โปรแกรมป้องกันไวรัส สิ่งจำเป็นสำหรับผู้ใช้งาน Windows ทุกเวอร์ชั่น

antivirus-bit-defender-license

วันนี้ผมอยากจะอธิบายวิธีการเลือกและแนวคิดของการใช้งานโปรแกรมที่ดูเหมือนว่าจำเป็นมากสำหรับการใช้งาน Windows บนเครื่อง PC ทั่วไปสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปในประเด็นของความปลอดภัยในการใช้งาน internet ที่เกี่ยวเนื่องกับโปรแกรมป้องกันไวรัสและมอลแวร์ ที่ส่วนมากแล้วจะคิดว่าไม่รู้จะเสียเงินซื้อโปรแกรมป้องกันไวรัสไปเพื่ออะไร แต่ก็ยังอยากจะใช้เวอร์ชั่นปลอม หรือแบบแคล็กมา โดยที่ไม่รู้ว่าแทนที่จะเป็นการป้องกันไวรัสรัสได้กลับเป็นการเพิ่มโอกาสให้ติดไวรัสได้มากกว่าเก่าไปอีก หรือคนที่คิดว่าอยากจะใช้เป็น version Free ทั้งๆที่ตัวเองต้องการปกป้อง file และโปรแกรมต่างๆในคอมพิวเตอร์ของตนเองอย่างจริงจัง หรือข้อมูลที่อยู่ในเครื่องตนเองนั้นสำคัญมากทางธุรกิจ ยังไงซะจากมุมมองของผมเอง การมีโปรแกรมป้องกันไวรัสแท้ๆติดตั้งเอาไว้น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับ user ที่ทำงานและทำเงินจาก computer เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดไวรัสที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หากผู้ใช้งานไม่ได้มีความรู้ในการป้องกันตนเองสักเท่าไหร่ เพราะงั้นแล้ว สำหรับเนื้่อหานี้ผมจะพิมพ์ประเด็นเกี่ยวกับการใช้งาน AntiVirus แบบเสียเงิน หรือแบบไม่เสียเงินดีกว่าอย่างไร ข้อดีข้อเสียเป็นอย่างไร และ ผมเลือกใช้ AntiVirus ด้วยเหตุผลอะไรแล้วเลือก program Antivirus ตัวไหนติดตั้งใช้งานให้กับสำนักงานที่ผมดูแลอยู่ งั้นเรามาดูกันเลยเป็นประเด็นๆไปแล้วกันนะครับ

โปรแกรมAntivirus เสียเงินเพราะอะไรทำไมต้องซื้อด้วยล่ะ

แอนตี้ไวรัสเป็นเรื่องหนึ่งที่คนที่ใช้งาน Computer ต้องสนใจ เพราะ ปัญหาส่วนมากแล้วมีเกิดแล้วทำให้เครื่องคุณหนืดหน่วงหรือมีอาการประหลาดๆ มาจากไวรัสคอมพิวเตอร์เป็นหลัก แต่คนส่วนมากแล้วคิดว่า ถ้าหากว่าประหยัดได้ก็น่าจะประหยัด โดยคนส่วนมากที่ผมว่านี้ก็จะมีทางเลือกแค่สองทางเท่านั้นก็คือ แบบแรก เลือกใช้ Freeware Antivirus หรือเป็นตัวที่ถูกต้องไม่ผิดกฏหมาย และไม่ผิดลิขสิทธิ์อะไรเพื่อมาติดตั้งให้กับ computer ที่ใช้งานอยู่ และ แบบที่สอง คือเลือกใช้การ Download ของเถื่อนหรือซื้อแผ่นผี Antivirus มาใช้งานแล้วคิดว่ามันก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน ทั้งสองแบบนี้มีข้อเสียที่แตกต่างกันครับ เมื่อเทียบกับการใช้งาน Antivirus แบบเสียเงินและถูกต้องลิขสิทธิ์แบบจริงๆจังๆ

Antivirus แบบ ฟรีมันก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน !

