Donut กับการ packing มีผลต่ออารมณ์และสายตาอย่างแรงจนแทบไม่น่าเชื่อ

เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน ผมได้มีโอกาสสยามพาราก้อน แล้วก็เหลือบมองไปเห็นว่าร้าน โดนัท ที่ผมสังเกต และเดินผ่านเป็นประจำนั้น ปรากฏว่า คิวที่เห็นนั้นสั้นลงไปมาก ทำให้ได้เป็นคลื่นลูกที่สอง เพื่อลองดูว่า ร้านเค้ามีอะไรให้เลือกบ้าง แล้วหน้าร้านเป็นอย่างไร ? อาจจะแปลกใจว่า ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้าร้านทั้งๆที่เดินผ่านประจำ เหตุผลก็ตรงไปตรงมาน่ะครับ เพราะ แต่ก่อนร้าน Donut ร้านนี้ คนต่อคิวกันเยอะ ทำให้บังหน้าร้านทั้งหมด เรียกได้ว่า บังมิดทำให้ผมแม้ว่าจะเดินผ่านก็มองไม่เห็นอยู่ดีว่าเค้ามีหน้าอะไรให้เลือกบ้าง หรือ ร้านเค้าวางของขายกันอย่างไร เมื่อคิวมันสั้นแล้ว ทำให้ผมมีโอกาสได้คิดที่จะลองเข้าไปต่อคิว โดยเมื่อเดินไปต่อแล้วก็งงเล็กน้อย เพราะว่า มีการแยกคิวระหว่างคนที่กะว่าจะมาซื้อ donut ประเภทหน้าที่เป็นแบบ original หน้าธรรมดา และ แบบหน้าที่เป็นอื่นๆ ออกจากกันครับ ซึ่งผมว่าเป็นวิธีการที่ฉลาดในการเพิ่มอัตราการซื้อให้มากขึ้นครับ เพราะว่าจริงๆแล้ว…

ขั้นตอนการสมัครและยุทธวิธีเพื่อ สมัครเกมส์ราชรถมาเกย

เมื่อครั้งก่อนผมพิมพ์เกี่ยวกับการประเมินความน่าจะเป็นและโอกาสที่จะได้ jackpot หรือได้รถพรีอุส จากรายการเกมส์ราชรถมาเกย แล้วปรากฏว่า คนที่เข้ามาที่หน้าเว็ปผมด้วยการค้นหา Google search จะเข้ามาด้วย การค้นหาว่า "สมัครเกมส์ราชรถมาเกย" เป็นส่วนมากครับ ซึ่งผมก็เลยอยากจะพิมพ์ทิ้งเอาไว้ที่ blog แห่งนี้สักหน่อยเกี่ยวกับวิธีการ และเรื่องที่คุณอาจจะอยากรู้ในการสมัครเพื่อเล่นเกมส์รายรถมาเกยครับ อ่อ ขอบอกเอาไว้ก่อนนะครับว่า ผมไม่ได้เป็นทีมงาน หรือว่าเป็นคนที่จะ promote อะไรเกมส์ของ Workpoint ครับ ผมแค่เป็นคนที่มีโอกาสได้เข้าไปสัมภาษณ์เพื่อที่จะได้เล่นเกมส์นี้เท่านั้นครับ และก็ผ่านการสัมภาษณ์มาแล้ว เหลือแค่รอเพื่อเรียกเข้าไปถ่ายเท่านั้น (ซึ่งผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะว่าดูเหมือนว่าคิวจะค่อนข้างยาว บอกไม่ได้เลยว่า เมื่อไหร่จะได้เข้าไปเล่นเกมส์กับเค้า แต่ก็ดีนะครับได้มีเวลาเตรียมตัวเพิ่มเติมครับ ) คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:ราชรถมาเกยราชรถมาเกย สมัครwww workpoint co thสมัครราชรถมาเกยสมัครเล่นเกมราชรถมาเกยสมัครรายการราชรถมาเกยสมัครเล่นเกมส์ราชรถมาเกยเกมราชรถมาเกยเกมส์ราชรถมาเกยสมัคร ราชรถมาเกย

