เคล็ดลับลดระดับน้ำตาลในเลือด: กินอาหารในลำดับที่ถูกต้อง

ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย และอาจนำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในระยะยาว หลายคนมองหาวิธีลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างได้ผล และหนึ่งใน วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การกินอาหารในลำดับที่ถูกต้อง กินอย่างไรให้ถูกต้อง? ผัก: เริ่มต้นมื้ออาหารด้วย ผัก เช่น สลัดผัก บรอกโคลี หรือผักชนิดอื่นๆ โปรตีนและไขมัน: หลังจากผัก ให้กิน โปรตีน เช่น เนื้อไก่ ปลา ไข่ และ ไขมัน เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก คาร์โบไฮเดรต: กิน คาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ขนมปัง เป็นลำดับสุดท้าย ทำไมการกินอาหารในลำดับนี้ถึงได้ผล? ใยอาหารในผักจะสร้างชั้นป้องกันในกระเพาะอาหาร ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลจากคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลการศึกษา ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าการกินอาหารในลำดับที่ถูกต้องช่วย ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้มากถึง 73% นอกจากนี้ ยังช่วย ลดความอยากอาหาร ลดการอักเสบ ปรับปรุงการนอนหลับ สุขภาพผิว และ ฮอร์โมน เริ่มต้นง่ายๆ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอาหารที่คุณกิน เพียงแค่ปรับลำดับการกิน เริ่มต้นด้วยการกินผักเป็น “จานเรียกน้ำย่อย” (veggie starter) ก่อนมื้ออาหารหลัก เช่น สลัดผัก…

ไขมันอุดตันในหลอดเลือด ปัญหาสุขภาพที่ป้องกันได้

ในปัจจุบัน ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นจำนวนมาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักเกิดจาก “หลอดเลือดอุดตัน” อันเป็นผลมาจากการสะสมของไขมันภายในหลอดเลือด ภาวะดังกล่าวส่งผลให้หลอดเลือดตีบแคบลง ทำให้เลือดไหลเวียนได้ยาก ไขมันอุดตัน เกิดจากอะไร ? สาเหตุหลักของไขมันอุดตันในหลอดเลือด คือการรับประทานเนื้อแดง ซึ่งมีสารโคลีน และคาร์นิทีน เมื่อเรากินเนื้อแดงเข้าไป แบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้ใหญ่จะเปลี่ยนสารเหล่านี้ให้เป็นสารพิษชื่อ TMA ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็น TMAO ที่ตับ สารพิษ TMAO นี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด และนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดแข็ง การอักเสบของหลอดเลือด ปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่หลอดเลือดแข็ง เมื่อหลอดเลือดเกิดการอักเสบ เม็ดเลือดขาวชนิด โมโนไซต์ จะเข้าไปแทรกตัวอยู่ใต้ผนังหลอดเลือด และจับตัวรวมกับไขมันชนิด LDL ก่อตัวหนาขึ้นเรื่อยๆ กระบวนการนี้เปรียบเสมือนการฉาบปูนที่ผนังหลอดเลือดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผนังหลอดเลือดหนาขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็ตีบแคบลง เราสามารถล้างหลอดเลือดให้เหมือนใหม่ได้หรือไม่? น่าเสียดายที่เราไม่สามารถล้างหลอดเลือดให้สะอาดเหมือนใหม่ได้…

สรุปการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ตรวจเมื่อใดดี ?

สรุปการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ใครบ้างที่ควรตรวจคัดกรอง? ทุกคน: เริ่มตรวจคัดกรองเมื่ออายุ 45 ปี คนที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่: ญาติสายตรง (พ่อ แม่ พี่น้อง): อายุต่ำกว่า 60 ปี: ตรวจเมื่ออายุ 40 ปี และตรวจซ้ำทุก 5 ปี อายุมากกว่า 60 ปี: ตรวจเมื่ออายุ 40 ปี และตรวจซ้ำทุก 10 ปี ญาติ 2 คนขึ้นไป (ไม่จำกัดสายเลือด): ตรวจเมื่ออายุ 40 ปี และตรวจซ้ำทุก 5 ปี หากญาติสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ตอนอายุน้อยกว่า 60 ปี: ตรวจเมื่ออายุ น้อยกว่า อายุที่ญาติเป็น 10 ปี…