Business Canvas Model นั้นเป็นเรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ เพื่อทำให้มีภาพความคิดให้ครบทุกด้าน แล้วกลับมามองดูว่า business ที่จะสร้างขึ้นมานั้น ดูแล้วน่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ และจะต้องในกิจกรรมหรือทรัพยากรอะไรบ้าง เพื่อทำให้มันดำรงอยู่ได้
สำหรับเนื้อความนี้ ผมเองก็อ่านเนื้อหามาจาก website อื่นๆ ที่มีการพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว แต่ว่าผมเอามาย่อความตามความเข้าใจ เพื่อจะเอามาใช้งานในการ “คิดให้ครบ” (ในระดับหนึ่ง) ในการออกแบบธุรกิจใหม่ๆ
คุณสามารถ download template เปล่า ของ Business Model canvas ได้จาก http://goo.gl/qa5mY
ตัวอย่าง business model canvas ของ Uber
ตัวอย่าง business model canvas ของ Airbnb
Value Proposition :
ให้บอกว่า business ที่คิดอยู่ มันส่งมอบคุณค่าอะไรให้กับใคร โดยไม่อยากให้นึกคิดเอาเองทั้งหมด ให้ interview inslight ด้วยจะได้รู้ว่าที่เราคิดว่า มันส่งมอบคุณค่านั้น มันส่งไปได้จริงๆ ไม่ต้องคิดเองเออเองทั้งหมด วิธีการ interview inslight นั้นอาจจะทำ prototype เพื่อทดสอบแล้วคุยกับ กลุ่มที่เราได้ส่งมาคุณค่านั้นว่า “เค้ารับรู้คุณค่าที่ให้ไปได้จริง !”
Customer Relationships :
เราติดต่อลูกค้าได้ผ่านทางไหนบ้าง ที่คิดว่าเหมาะกับธุรกิจที่เรากำหนดคิดสร้างมันขึ้นมาอยู่ ไม่ได้ให้คิดออกมาว่าจะติดต่อลูกค้าทางไหนทั้งหมด เพราะ หลายๆทางจะไม่ได้เหมาะกับกลุ่ม customer ที่เราเลือกเป็นเป้าหมายเอาไว้เลยก็ได้ หรือถ้าหากว่าเยอะช่องทาง ต้องคิดว่าจะมีทรัพยากร เพื่อมารองรับหรือจะมี partners เพื่อมารับ การ outsource ของงานออกไปด้วยหรือไม่ และ ใครจะเป็นคนรับทำงานติดต่อกับลูกค้าเหล่านี้
Channels :
จะจัดส่งสินค้าหรือบริการนั้นๆที่เราคิดเอาไว้ จะส่งผ่านไปทางไหนบ้าง
Key Activities :
ธุรกิจที่ว่านี้จะมีกิจกรรมหลักของตัวเองคืออะไรกันแน่ !? (จะได้คิดว่าออกว่า คนในองค์กรจะต้องมีกิจกรรมอะไร เป็นหลัก) แล้วถ้าหากว่าเรารู้แล้วว่า กิจกรรมเหล่านี้เป็น key มันก็ต้องมุ่งเน้น (focus) หาวิธ๊การทำให้ดีไว้ก่อนให้ได้ ดีกว่าคนอื่นที่จะเข้ามาทำตามหลัง
Key Resources :
เพื่อรู้ว่ากิจกรรมหลัก(Key Activites) คืออะไรแล้ว ให้บอกให้ได้ว่า จะต้องใช้ทรัพยากรอะไรเพื่อทำให้ business ดำเนินไปได้ด้วยดีและมีประสิทธิภาพ และทำให้ได้ดีกว่าคนอื่น
Key Partners :
ใครคือ Partners ของธุรกิจนี้บ้าง ? เพื่อที่เค้าจะทำงานอะไรที่เราทำไม่ได้ หรือ ไม่อยากจะทำเพราะว่าเป็นงานที่ไม่สำคัญ แต่ไม่มีไม่ได้ หรือถ้าหากว่าให้คนอื่นทำจะทำได้ดีกว่ามากคุ้มค่า ประหยัดเวลากว่ามาก เป็นต้น
customer segments :
ให้บอกว่า กลุ่มลูกค้าที่เราจะทำการ focus คือใครกันแน่ ? ถ้าหากว่าคิดแบบ gang Paypal เค้าจะให้คิดว่าทำให้แคบไว้ก่อน (แต่ว่าน่าจะใหญ่พอที่จะทำให้บริษัทอยู่ได้) เพื่อเป็นการง่ายในการสร้างธุรกิจ ไม่ต้องแข่งอะไรกับใคร (แนวคิด monopoly concept) จะทำให้คนอื่นไม่เข้ามาแข่งด้วย กว่าคนอื่นจะรู้ตัว business ที่สร้างก็กินตลาดไปทั้งหมดแล้ว !
Cost structure :
เราต้องบอกให้ได้ว่าเราจะเสียเงินไปเรื่องอะไรบ้าง ? เพื่อให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน โดยการพิจารณามาจาก activities หลักที่ เราคิดว่าเราจะต้องเป็นคนทำ หรือจะเป็นการ outsource งานให้กับ partners ของเราก็ตาม (แน่นอนว่าจะเกิด cost ไม่ว่าเราจะทำเองหรือว่าจะให้คนอื่นเค้าทำก็ตาม) ทั้งนี้ เพื่อจะได้เห็นภาพประมาณหนึ่งว่า ถ้าหากว่าดูโครงสร้าง Cost แล้ว มาดูโครงสร้างของการได้มาซึ่งรายได้ น่าจะทำให้ business อยู่ได้หรือไม่ หรือมีความเป็นไปได้ในธุรกิจนั้นๆมากน้อยเพียงใด
Revenue Streams :
สายน้ำรายได้ ออกแบบเอาไว้แล้วว่าจะได้รายได้จากไหน อย่างไร ? ด้วยวิธีการใด สำหรับบน canvas เขียนสั้นๆได้แต่ถ้าหากว่าในรายละเอียดจะต้องออกแบบให้ครบถ้วนว่าจะกำหนดราคาอะไรเท่าไหร่ด้วยหลักการอะไร หรือจะใช้กระบวนการอย่างไรเพื่อกำหนดราคาสำหรับสินค้าหรือบริการนั้น
อย่างไรก็ดี ถ้าหากว่า เป็น business ใหม่ หรือเป็นเรื่องที่เราไม่มีความสามารถในการประเมินรายได้นัก แนะนำว่า ให้สร้างจำลอง business ออกมาก่อน แล้ว ทำการทดสอบว่า กับลูกค้าจริงว่า ถ้าหากว่าเค้าเหล่านั้นเจอ business model แบบนี้ เค้าจะได้รับ คุณค่าที่เราคาดหวังที่จะให้เค้าเหล่านี้ได้จริงๆ หรือไม่ และ เค้ายินดีจ่ายกับ pricing ที่เรากำหนดเอาไว้หรือไม่ ด้วยเหตุผลอะไร ทำไมถึงยินดีจ่าย เป็นไปตามคุณค่าที่เราคาดหวังว่าจะให้ customer ได้รับอย่างงั้นหรือไม่ หรือ ลูกค้ามองเห็น valve proposition ือื่น ซึ่งจะทำให้เราใช้ในการปรับปรุง business model ต่อไปได้อีกด้วย