช้ Paypal เพื่อการจ่ายเงินเช่นเดียวกันครับ ทีนี้เราก็มาดูกันดีกว่า ถ้าหากว่าเราจะต่อ Paypal เชื่อมกับ credit card จะต้องทำอย่างไรกันบ้าง ?

การเชื่อมต่อ Paypal account กับ credit card แปลว่าอะไร ?

เผื่อเอาไว้ว่า คนที่อ่านอาจจะไม่เข้าใจว่าผมกำลังจะบอกถึงเรื่องอะไรการเชื่อมต่อ คืออะไรน่ะครับ ก็เลยอยากจะพิมพ์บอกเอาไว้เสียหน่อยก็น่าจะดี  เรื่องราวคืออย่างนี้น่ะครับ เพราะว่า ร้านค้าตอนนี้มีการเปิดให้เลือกจ่ายเงินด้วยระบบ Paypal มากขึ้น ทำให้สิ่งแรกที่ คุณ ในฐานะลูกค้าหรือคนอยากจะซื้อของ online (แล้วอยากรู้สึกว่าปลอดภัยด้วย) ก็จะใช้ Paypal เป็นหลักถ้าหากว่าร้านค้านั้นมีทางเลือกนี้ให้เลือก ซึ่งผมเองก็ถ้าหากว่าซื้อของจากร้านค้า online แล้วเห็นว่ามี option การจ่ายเงินด้วย Paypal ให้เลือกผมจะเลือกจ่ายผ่าน Paypal เป็นอันดับแรกครับ

ที่ว่าปลอดภัยนั้นมีเหตุผลก็คือ เพราะว่า มันปลอดภัยกว่าในมิติว่า ถ้าหากว่าเกิดปัญหา เช่น ของไม่มา หรือว่าของไม่มีคุณภาพเป็นไปตามที่เราอยากจะได้หรือยินดีจ่ายเงิน เราจะเรียกเงินผ่าน Paypal เอากลับมาได้ครับ เหมือนกับว่าเป็นการสร้างเรื่องสร้างราวเป็นคดีเอาไว้ (มันก็ไม่เชิงเป็นคดีซะอย่างงั้นหรอก) โดยมี “คนกลาง” เพื่อการไกลเกลี่ยเรียกเงินคืนกันไปมาคือ Paypal ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นผมยังไม่มีโอกาสได้ลองการเรียกเงินคืนในกรณีที่ผมไม่พอใจกับสินค้ากับทาง Paypal ไทยสักครั้ง แต่สำหรับกรณีทั่วๆไปแล้ว การเรียกเงินคืนผ่านทาง Paypal เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ และ เป็นเรื่องทั่วไปที่มีการทำกันอยู่แล้วครับ ก็เลยทำให้ผมคิดว่ามันปลอดภัยดีครับ

อีกเหตุผลหนึ่ง การจ่ายเงินผ่าน credit card ถ้าหากว่าร้านค้าไม่ได้ติดต่อกับ bank เพื่อให้ได้ Credit card payment gateway เพื่อติดตั้งเข้ากับร้านค้าแล้วล่ะก็ ถือได้ว่าการจ่ายเงินผ่านด้วย credit card ผ่านทางหน้า website จะเป็นไปไม่ได้เลย (ถ้าไม่ได้ใช้ Paypal) แล้วถ้าหากว่าเป็นร้านค้าที่รับ credit card คุณก็จะต้องผ่านระบบ verify by VISA หรือระบบ verify ของ bank ใดๆก็สุดแล้วแต่ แล้วถ้าหากว่าคุณจำ password อะไรสักอย่างไม่ได้มันก็เด้งครับ เรียกง่ายๆก็คือ การจ่ายเงินแบบนั้น คุณอาจจะต้องเสียเวลาเพิ่มเติมนิดหน่อยเพื่อแลกกับระบบความปลอดภัยในการใช้งาน credit card แบบ online ครับ ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีน่ะครับ ผมแค่อยากจะบอกว่า มันทำให้การจ่ายเงินนั้นล่าช้าไปหน่อยเท่านั้นเองล่ะครับ

