ต้องบอกก่อนว่า ตอนนี้ผมใช้ iphone และ ipad ในการอยู่บ้านและดู Youtube เป็นหลักแล้วเอา APPLE TV และ CHROMECAST มาเทียบการใช้งานเพื่อจะได้เป็นตัวบอกได้ว่า ถ้าหากว่าจะซื้อมาใช้งานเพื่อทีวีทั้งบ้านแล้วจะเลือกเป็นอะไรกันแน่ แต่ว่า เหมือนว่าตอนนี้จะไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะ สุดท้ายแล้ว อาจจะหนีไม่พ้นเรื่องที่ว่า smart phone จะต้องโดนแปลงเป็น android ในท้ายที่สุดอยู่ดี อย่างไรก็ดีวันนี้อยากจะเล่าเรื่องในประเด็นที่เห็นว่า APPLE TV ทำไม่ได้แต่ว่า Google Chromecast ทำได้ให้เห็นกันก่อนว่า Apple ไม่ได้คิดมาลึกเหมือนอย่างที่ทาง Google คิดสักเท่าไหร่ครับ
Chromecast ปรับเสียง Youtube ได้แต่ว่า Apple TV กลับทำไม่ได้
ไม่น่าเชื่อว่าการปรับเสียง volume น่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุด สำหรับ home entertainment แต่ว่าเรื่องนี้แปลกใจว่าทางแอลเปิ้ลกลับมองข้าม ทำให้ระหว่างที่ดูหนัง หรือ youtube จะไม่สามารถปรับเสียงด้วยเครื่อง iphone หรือเครื่อง ipad ได้เลย ต้องเอา remote tv มาปรับเสียงต่ออีกรอบหนึ่ง ทำให้เหมือนว่า ยังไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่มากนัก แต่กูเกิ้ลโครมแคส กลับทำได้อย่างไม่น่าเชื่อ การปรับเสียงนั้น คือ การกดลดเสียงที่ปุ่ม volume ของ iphone หรือ ipad เองเลยไม่ได้เป็นปุ่มกด software ใน app แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ระดับเสียงที่ปรับได้นั้นถือว่ากว้างอยู่ คือ กดแค่ครั้งเดียวเสียงลดลงมามาก หรือเพิ่มขึ้นมามากไปหน่อย แต่ว่าแน่นอนว่าดีกว่าปรับอะไรไม่ได้เลยจริงมั้ยล่ะครับ
Chromecast สั่งให้เปิดเครื่องทีวีได้ แม้ว่าทีวีอยู่ใน mode stand by ก็ตาม แต่ว่า Apple TV กลับทำไม่ได้
การที่ Chromecast สามารถสั่งให้เปิดเครื่องแล้วทีวีปรับมาที่ช่อง HDMI ที่ Chromecast เสียบอยู่ได้เองทำให้เราไม่ต้องยุ่งกับ remote tv แม้แต่น้อยครับ เมื่อเราเปิดดู Youtube ใน iPad เมื่อใดแล้วอยากจะเอา vdo แสดงไปที่หน้าจอทีวีแทน เราก็แค่เลือกคำสั่งให้ฉายไปทีทีวีได้ทันที โดยไม่ต้องไปกด remote โทรทัศน์แม้แต่น้อย การทำแบบนี้ทำให้เราสะดวกในการใช้งานกว่าเดิมมาก แต่ว่าขอบอกหน่อยว่า สำหรับ Chromecast ที่ต่อนั้นจะต้องต่อไฟฟ้ามาจาก adapter ไฟฟ้าโดยตรงเท่านั้น อย่าต่อไฟฟ้ามาจาก USB ที่อยู่กับ TV ครับ และอีกเรื่องที่คุณต้องรู้ด้วยก็คือ HDMI จะต้องเป็น HDMI-CEC เท่านั้น เรียกได้ว่า คุณต้องรู้ spec tv คุณเสียหน่อยว่า มันต้องรองรับ CEC ที่ว่านี้ด้วยไม่อย่างงั้น ก็จะทำอย่างที่ผมบอกไม่ได้ล่ะครับ แน่นอนว่าที่เล่ามาน้อย Apple TV จะทำไม่ได้ มันจะทำได้แค่ว่าคุณไม่ต้องเปิด APPLE TV จาก stand by mode ให้ Active แต่ว่ายังไงซะคุณก็ต้องเดินหา remote TV เพื่อปรับช่องเป็น HDMI ที่เสียบกับ apple tv อยู่อยู่ดีน่ะหละ เรียกได้ว่า fail มากครับ