วิเคราะห์ โอกาสและการตั้งคำถามของ เกมส์ราชรถมาเกย

ผมดู TV ของ Modern 9 ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง จะพบกับรายการเกมส์ show ใหม่รายการหนึ่งที่ผมว่า เป็นการพัฒนาของเกมส์โชว์ทีสร้างความดึงดูดและดูตื่นเต้น สำหรับคนทั่วไปได้อีกขั้นครับ เมื่อเทียบกับรายการเกมส์ show ปกติที่ทาง WorkPoint ทำอยู่แล้วผมก็ดูอยู่เป็นประจำช่วงเย็นครับ นั่นก็คือ เกมส์ทศกัณฑ์ ดูๆแล้ว รายการทั้งสองรายการเหมือนว่าจะแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน เพราะ เกมส์ทศกัณฑ์นั้นต้องตอบคำถามมากถึง 10 คำถามด้วยกันกว่า jackpot จะแตก แต่สำหรับเกมส์ ราชรถมาเกย มีการถามคำถามแค่ 1 คำถามเท่านั้น ! ถ้าหากว่าตอบได้ (ทั้งหมด) ก็เอาไปเลยรถ 1 คัน (แต่ว่าไม่รู้ว่าต้องเสียรถเก่าไปด้วยหรือเปล่า?…

ปีใหม่ ขอให้เจอแต่สิ่งดีในปี 2011 ตลอดปีครับ !

ขอบคุณคนอ่าน และ คนที่ติดตามเนื้อความที่ผมพิมพ์เอาไว้ที่ Blog นี้มากๆครับ แล้วก็อยากจะปีหน้าเจอแต่สิ่งดีๆพานพบเข้ามาในชีวิต เป้าหมายอะไรที่ปีนี้ทำไม่ได้ก็ขอให้ตั้งเป้าเอาไว้ใหม่แล้วเดินหน้าเดินตามเป้าหมายที่อยากจะทำต่อไป และ มีความสุขกับการเดินทางตามเป้าหมายนั้นด้วยแล้วกันนะครับ ! ขอบคุณจากใจ…

สังเกตกันมั้ยว่าเมื่อเราติดไฟแดง เราจะเอามือถือออกมาเล่น !

  ผมเพิ่งสังเกตตัวผมเองแล้วก็ไปถามเพื่อนๆผมไม่กี่คนน่ะครับ ว่า รู้สึกเหรอป่าวครับว่า ถ้าหากว่าเราไม่ได้ต้องนัดหลายไปไหนด้วยเวลาที่ต้องแน่นอนหรือมีเวลามาบีบบังคับกันมากๆ แล้วเราเดินทางอยู่ในรถ เมื่อรถติดไฟแดงหรือว่ารถติดจากสภาพจราจร เราจะรู้สึกเดือดร้อนน้อยลงไปกว่าแต่ก่อนมากมายนัก เหตุผลก็ไม่ยากน่ะครับ เพราะว่า เมื่อรถติดเราจะเอามือถือออกมา ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือว่า BB หรือว่าพวก Andriod phone ทั้งหลายแหล่ ควักมันออกด้วยมือข้างทีว่างๆไม่ได้จับพวงมาลัย หรือว่ากรณีที่เป็นรถติดไฟแดงนี่ ก็ปรับเกียร์เป็น Gear N หรือว่าเหยียบเบรคเอาไว้แล้วก็เอามือถืออกมาเล่น ทำอะไรต่อมิอะไรเพื่อให้เวลามันเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันก็จะทำให้เราไม่ได้รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนตอนที่เราติดไฟแดงยังไงล่ะครับ เมื่อเรามีสมาธิกับเรื่องอื่นๆที่ไม่ได้เป็นเรื่องของตัวเลขนับเวลาไฟแดง ทำให้เวลาไฟแดงนั้นผ่านไปเร็วมากๆ เพราะ เราทำกิจกรรมอื่น ที่แต่ก่อนที่จะมีอุปกรณ์สื่อสารพวกนี้ (และ internet มือถือด้วยน่ะครับ) ก็จะทำอะไรไม่ได้มากนัก เราก็เลยรู้สึกว่า เมื่อติดไฟแดงเราเหมือนกับโดนกักกันความคิดความอ่าน และ กักกันสภาพกายภาพให้เราอยู่นิ่งๆไปไหนทำอะไรไม่ได้…

ใช้สินค้าและทำกิจกรรมให้น้อยลงน่าจะเป็นแนวทางในการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม

พักนี้ผมได้ไปฟังสัมนาเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่หลายครั้งในเดือนเดียว เรียกว่า เป็นความถี่สัมนาที่ถี่มากเป็นพิเศษอย่างไม่เคยถี่เท่านี้มาก่อน แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมแทบทั้งสิ้น โดยเน้นไปที่การให้ผู้ผลิต หรือ ผู้ให้บริการทำตัวให้เป็นคนที่ดูแลสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ทั้งนี้ยังมีอีกแนวคิดที่น่าสนใจก็คือ การที่ consumer หรือคนที่บริโภคเองน่าจะทำก็คือ การบริโภคแต่น้อยและคิดก่อนบริโภคให้มาก แทบไม่น่าเชื่อว่า ผมจะได้ยินข้อมูลที่ฟังดูประหลาดๆอยู่อย่างหนึ่งก็คือ คนอเมริกันนั้นจะใช้เสื้อผ้าคิดเป็นน้ำหนักเฉลี่ย 38 กิโลกรัมต่อคนต่อปี คำว่าใช้กับคำว่าทิ้งจะมีคนเท่ากัน เพราะ ถ้าหากว่าคุณไม่ได้เก็บเอาไว้ในตู้เฉยๆ สุดท้ายมันก็เหมือนกับการซื้อมาทิ้งอยู่ดี (อะไรที่ไม่ได้ใช้ผมก็เรียกว่าทิ้งทั้งนั้นน่ะครับ ห้องผมก็จะได้ไม่รกน่ะครับ) ลดการใช้สินค้าหรือบริการใดๆให้น้อยลง การที่โลกเรามีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมมาได้นั้นเนื่องจากคนมีปริมาณที่มากขึ้นและคาดว่าในอีกไม่เกิน 50 ปี (ผมจำไม่ได้น่ะครับว่ามันจะนานถึงขนาดนั้นหรือเปล่า) โลกเราจะอิ่มตัวคือ ไม่สามารถที่จะหาทรัพยากรธรรมชาติมาทดแทนใช้ได้อย่างพอเพียงต่อหัวต่อคน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในการปลูกพืช และทรัพยากรธรรมชาติประเภทอื่นๆ แต่จากข้อมูลประมาณนี้ผมไม่รู้หรอกว่า เค้าเอาความต้องการใช้ทรัพยากรต่อหัวมากหรือน้อยเป้นเท่าไหร่เพราะตัวนั้นน่าจะมีผลต่อการคำนวณมากที่สุดครับ อย่างไรก็ดีถ้าหากว่าเป็นอย่างนี้ การบริโภคสินค้าใดๆ ควรจะน้อยลงเพื่อทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงไป ไม่ใช่แค่เลือกบริโภคสินค้าที่เป็น Green product…

Happy Birthday ปีนี้คนส่ง SMS หากันน้อยลงกว่าปีก่อนแน่นอน

แต่ไหนแต่เราถ้าหากว่าเรายังพอมีเพื่อนฝูงที่พบปะอยู่บ้าง หรือไม่ค่อยได้เจอะเจอเท่าไหร่ เรามักจะส่ง SMS หาเค้าคนนั้น เพื่อ Happy Birthday หากันทุกๆปี แต่ว่า เหตุการณ์แบบนั้นจะเกิดขึ้นน้อยกว่าเดิมไปมาก เพราะ มีวิธีการ HBD ที่ถูกกว่านั้น หรือแทบไม่ได้เสียเงินเลยก็ว่าได้ด้วยการใช้ Facebook Wall Post หากันครับ วิธีการนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อ Facebook ของคนๆนั้นอนุญาตให้เพื่อน (หรือเพื่อนของเพื่อน) สามารถพิมพ์ Post ปะไว้ที่ Wall ได้น่ะครับ และ นี่เป็น Default ของการตั้งค่าใน Facebook ครับ คือคนอื่นพิมพ์อะไรเข้าไปที่หน้ากระดานข่าวของเราได้ เพื่อให้เพื่อนคนอื่นของเราได้เห็นครับ แต่นั้นไม่ได้หมายรวมถึงผมน่ะครับเพราะว่า ผมทำการตั้งค่าให้ ไม่มีคนอื่นพิมพ์…

ทำไมผมไม่กินน้ำอัดลมน่ะเหรอ ? ถามแปลกนะนั่น ..

  ถ้าหากว่าดูรูปนี้คร่าวๆเราก็น่าจะรู้ได้ว่า การกินเครื่องดื่มประเภท soft Drink ไม่ได้เป็นเรื่องดีเอาซะเลย และแน่นอนว่าผมไม่ได้กินมัน หรือไม่ได้อยากจะกินมันตั้งนานแล้ว ! เหตุผล สั้นๆที่ไม่อยากกินเลยก็เพราะว่า มันทำให้อ้วน และความอ้วนนั้น ถ้าหากว่าจะอ้วนแล้ว ผมเอาไปอ้วนเพราะอย่างอื่นจะไม่ดีกว่าเหรอ การกินน้ำตาลเป็นปริมาณมากแบบเป็น peak load จากการดื่มน้ำอัดลมนั้น ผมมาว่ามากจนน่ากลัว คุณอาจจะคิดไม่ออกว่ามันมาก หรือ หวานน่ากลัวขนาดไหน ผมไม่สามารถบรรยายให้เห็นได้ตอนนี้น่ะครับ แต่ว่าผมอยากจะให้คุณลองแบบนี้แทนมากกว่า อยากรู้มากน้ำอัดลมที่คุณกินมันหวานมากน้อยแค่ไหนนั้น ทำได้ไม่ยากแค่คุณเปิดน้ำอัดลมยี่ห้อโปรดของคุณเอาไว้ แล้วแช่เยอะ กะว่าจะให้ gas หรือความซ่าของมันหมดไปจากกระป๋อง ผมว่าก็น่าจะนานเอาการอยู่ครับ แล้วทีนี้ก็ลองกินดูว่า คุณจะกินมันเข้าไปได้หรือเปล่า ? เพราะความหวานของมันจะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดจนคุณกินไม่ลง เมื่อความซ่าที่ปิดบังความหวานที่แท้จริงของมันออกไปแล้วยังไงล่ะครับ แถมอีกนิดว่า clip ด้านล่างจะแสดงให้คุณได้เห็นว่า…