และอีกเหตุผลที่สำคัญที่จริงๆผมน่าจะพิมพ์ไว้ก่อนก็คือ การจ่ายเงินด้ว Paypal ทำได้สะดวกว่าการจ่ายเงินด้วย creditcard มากครับ เพราะ คุณไม่ต้องผ่านระบบ verify by visa หรืออะไรก็สุดแล้วแต่ เพราะ เราเอาแค่ email และ password ของ paypal อย่างเดียวเพื่อกาจ่ายเงิน โดยทางร้านค้าจะไม่รู้ด้วยแม้กระทั่งเลขที่บัตรเครดิตสักกะหลักเดียวครับ ความสะดวกแบบนี้ทำให้การจ่ายเงินไหลลื่นมาก และไม่ต้องมาคิดมากวุ่นวายเรื่องการจ่ายเงิน online อีกต่อไปกันเลยก็ว่าได้ครับ สำหรับกรณีของผมจ่ายเงินแค่ไม่กี่บาทผ่าน Paypal เพื่อซื้อ coupon ใน Ensogo Thailand แค่ไม่ถึง 1 นาทีเดียวซ้ำครับ เร็วซะยิ่งกว่าอะไรอีกครับ !

ถ้าหากว่าคุณไม่มี Paypal account ให้สมัคร Paypal กันก่อนเลยดีกว่ามั้ย ?

ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆทั้งทางด้านคนซื้อและคนขายสินค้า online ทำให้ยังไงซะ ผมก็แนะนำว่าคุณควรจะสร้าง account Paypal เอาไว้ครับ แล้วก็จริงๆ แล้ววิธีการสร้าง paypal account ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรสักเท่าไหร่ (เพราะว่าส่วนที่ดูเหมือนจะยุ่งยากนิดหน่อยจะเป็นตอนที่ต้อง verfiy เชื่อมต่อ credit card ของคุณกับ Paypal account ซะมากกว่าน่ะครับ)  การสมัครคุณก็แค่เข้าไปที่หน้า www.paypal.com แล้วก็หาปุ่ม ลงทะเบียน (ถ้าหากว่าคุณไม่ได้เห็นเป็นคำว่าลงทะเบียนคุณก็ต้องหาปุ่มเปลี่ยนภาษาเป็นภาษาไทยก่อนน่ะครับ แต่ว่าโดยมากแล้ว หน้าเว็ปของ Paypal จะรู้น่ะครับว่าเราเข้า website เค้าจากประเทศไทยก็จะแสดงผลเป็นภาษาไทยเอาไว้เป็นค่าตั้งต้นครับ)

เมื่อคุณกด “ลงทะเบียน” แล้วคุณจะมี options ให้เลือกว่า คุณจะสมัครเป็น account Paypal แบบไหน ? แต่สำหรับคนทั่วไปตั้งต้นแล้ว ที่อยากจะเป็นแค่คนจ่ายเงินแล้วล่ะก็ เอาแค่เลือกเป็น Account Paypal แบบ “บัญชีบุคคลทั่วไป” เท่านั้นก็พอแล้วน่ะครับ สำหรับ บัญชีแบบอื่นๆ จะเหมาะสำหรับคนที่อยากจะเป็น “คนขายของผ่านทางหน้า website มากกว่า”

อ้อตอนที่เลือกน่ะครับ แนะนำว่าคุณต้องเลือกภูมิภาคหรือประเทศเป็นประเทศไทยด้วยน่ะครับ เพราะ ถ้าหากว่าคุณไม่ได้บอกว่าคุณจะใช้ Paypal เพื่อประเทศไทยแล้วล่ะก็ เรื่องราวต่างๆในเนื้อในมันจะไม่ได้เป็นไปตามที่ผมพิมพ์ต่อไปน่ะครับ อีกอย่างคือ ชื่อ bank ชื่อ credit card และชื่อธนาคารต่างๆจะไม่มีในประเทศไทยครับ เอาล่ะ ก็เป็นประเด็นเล็กๆน้อยๆที่สำคัญประการหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ตอนที่จะสร้าง Paypal account ครับผม

การสมัครมันก็จะให้กรอกชื่อที่อยู่ และข้อมูลอื่นๆ เข้าไปแนะนำว่าก็กรอกเป็นชื่อจริงอะไรไปน่ะครับไม่ต้องทำตัวปิดบังเพราะว่า เราในฐานะของคนจ่ายเงิน แล้วเพื่อให้ได้ประโยชน์ในเรื่องความปลอดภัยมากที่สุด ก็ควรจะต้องเป็นข้อมูลจริงๆน่ะครับ ยังไงซะ เมื่อคุณกรอกข้อมูล (จริง) ทั้งหมดแล้ว ก็กดสร้างบัญชี Paypal ได้เลยครับไม่ยาก แต่ว่าเมื่อคุณสร้างไว้แล้ว ณ ตอนนี้ คุณจะยังทำอะไรไม่ได้เลยครับ รับเงินก็ไม่ได้แล้วก็จ่ายเงินก็ยังไม่ได้ครับ จนกว่า คุณจะเชื่อมต่อ credit card เข้ากับ บัญชี Paypal ของคุณครับ