แอนตี้ไวรัส (Antivirus) แบบ Freeware ปกติแล้วเมื่อคุณติดตั้งไปที่ computer ของคุณ มันก็จะเหมือนกับการให้คุณได้ลองใช้ Program Antivirus เหล่านั้นอย่างน้อยก็ 1 เดือนแบบที่จะมี function การใช้งานจริงเหมือนกับ Version เต็ม โดยมากแล้ว เวอร์ชั่นที่เป็นฟรีนั้นก็จะมีการ update ฐานข้อมูลของ Virus และ Malware ใหม่ๆได้จาก server ของผู้ผลิตตัวป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์นั้นอย่างถูกต้อง แต่อย่างไรก็ดีถ้าหากว่าหมดระยะเวลาที่ให้ลองใช้กันแบบเต็มๆเวอร์ชั่นแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือ การเตือน เมื่อคุณเจอไวรัสเข้าอย่างจัง ไม่ว่ามันจะติดมากับ Flash Drive หรือการดาวน์โหลดไฟล์ประหลาดๆและติดตั้งเข้ามาที่เครื่องอย่างไม่ยั้งคิด (ไม่ได้อ่านก่อนเลยว่าอะไรเป็นอะไรมีอะไรให้กดก็กดเอามาติดตั้งกันหมด ผมเรียกว่าการติดตั้งโปรแกรมอย่างไม่ยั้งคิดน่ะครับ อาการเหล่านี้จะเกิดกับคนที่ไม่เคยโดยไวรัสและไม่รู้ว่าสาเหตุมันมาจากการติดตั้งโปรแกรมอะไรก็ไม่รู้แบบที่ไม่ได้อ่านหรืออ่านไม่ออกว่ากำลังจะติดตั้งอะไรเข้าไปที่คอมตัวเอง) แน่นอนที่สุด ถ้าหากว่า Free แล้วมันใช้ได้ดีก็จะไม่มีรายได้เข้าบริษัท เหมือนกับเป็นการเสียแรงงานและแรงเงินเพื่อทำโปรแกรมเพื่อป้องกัน Virus ต้องทำการตลาดประชาสัมพันธ์ และ ต้อง update ไวรัสใหม่อยู่เสมอ ทั้งหมดมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นกับทางผู้ผลิตโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้การตลาดแบบ Freemium เกิดขึ้น แล้วนั่นเองก็เป็นที่มาว่า ทำไม Antivirus แบบฟรีถึงได้มีให้ดาวน์โหลดใช้งานกันอย่างเสียไม่ได้

ทั้งนี้เมื่อมันเตือนไวรัสว่ามีแล้ว โปรแกรมฟรีหลายตัวก็จะแค่ร้องเตือนเท่านั้นแต่ก็ไม่ได้ทำการกำจัดแต่อย่างใด หรือไม่ได้ขั้นตอนเพื่อเอาไวรัสหรือมอลแวร์นั้นออกหรือได้แค่เก็บเอาไว้ส่วนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ดี การเอาไวรัสออกของโปรแกรมป้องกันไวรัสแบบฟรีนั้น ก็เป็นเรื่องทีสุดแล้วแต่ว่าทางผู้ให้บริการโปรแกรมป้องกันไวรัสนั้นได้ออกแบบเวอร์ชั่นฟรีเพื่อให้ทำอะไรได้มากแค่ไหนซึ่งทั้งนี้คุณเองก็ไม่สามารถคาดหวังว่ามันจะต้อง remove ไวรัสออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่าง 100% หรือ บางโปรแกรมที่เป็นฟรีก็จะป้องกันได้เฉพาะ file ที่เพิ่งเข้ามาใหม่เท่านั้น ส่วน file เก่ามันจะติดตั้งและ scan ให้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นซึ่งฟังดูก็เหมือนจะ make sense อยู่ว่า ไฟล์เก่าไม่น่าจะต้องไปแสกนมันอะไรทำนองนี้ แต่มันก็แปลกๆ อยู่ดี เพราะทำไมเราอยากจะ scan ทั้งเครื่องใหม่อีกครั้งเมื่อมีการ update ฐานข้อมูล Virus แล้วก็จะทำไม่ได้ก็มี เอาเป็นว่าเรื่องการใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสแบบที่ดาวน์โหลดฟรีแบบถูกต้องนั้นก็มีการปิดการใช้งานอะไรอยู่หลายส่วนแล้วแต่ว่าทางผู้ออกแบบโปรแกรมจะทำมา เพื่อให้เราซื้อสินค้าที่เป็นโปรแกรมเวอร์ชั่นเต็มในท้ายที่สุดอยู่ดีนั่นเอง