Youtube ใน Chromecast กดต่อคิว clip Youtube ได้ต่อเนื่องแต่ Apple TV กลับทำไม่ได้
เนื่องด้วยการทำงานของ Chromecast ประสานกับ Youtube ได้ดีเพราะมัน ก็คือ Google เหมือนกันทำให้ทำอะไรออกมาได้ดีกว่าสำหรับการใช้ Youtube การที่เรากดเลือก clip youtube ก่อนหน้าเพื่อ add que เข้าไปได้ก่อนทำให้เราสามารถเดินไปทำอย่างอื่นได้ และไม่ต้องมาคอยกด Youtube เพื่อเลือก clip youtube ต่อไปเนื่อง clip แรกเล่นจบ สะดวกกว่าเป็นไหนๆ นอกจากนี้คุณสามารถกดให้เล่น Playlist ที่เป็น public บน youtube ได้แล้ว เครื่องก็จะเล่นต่อเนื่องโดยที่คุณไม่ต้องเลือก clip ย่อยๆแต่ละ clip มาเพื่อสร้าง playlist ของคุณเองที่จะฉายไปที่หน้าจอทีวี
เราสามารถออกจาก app Youtube ใน Google Chromecast แล้วหน้าจอทีวียังคงเล่น clip ต่อเนื่องไปได้ แต่ Apple tv แค่ออกก็หยุดเล่นแล้ว
ตลกสิ้นดีที่ Youtube ใน Apple tv คุณต้องเปิดหน้า app นั้นเอาไว้เพื่อให้ทีวียังคงเล่น clip ที่เปิดอยู่ ทำให้คุณไม่สามารถใช้งานอย่างอื่นได้ระหว่างที่คุณต้องการจะเปิด MV บน TV ของคุณ การที่โดนบังคับแบบนี้ทำให้ iphone หรือ ipad ระหว่างที่คุณ cast youtube ผ่าน Apple tv แทบจะเหลือคุณค่าเป็นแค่ remote เท่านั้นเอง ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแค่นี้ทำให้ apple tv ดูด้อยไปกว่ามากทีเดียว มากไปกว่านั้นคือ Chromecast สามารถทำให้คุณ ปิดหน้าจอ iPad ได้ระหว่างที่ clip ใน tv นั้นเล่นอยู่ หรือแม้กระทั่งปิดเครื่อง iphone หรือ ipad ไปเลยยังได้
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ถ้าหากว่าคุณต้องการใช้งาน Youtube บน TV แล้วล่ะก็ Chromecast น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าทั้งในด้านการออกแบบการใช้งานที่เหมือนว่าจะใช้ได้กว้างขวางและ อัตโนมัติมากกว่า เรียกได้ว่า มันควรจะเป็นอย่างไรก็ให้มันเป็นอย่างงั้น ไม่เหมือนกับทางแอปเปิ้ลทีวีที่ยังจะกั้กการทำงานหลากหลายเหล่านี้ออกไป แบบไม่น่าเชื่อว่าผ่านการคิด หรือ การออกแบบเพื่อให้ใช้กับ lifestyle แบบ Apple มาแล้ว (อย่างงั้นหรือ) และด้วยราคาที่ประหยัดกว่ามาก ตอนนี้แทบไม่ต้องคิดแล้วว่าจะเลือก Apple TV หรือ Chromecast เพราะ คุณเหลือแค่ทางเลือกเดียวแล้วล่ะครับ คือ “Chromecast” เท่านั้น
สั่งซื้อ Chromecast ผ่านทาง website Lazada ได้แล้ววันนี้ที่นี่