ตอนนี้มี Account แล้ว เริ่มขั้นตอนการเชื่อมต่อ บัญชี Paypal กับ เครดิตการ์ด ของคุณกันเลยครับ !

login เข้าหน้า Paypal account ของคุณ ก็ไปที่เพิ่มหรือแก้ไขบัตรเครดิต

เมื่อกดแล้วก็ เพิ่มบัตร เครดิตของคุณเข้าไปครับ เมื่อแล้วเราก็กรอกชื่อที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษครับ

 

เมื่อกดยืนยันหรือดำเนินการต่อหลังจากกรอกข้อมูลบัตรเครดิตแล้ว ระบบของ Paypal จะบอกว่า จะให้เรายืนยันบัตรของเราเอาภายใน 2-3 วัน วิธีการที่ Paypal จะทำก็คือ มีการชาร์ทเงินเข้าไปที่บัตรไม่เกิน 70 บาทครับ แล้วเมื่อมีการ charge เงินเข้าไปแล้วจะมีตัวเลขแสดงอยู่ 4 หลักหน้าตาก็ประมาณนี้ครับ (เอาภาพมาจากตัวอย่างของ Paypal เองน่ะครับอันนี้)

จริงๆแล้ว คุณจะ check รหัสตัวนี้ได้ในอีกสองสามวันแต่ว่าผมเข้าใจว่าคนปกติแล้วจะรอให้บิลรอบเดือนหรือที่เราเรียกว่า “เอกสารใบแจ้งยอดของบัตรเครดิต” แล้วค่อยดู..ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นมันก็นานเกินรอน่ะครับ แต่ว่าคุณจะทำวิธีนี้ก็ได้เหมือนกันน่ะครับเพราะว่าคุณอาจจะไม่ได้รีบอะไรครับ แต่อย่างไรก็ดี แนะนำว่า คุณควรจะทำการ check การใช้งานบัตร credit card ของคุณผ่าน internet ได้หรือไม่ก็ต้องติดต่อกับพนักงานประจำ bank ของคุณครับ เพื่อถามรหัส Paypal ที่เป็นตัวเลขสี่หลักครับ

การเรียกเก็บจาก Paypal ที่ชาร์ทเข้า credit card นั้นก็เพื่อเป็นการยืนยันครับว่า account Paypal ที่กำลังจะเชื่อมต่อนั้น คุณเป็นเจ้าของ credit card นั้นจริงๆ ไม่ใช่คนอื่นเอาบัตร credit ของคุณไปใช้เพื่อเชื่อมต่อกับ Paypal ครับ ผมว่าเป็นวิธีการยืนยันที่น่าจะปลอดภัยดีครับ

เมื่อคุณได้รหัสมาแล้ว ก็ให้เข้า Paypal ของคุณอีกครั้งครับ แล้วก็เข้าไปที่ “ข้อมูลบัญชี” > เพิ่มหรือแก้ไขบัตรเครดิต แล้วมันจะมี link ที่บอกว่า “ป้อนรหัส PayPal” ให้กดที่นั้นแล้วก็กรอกรหัสตัวเลขสี่ตัวที่ได้มาเพื่อเป็นการยืนยันครับ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ

Credit card ที่คุณเพิ่ม หรือ เชื่อมเข้าไปกับ paypal account นั้นก็สามารถใส่ได้มากกว่า 1 credit card ครับ แต่จะต้องเลือกเอาว่าอันนี้เป็นบัตรหลักที่เชื่อมต่อกับ paypal account ของคุณนี้ ถ้าหากว่าคุณจะใส่ credit card อื่นเพิ่มเข้าไปก็เพื่อเอาไว้ว่า credit card แรกเรียกเงินไม่ไปแล้ว มันก็จะทำได้เรียกเงินจาก card ที่สองแทนเท่านั้นเองครับ วิธีการก็ทำเหมือนเดิม เหมือนกับการเชื่อม credit card บัตรแรกเข้าไป ไม่มีอะไรแตกต่างแม้แต่น้อยเลยล่ะครับ

เอาเป็นว่าถ้าหากว่าลองทำดูแล้วติดปัญหาอะไรงงๆ หรือว่าสงสัยก็ติดต่อผมเข้ามาได้ผ่านทาง live chat ผ่าน Skype  rackmanager ครับยินดีช่วยเหลือให้คำตอบและคำแนะนำ (ทุกเรื่องล่ะครับ แอดมาคุยกันแล้วกันนะครับ)

คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:

Exit mobile version