ในทางกลับกันถ้าหากว่าเป็น Version ที่เสียเงิน ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมของเจ้าไหนๆ คุณเสียเงินไปแล้ว เพื่อ “ซื้อความปลอดภัย” ในการใช้งาน computer ของคุณและคาดหวังว่า เมื่อมี Virus computer เข้ามาแตะคอมคุณไม่ว่าผ่านทาง internet หรือทาง Flash Drive ก็จะต้องแจ้งขึ้นมาหรือแม้กระทั่งต้องลบไฟล์ที่เป็นอันตรายเหล่านั้นออกจากระบบเครื่องของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำว่าลบไวรัสหรือมอลแวร์ออกไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้น อาจตีความได้สองทางก็คือ 1. จะไม่ลบอะไรที่ไม่ได้ไวรัสหรือมอลแวร์จริงๆ 2. เมื่อมีไวรัสหรือมีแมลแวร์จริงๆนั้นก็ต้องลบออกไปไม่ให้เหลือหรออยู่ใน computer system ของเราแม้แต่น้อยและไม่กระทบกับ Windows ที่เป็นระบบปฏิบัติการหลักของเรา (เพราะไม่อยากจะลงใหม่เหมือนกัน กว่าจะลงได้ก็เหนื่อยต้องรอและเสียเงินถ้าหากว่าลงเองไม่เป็นอีก … มีแต่เรื่องเสียเงิน ถ้าหากว่าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงน่ะครับ โดยฝากความหวังเรื่องเหล่านี้เอาไว้กับ Antivirus ที่เป็น version เสียเงิน) ทั้งสองเรื่องที่ผมบอกไปตะกี้นั้น จะเป็นตัวประเมินว่า Antivirus ทีมีอยู่ในท้องตลาดทั้งหมดนั้นตัวไหนดีแค่ไหน หรือตัวไหนมันทำงานได้แย่กว่าตัวไหนครับ

Antivirus แบบ Crack มาหรือว่าโหลดบิทมาไม่น่าจะดีได้เลย

ปัญหาแอนตี้ไวรัสที่เป็นประเด็นรองลงมาจากการสำส่อนทางด้านการติดตั้งโปรแกรมผ่าน internet แบบไม่ยั้งคิด และการเอา Flash Drive คนอื่นจากเพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้น่าจะมีคอมพิวเตอร์ที่สะอาดได้นั้นมาเสียบกับ computer ของตนเอง ทั้งสองประเด็นล้วนเป็นความเสี่ยงที่ทำให้คอมพิวเตอร์คุณนั้นติดไวรัสหรือมอลแวร์ได้โดยง่าย แต่ทั้งนี้ก็ยังมีไวรัสที่มาติดเครื่องของคุณได้ในอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ การใช้โปรแกรมแบบไม่ถูกลิขสิทธิ์ที่ต้องมี Crack ใดๆเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้คุณใช้โปรแกรมเถือนเหล่านั้นได้ (โดยคุณอาจจะซื้อแผ่นผีมาหรือดาวน์โหลดมาจากบิททอแร้นก็ได้เหมือนกัน) พวกนี้ตัว Crack จะมี Virus ติดมาด้วยและมันก็ไม่ได้มีการรับประกันอะไรว่าโปรแกรมที่คุณจะติดตั้งนั้นไม่ได้มีไวรัส แล้วที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ “คุณกำลังจะดาวน์โหลดโปรแกรมป้องกันไวรัสที่น่าจะต้องมีไวรัสติดมาด้วย อย่างงั้นหรือ?”

คุณอาจจะแปลกใจว่าทำไมจะปล่อยโปรแกรมให้โหลดบิทกันฟรีๆแล้ว ทำไมมันต้องมีไวรัสหรือว่ามีมอลแวร์ด้วยจริงมั้ยล่ะครับ ? เอาล่ะไหนๆก็เล่ามาถึงตรงนี้แล้วก็จะเกริ่นเรื่องที่นอกประเด็น antivirus ออกไปอยู่บ้างก็แล้วกัน  … สำหรับประเด็นทีว่าทำไมต้องมี Malware เหตุผลนั้นง่ายมาก ! เพราะ Malware จะทำให้คนที่ปล่อยไวรัสหรือปล่อยมัลแวร์ได้เงิน แบบที่คุณไม่รู้ว่าเค้าได้เงินอยู่ แม้ว่าจะไม่ได้มีการขโมย indentity เกิดขึ้นใดๆ แต่เมื่อคนปล่อยบิทให้โหลดฟรีกันแล้ว ก็อยากอะไรกลับคืนมาบ้างอย่างเป็นกอบเป็นกำ ก็จัดการทำให้เครื่องคุณติดไวรัสและทำให้มีโฆษณาหรือ Link พิเศษที่จะส่งคุณไปยังหน้าร้านค้าใดๆก็ได้ที่คุณอาจจะซื้อของเหล่านั้นได้ link เหล่านั้นจะปรากฏซ้ำแล้วซ้ำอีก หรือตั้งหน้าแรกของ internet Browser ของคุณเป็นหน้าแรกอะไรสักอย่างที่จะทำเงินจากมันได้ จากการแสดงจำนวนครั้งในการโฆษณาหรือแม้กระทั่งจากการที่คุณกดอะไรเข้าไปเพื่อไปยังหน้าเว็ปไหนก็สุดแล้วแต่ และทั้งหมดนี้คนที่สร้างมอลแวร์หรือไวรัสจะได้เงินจากคุณแบบที่คุณไม่ต้องเสียเงินใดๆ อย่างว่าล่ะครับ ที่ผมบอกตะกี้เป็นพวกที่ยังไม่ทำอะไรคุณมาก แค่ทำให้เครื่องคุณช้าและแทรกซึมเครื่องคุณแค่บางส่วนเท่านั้น แต่ที่แย่กว่านั้นจะมีอีกโดยเฉพาะพวกอาการที่ติดไวรัสซึ่งมันอาจจะทำให้คอมคุณใช้ไม่ได้เลย file คุณที่อยู่ในเครื่องเข้าไปเปิดไม่ได้ต้องเสียเงินเพื่อติดตั้งโปรแกรม Windows ใหม่ทั้งหมด หรือแม้กระทั่งติดไวรัสกับ file ใน Drive อื่นๆและทำให้เครื่องคุณเป็นแหล่งแพร่ไวรัสต่อไปได้ เป็นต้น แล้วอย่างงี้คุณแน่ใจแล้วหรือว่า คุณจะใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่เป็นแบบแคล็กมียาแก้ไอติดมาด้วย ผมว่าคงไม่ได้เป็นความคิดที่ดีนัก