update content กันหน่อยหลังจากไม่ได้ up เสียนาน ..

พักนี้เป็นช่วงไม่ได้อ่านหนังสือเพิ่ม ไม่ได้อ่าน Blog content ของคนอื่นเพิ่ม มี feed เข้า Google reader ตั้งมากมายแต่ก็ไม่ได้แม้กระทั่งเอาออกมาอ่านทั้งๆที่ ตอนนี้ผมใช้งาน iPhone ทำให้สามารถอ่านได้สะดวกกว่าเดิมมากๆ แล้วก็ยังปรับเป็นการใช้งานแบบเหมาจ่ายเป็น 250 MB ต่อเดือนอีก ซึ่งเฉลี่ยผมก็ใช้แค่วันๆละได้ไม่เกินประมาณ 8 MB ซึ่งผมเองก็ใช้ไม่เกินสักเท่าไหร่ (แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันถ้าหากว่าเอา app ลงเยอะๆ เป็นพวก app ที่ require การดูดข้อมูลเรียกตัวเองเป็นประจำก็อาจจะทำให้เกินได้ครับ) และนี่ก็จะเป็นเหตุปัจจัยหลักที่ทำให้เราไม่สามารถที่จะ Blog เนื้อหาเพิ่มเติมได้ครับ เพราะว่าแหล่งที่มาของความคิดความอ่าน และ เนื้อหาเกือบทั้งหมด จะเกิดจากการนึกคิด จากเนื้อความที่ได้อ่านได้เจอมา หรือแม้กระทั่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัว แล้วก็เอามาเทียบกับความคิดความอ่านที่เคยรู้เคยเจอมาครับ…

สงสัยล่ะซิว่าทำไมรถติดบนทางด่วนได้ ( Shockwave and Funnel Effect)

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://gpsobsessed.com/ ผมก็เคยสังเกตอยู่หลายครั้งว่าทำไม้ทำไมรถบนทางด่วนมันถึงได้ติดได้ทั้งๆที่เมื่อขับไปสักพักอยู่ๆมันก็วิ่งได้ฉิวๆ อันนี้ผมคงไม่หมายรวมถึง การที่มีการกั้นรถเพื่อให้นายกผ่านทางด่วนแล้วกันนะครับเพราะว่าอันนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ กั้นแบบนั้น รถมันก็ต้องหยุดแน่แท้ครับ  แต่ว่าผมเจอเยอะครั้งเอามือถือออกมาอ่านนุ่นนี่นั่นแป้บเดียวก็ไปได้แล้วน่ะครับ แต่ที่ผมสงสัยจริงๆก็คือ ในสถาวการณ์ปกติ ทำไมอยู่รถถึงได้ติดได้ปรากฏว่า วันนี้เพิ่งจะมีคนมาอธิบายผม ผ่านภาพ infographics ให้เห็นกันจะซึ่งผมก็อ่านแล้ว get เลยว่า  .. มันก็น่าจะเป็นเหตุผลได้น่ะครับ ประการแรก : Shockwave effect เป็นปรากฏการณ์ต่อเนื่องอันเนื่องมาจากการที่รถคันใดคันหนึ่งลดความเร็วแล้วมีผลต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ จากตัวอย่าง เค้ายกตัวอย่างไว้ว่า ถ้าหากว่ามีคนเหลือง (A) ลดความเร็วจาก 60 มาเหลือ 50 ไมล์ต่อชั่วโมง (ความเร็วฝรั่งน่ะครับ) คันหลังเห็นก็ต้องลดให้ต่ำกว่า (เท่ากันก็ไม่ได้ครับเพราะมันเสี่ยงไปหน่อย แล้วก็การลดให้ได้เท่ากันมันจะเก่งเกินน่ะครับ) เช่นลดเหลือ 45 เพื่อรักษาระยะและเพื่อความปลอดภัย…