นอกจากนี้ถ้าหากว่าเป็น antivirus แบบที่มีแคล็ก (ยาแก้ไอ) จากการได้มาฟรีแบบฟรีสุดๆแบบโหลดบิทเอาแล้วล่ะครับ การ update Virus อาจจะทำไม่ได้อีกต่างหาก เพราะ สุดท้ายแล้ว ฐานข้อมูลเรื่อง Virus Database หรือ Malware ใหม่ๆทั้งหมดจะต้องมีการ update ทุกวันเพื่อให้ได้ฐานข้อมูลไวรัสและแมลแวร์ที่ใหม่ที่สุดตลอดเวลาเท่านั้น ซึ่งพวกนี้เป็นแอนตี้ไวรัสโหลดบิทเอานั้นจะไม่สามารถโหลด update ข้อมูลเหล่านี้ได้และนั่นก็เป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะ เมื่อมี virus ใหม่ Antivirus แบบ Crack เอามานั้นก็จะไม่สามารถรู้จักมักจี่หรือทำการป้องกันอะไรได้อีกต่อไป (เพราะไม่รู้จักไม่มีคนบอกว่านี่คือ Malware หรือ Virus Computer)

ทำไมต้องติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและ Malware ด้วยล่ะ?

คนที่อยู่ในธุรกิจจะให้ความสำคัญกับ computer ที่ไม่ติดไวรัสเป็นหลักโดยเฉพาะพวก IT นี่จะกลัวเรื่องไวรัสเป็นอย่างมาก เพราะ อย่างที่บอกไปแล้วคนส่วนใหญ่แบบ user ทั่วไปตาสีตาสาเมื่อนั่งหน้า computer ไปเอาโปรแกรมอะไรมาก็แล้วแต่ เมื่อติดตั้งแล้วได้เกิดติดไวรัส คนที่จะต้องตามล้างตามเช็ดปัญหาเหล่านี้ทั้งหมดก็จะต้องตกเป็นหน้าที่ของพนักงานแผนก IT อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (เพราะว่าบริษัทก็จ้างมาเพื่อแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ที่เกิดในการใช้งานทุกแบบ) เพราะงั้นถ้าหากว่าเครื่อง computer ใดที่ต้องต่อเข้ากับ internet แล้ว พนักงานแผนกคอมพิวเตอร์มีแนวโน้มว่าจะต้องติดตั้ง Antivirus ให้กับ computer ของ user เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและลดภาระงานที่จะเกิดขึ้นได้ถ้าหากว่าติด Malware หรือ Virus computer สำหรับในมุมมองของเจ้าของกิจการเองแล้ว ถ้าหากว่าระบบเกิดติด Virus ขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่มากถึงมากที่สุด เพราะข้อมูลสำคัญทั้งหมดอยู่ในระบบ Network ของ Server ที่แผนกคอมจะดูแลถนอมเอาเป็นและเก็บ Back up สำรองเอาไว้อย่างดีที่สุด ข้อมูลนั้นคือน้ำพักน้ำแรงของทุกแผนกและทุกคนในองค์กร ความเสี่ยงของการติดไวรัสนั้นเกินกว่าที่องค์กรจะรับได้ ทำให้ธุรกิจโปรแกรมป้องกันไวรัสเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดและต้อง perform ได้เป็นอย่างดีบนเครื่อง user ทั่วไป เพื่อให้เป็นตัวเลือกจากคนของแผนกคอมพิวเตอร์หรือจากเจ้าของกิจการนั่นเอง

ต้นทุนโปรแกรม Antivirus สมัยใหม่ประหยัดกว่าเดิมมากแล้วมีถูกถึงระดับแค่วันละ 75 สตางค์ต่อเครื่องก็ยังหาได้

ถ้าหากว่าคุณคิดว่าเครื่องของคุณหรือการใช้งานของ user ในบ้านหรือเพื่อนๆในสำนักงานเป็น user ที่ไม่ได้ระแวงระวังเรื่อง Virus computer สักเท่าไหร่ การติดตั้ง software Antivirus น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับ Admin ประจำบ้านหรือประจำสำนักงานที่ดี เพราะ จะทำให้ไม่ต้องดูแลและแก้ไขปัญหาที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนถ้าหากว่าไม่ได้มีมาตราการป้องกันปัญหาเรื่องไวรัสและโปรแกรมป้องกันไวรัสและ Malware ผ่าน internet ที่ดีพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Business Environment ที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็น user เองหรือว่า Admin. เองนั้นถูกว่าจ้างมาเพื่อกิจกรรมอันก่อนให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรเป็นหลัก ไม่ได้โดนว่าจ้างมาเพื่อให้แก้ปัญหาเรื่องไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือ มานั่งรอความหน่วงหนืดของเครื่องคอมที่ติดไวรัส ! (อย่าลืมว่าความหน่วงหนืดของเครื่องคอมนั้น และความช้าของ internet นั้นเป็นไปได้สูงเหมือนกันว่ามันคืออาการของเครื่องติดไวรัส)

เมื่อเทียบกับต้นทุนของโปรแกรมป้องกันไวรัสและ Malware สมัยใหม่ที่มีการปรับราคาลงมามากแท้มองเป็นหน่วยเงินบาทก็ตาม ถือได้ว่าประหยัดและคุ้มค่าต่อการลงทุนสำหรับ Business มากแล้ว ถ้าหากว่ามีการติดตั้งโปรแกรมเหล่านี้แบบเหมา 3 เครื่อง หรือ 5 เครื่องหรือแม้กระทั่ง 10 เครื่อง PC ก็จะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยประหยัดขึ้นไปอีก หรือถ้าหากว่าคุณมั่นใจว่าคุณเลือกและใช้ Software ป้องกันไวรัสยี่ห้อใดแล้ว ก็สามารถเหมาให้เป็นราย 3 ปีก็ยังได้ทำให้ต้นทุนต่อวันต่ำลงไปได้อีกมาก

จะเลือกโปรแกรมป้องกันไวรัสจากอะไรบ้าง

ผมคงไม่แนะนำให้ user ทั่วไปให้เอา virus มาติดเครื่องหรือยุ่งย่ามกับชุดไวรัสแล้วเอา software Free version มาทดสอบลองเอามากรองไวรัสและ Malware ดูเองที่บ้าน แต่อยากจะให้ดู review เสียมากกว่าว่า website ที่จัดอันดับ Antivirus หรือเว็ปเกี่ยวกับ computer ระดับโลก ณ ปีนั้นๆแนะนำ Software Antivirus ตัวใดเป็นอันดับหนึ่งหรือสอง (จนถึงสิบ) สิ่งที่จะบอกโดยมากก็คือ อัตราความสามารถในการจับไวรัสจริงๆ และ อัตราการจับไวรัสที่ผิดพลาด คือไม่ได้เป็นไวรัสหรือมอลแวร์จริง แต่ก็ฟ้องเตือนจับและลบ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ คนที่ใช้ Antivirus ไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้นกับการใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัสเลยแม้แต่น้อย

ต่อมาเมื่อพิจารณาเรื่องความสามารถทั่วไปแล้วก็ให้เลือกที่ราคาเป็นประเด็นรองลงมาได้ ถ้าหากว่าราคาต่อเครื่องต่อวันดูเหมือนว่าจะแพงไปหน่อย เราก็เลือกตัวที่ถูกกว่าได้หรือ ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากว่าราคาต่อเครื่องต่อหน่วยถูกที่สุด และยังมีความสามารถในการจัดการเรื่องไวรัสได้ดีกว่าแล้ว แน่นอนที่สุดทางเลือกซื้อ Software Antivirus นั้นก็จะคุ้มค่าเอามากที่สุด

ให้สังเกตดูอีกหน่อยว่าคุณต้องการ function การใช้งาน Antivirus แบบใดและมีส่วนใดเกินจำเป็นหรือไม่

แน่นอนที่สุดทุกโปรแกรมป้องกันไวรัสและมอลแวร์จะต้องกันไวรัสได้เป็นพื้นฐานไม่ว่าจะมีความสามารถในการแสกนไฟล์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาหรือว่าไฟล์เดิมที่มีอยู่แล้วในทุก Drive ของเราอยู่ตั้งแต่แรก มันจะมี function ประหลาดๆเพิ่ม โดยส่วนมากแล้วจะตั้งชื่อเป็นเรื่องของ internet security เพื่อให้สินค้าสื่อว่า มันไม่ได้แค่ดูแลเรื่องการป้องกันไวรัสและมอลแวร์เท่านั้น แต่ส่วนตัวแล้วผมอาจจะมองว่าเป็นสิ่งเกินทำเป็นก็ได้ เพราะ ผมเองก็ไม่ได้ทำธุรกรรม online สักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ได้กลัวเรื่อง indentity theft หรือการขโมยข้อมูลส่วนบุคคคล เพราะ หากว่าคุณมีความรู้ป้องกันตัวเองได้สักหน่อยปัญหาเหล่านี้ก็ย่อมไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากว่าคุณจะติดตั้งให้คุณพ่อคุณแม่หรือ user แบบโบราณที่ไม่ได้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน internet แล้วล่ะก็ การเลือกใช้ software antivirus ที่ upgrade spec. เพื่อให้ครอบคลุมไปถึงเรื่องอื่นๆ ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าก็ได้ ก็แล้วแต่สถานการณ์ของแต่บุคคลกันไป

สุดท้ายเท่ามาทั้งหมดผมเลือกใช้อะไรติดตั้งอยู่ที่เครื่อง

สรุปว่าจากที่ผมเล่าให้ฟังแล้ว เครื่อง computer ที่ผมติดตั้งจะเป็นพวกเครื่องสำนักงานที่จะต้องเข้า Server กลางของบริษัทด้วย VPN (อ่านไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรก็ไม่เป็นไรหรอกน่ะครับ) เพื่อความปลอดภัยอีกทางหนึ่ง ผมจำเป็นต้องติดตั้ง antivirus ที่เครื่อง client (เครื่องคอมทั่วไปที่เราๆท่านๆใช้งานกันอยู่เราเรียกว่าเครื่อง Client นั่นน่ะหละ) การต่อแบบนี้ ถ้าหากว่ามีไวรัสที่เครื่องแล้วไปต่อกับเครื่องกลางผ่าน internet แล้ว ไม่รู้ความมันจะปลอดภัยได้มากน้อยแค่ไหน แต่ว่าที่แน่นอนเครื่องทาง Server ก็ต้องมีระบบที่คอยป้องกันปัญหาเรื่อง Malware และ Virus ที่จะไหลผ่านเครื่องลูกเหล่านี้ด้วยเหมือนกัน (มันเหมือนเป็นข้อบังคับกันเลยก็ว่าได้)

สำหรับเครื่องลูกผมติดตั้งเป็นโปรแกรมของ Bid Defender เพราะก็แค่อ่านจาก review ที่อื่นๆและการจัด Rank ประจำปีก่อนแล้วก็เป็น software ป้องกันไวรัสที่มีความสามารถในการตรวจจับไวรัสได้ดีเป็นอันดับต้นๆและ ที่สำคัญเนื่องจากผมจะต้องเอาไปติดตั้งเยอะเครื่องมากๆ ผมจำเป็นต้องเลือกที่มีราคาประหยัดสุดๆ และมันก็ดูเหมือนว่าจะประหยัดเงินสุดแล้ว เมื่อเทียบกับ Antivirus ตัวอื่นๆที่อยู่ใน TOP TEN ANTIVIRUS ประจำปีที่แล้วครับ

ซื้อ Antivirus ของแท้ในไทยจากไหนให้ประหยัดที่สุด

Bit-Defender-Antivirus-download

ตอนนี้คุณอาจจะเห็นร้านค้า computer และเครื่องเคราที่เกี่ยวกับ computer จะมีขาย Software ที่เป็น Anitivirus วางเอาไว้เป็นกล่องๆ หรือ แม้กระทั่งร้านขายแผ่นผีซีดีเถื่อนก็ยังจะมีขาย Software แท้ๆที่เป็น Program Antivirus ให้เราเห็น (เหตุผลว่าทำไมไม่ทำแผ่นก๊อปมาขายนั้นก็เหมือนกับที่ผมอธิบายไปแล้วนั่นน่ะล่ะครับว่ามันไม่่สามารถทดแทนกันได้โดยการใช้แผ่นก๊อปครับ อันเนื่องจากมันจำเป็นจะต้องมีการ update Malware และ Virus ใหม่ๆยัง server ของผู้ผลิตโปรแกรมป้องกันไวรัสรายนั้นๆ) โปแกรมที่ขายเป็นกล่องเหล่านี้จะมีค่ากล่องค่าทางการค้า และกำไรจากหน้าร้านและ มีการกำหนดราคาขายเอาไว้อย่างแน่นอนแล้วว่าเป็นเท่าไหร่ จริงๆแล้วถ้าหากลองสืบราคาดูจะเห็นได้ว่ามันก็ไม่ได้แพงสักเท่าไหร่นัก ถ้าหากว่าคุณสะดวกก็ซื้ออย่างงั้นก็ได้ แต่มันมีวิธีการที่ประหยัดกว่านั้น และสะดวกว่านั้นมากนั่นก็คือ การซื้อผ่านทาง website ของตัวแทนขาย Program Anitvirus พวกนี้ ย้ำอีกรอบว่าไม่ได้ซื้อผ่านทางเว็ปของเจ้าของโปรแกรมโดยตรงนะครับ

การซื้อ Anti Virus แนะนำว่าอย่าไปซื้อตรงกับ website official ของคนที่ขายเองโดยตรงให้เลือกซื้อผ่านตัวแทน เพราะพวกนี้จะมี Discount และ Promotion ได้ทำให้ราคาที่ได้ประหยัดกว่า ก็เหมือนเรื่องทั่วไปน่ะครับว่า ถ้าหากว่าคนที่เป็นตัวแทนก็จะต้องทำตลาดหรือว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการทำให้สินค้าถึงมือคนใช้งาน ส่วนกลางแล้วก็ต้องตั้งราคาให้มากกว่า เพื่อไม่อย่างงั้นก็จะไม่มีคนที่เป็นตัวแทนขายอะไรประมาณนี้ครับ เหตุผลก็ง่ายๆฟังดูไม่ได้ซับซ้อนอะไรครับ

ถ้าหากว่าคุณจะซื้อโปรแกรม Bit Defender เหมือนผมแล้วอยากจะได้ราคา License ต่อเครื่องและประหยัดๆจากการสืบราคาของผมแล้วล่ะก็ แนะนำว่าให้ซื้อผ่านทาง website ของ www.bdantivirus.com เมื่อกดลิงค์ที่จากหน้าเว็ปนี้แล้ว มันจะพาคุณไปยังหน้า shopping cart เพื่อจ่ายเงินโดยตรงครับ หรือแนะนำว่าให้คุณเทียบราคากับหน้า website หลักของ BITDEFENDER.com ว่าราคาต่างกันหรือไม่อันไหนประหยัดกว่าก็เอาอันนั้น

Bit Defender antivirus Plus 2013 buy

ราคาสำหรับ Bit Defender Antivirus Plus 2013 ที่ผมซื้อสำหรับ 1 เครื่อง 1 ปีอยู่ที่ 600 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าหากว่าคุณออกไปเดินหาแบบที่เป็นกล่องจะไม่ได้ราคานี้ เพราะ ราคานี้จะเป็นพวก promotion 50% สำหรับบาง website เท่านั้นเอง (ถ้าหากว่าคุณเข้าที่หน้าเว็ปของ Bit Defender ตรงๆก็จัดไปราคาเต็มครับ) หรือ ถ้าหากว่าผมจะซื้อเพื่อติดตั้งคอมพิวเตอร์สำนักงาน ก็จะเลือกเป็นแบบ Bit Defender Antivirus Plus 2013 แบบ 3 PCS 1 ปี คือ แบบนี้จะเป็นการซื้อเหมาเอาครับ เมื่อ activate แล้วเวลาจะเริ่มนับพร้อมกันทั้งหมด สามเครื่องเลย แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้เอา software ไปติดตั้งที่เครื่องที่เหลือก็ตาม แค่คุณเริ่มใช้เครื่องไหนก็ได้เครื่องแรก มันก็นับวันหมดอายุต่อไปอีก 366 วันทันทีสาม license ครับ แบบนี้จะเหมาะกับคุณคนที่แน่ใจแล้วว่าจะมีเครื่องให้ลง 3 เครื่องเป็นต้นไปเท่านั้นถึงจะเหมาะและคิดว่าจะติดตั้งในวันเดียวกันให้ได้หมด ก็จะได้ไม่ต้องเสียเงินต่อวันไปฟรีๆเท่านั้นเองน่ะครับ ถ้าหากว่าไม่ได้คิดมากเรื่องแบบนี้ก็ทยอยตติดตั้งไปก็ได้ไม่ว่าได้อะไรหรอกน่ะครับ สำหรับ link เพื่อเข้าซื้อ AntiVirus แบบ 3 PCS สำหรับการป้องกันไวรัสและมอลแวร์ 1 ปีเข้าได้จากที่ครับ แบบนี้จะทำให้ต้นทุนต่อเครื่องต่อปีจะเหลือแค่เครื่องละ 300 กว่าบาทเท่านั้นซึ่งถึอว่าประหยัดเงินสุดๆแล้วเท่าที่จะหาได้ในตลาดตอนนี้ !

Bit Defender 3 PC

เปรียบเทียบตารางความสามารถและ function ระหว่าง Bit Defender Plus 2013 และ Bit Defender Internet Security และ Bit Defender Total Security 2013

Bitdefender-Compare-Table

แน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็น Version แบบไหนก็ต้องสามารถติดตั้งบน Windows 8 ได้ทั้งหมดอยู่แล้ว และ ติดตั้งบน Windows XP และ Window 7 ได้ไม่ว่าจะเป็นแบบ 32 Bit หรือแบบ 64 Bit ก็ตาม สามารถแตกต่างกันระหว่าง Antivirus และ Internet Security ก็คือ

Parental Control : จะมี Parental Control ที่เป็นส่วนทีจะเอาไว้ควบคุมการใช้งาน internet กับ user ที่่เป็นเด็กๆคือไม่อยากจะให้เด็กเข้า web โป๊หรือเว็ปประเภทที่ไม่ค่อยพึงประสงค์ 18+ อะไรเทือกนี้ได้ เพราะงั้นแล้วถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว ติดตั้งเพื่อใช้งานเอง หรือ แม้กระทั่งเอาไปติดตั้งใน office ก็น่าจะต้องฟังก์ชั่นนี้แต่อย่างใด (เพราะว่า Business นั้นส่วนมากแล้ว พนักงานจะไม่กล้าที่จะเปิดเว็ปโป้ให้เพื่อนร่วมงานได้เห็นกันอยู่แล้ว ยกเว้นคอมพิวเตอร์ที่หันหน้าจอส่วนตัวไปยังกำแพงและไม่มีคนอื่นเห็นได้)

Two-Way Firewall เป็นระบบ Firewall ที่เกินจำเป็นสำหรับการใช้งานทั่วไป ถ้าหากว่าคุณไม่ได้จำเป็นต้องเข้าใช้งานเพื่อธุรกรรมทาง internet อยู่ประจำทุกวี่วันหรือว่าทำอะไรกับ online Banking มากนักแล้ว คุณก็อาจจะไม่ได้ใช้ function อะไรประเภทนี้ ก็เกินจำเป็นอีกเหมือนเดิมสำหรับคนทั่วไป

AntiSpam เป็นระบบป้องกัน การ Spam ผ่านทาง email Client ใดๆที่ติดตั้งใน computer ของคุณ แต่ส่วนใหญ่แล้ว อย่างคุณหรือผมเองก็จะใช้เป็น webmail ทั้งหมดอยู่ ทำให้เมื่อคุณใช้ function นี้เป็นเรื่องเกินจำเป็นครับ เพราะว่า web mail ไม่ว่าจะเป็น hotmail , Gmail หรือ Yahoo Ymail ก็จะมีระบบป้องกัน Spam ที่ดีมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะ Gmail นี่ดีเลิศเป็นทีสุด ทำให้คัดกรอง Spam ออกจา inbox ของคุณได้สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว เพราะงั้นแล้ว ถ้าหากว่าคุณใช้ webmail เช่น GMail เหมือนกับผมแล้ว ฟังก์ชั่นการใช้งานนี่ก็เกินจำเป็นอีกเหมือนเดิม

สามตัวอย่างที่ผมเอามาเล่าให้ฟังในตารางเปรียบเทียบนั้นจะเห็นได้ว่า สำหรับ user ทั่วไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ ทำให้ยังไงซะ ผมก็แนะนำว่าเลือกเป็นแค่ Bit Defender แบบที่เป็น Antivirus ทั่วไปก็จะดีกว่าครับ แต่ว่าถ้าหากว่าคุณดู Antivirus ยี่ห้ออื่น หลักการเลือกก็ต้องทำการเปรียบเทียบแบบนี้อยู่เหมือนกัน ยังไงซะลักษณะความสามารถที่มากขึ้นไปกว่า Antivirus ทั่วไปทุกยี่ห้อก็จะเป็นสิ่งเกินจำเป็นสำหรับ User ทั่วไปอยู่แล้วทุกยี่ห้อก็ว่าได้ ก็ถ้าหากว่าเลือกอะไรที่ฟังก์ชั่นน้อยกว่าก็จะทำให้คุณเสียเงินน้อยกว่าด้วยเช่นเดียวกัน ผมอยากแนะนำอะไรที่ไม่เกินจำเป็นเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินเปล่าประโยชน์เป็นรายปีก็เท่านั้นเอง เพราะเนื่องด้วย โดยส่วนมากแล้ว หากคุณเลือก solution ที่เป็นตัว internet security แบบครบวงจรจะแพงกว่าแบบที่เป็นแค่ Antivirus ขึ้นไปอีกประมาณ 30% จากราคาของ Antivirus ครับ ถ้าหากว่าคุณคิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปซื้อมันจะดีกว่า

เข้าไปดู feature และรายละเอียดของสินค้า antivirus ของ Bitdefender ได้จากที่นี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *