rackmanagerpro.com

ลักษณะการคิดและการจัดการกับ " บัตรสนเท่ห์ " ในองค์กร

บัตรสนเท่ห์ คือ จดหมายใดๆที่มีการส่งเพื่อเป็นฟ้องว่าคนคนหนึ่งกระทำการไม่ดีในหน้าที่หรือคิดกระทำการไม่ดีในหน้าที่ และจะเป็นผลเสียต่อองค์กร หรือ บริษัท หรือแม้กระทั่งภาคส่วนหรือแผนกย่อยภายในองค์กร และอาจจะก่อให้เกิดเรื่องเสียหายแก่องค์กรได้ โดยจะมีบุคคลที่โดนกล่าวอ้างไว้ในเนื้อจดหมาย และ คนที่ส่งจดหมายมาไม่ออกนามไว้ในจดหมายโดยตรง หรือ อาจจะมีการออกนามแต่อาจจะเป็นชื่อปลอมได้เป็นต้น หรือ อ้างตนว่าเป็นใครคนใดคนหนึ่งส่งจดหมายนั้นเข้ามา ยังผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจหรือส่วนบริหารโดยตรง

เมื่อได้รับบัตรสนเท่ห์จะต้องพิจารณาว่า เนื้อความมีการมุ่งเป้าหมายกล่าวโทษไปยัง “ใคร” เป็นหลัก เช่น ถ้าหากว่านาย A เป็นคนที่ถูกกล่าวโทษ หรือ อ่านแล้วเนื้อความระบุได้ว่า เมื่ออ่านแบบปกติแล้ว ใครจะเป็นผู้ถูกเพ่งเล่งว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา เป็นหลักให้คิดว่า บุคคลผู้นั้นบริสุทธิ์ไว้ก่อน แล้วคิดต่อบริบทโดยรอบต่อไปนี้  กรณีตัวอย่างนี้กำหนดเป็น นาย A

แนวทางการพิจารณาคิดและตรรกะเบื้องต้น

การอ่านจะต้องไม่พิจารณาว่า เนื้อความนั้นเป็นเนื้อความเชิงบวกหรือเชิงลบ เพราะผู้เขียนสามารถทำตัวเหมือนกับเป็นการแจ้งเตือน บริษัทหรือผู้มีอำนาจในการจัดการบุคคลได้ หรือ แม้กระทั่งการว่าร้ายแก่บริษัทได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นอย่าได้เน้นถือทิศทางของเนื้อความว่าจะเป็นบวกหรือเป็นลบต่อบริษัทก่อนแต่อย่างใด  เช่น เนื้อความอาจจะเขียนว่า นาย A เป็นผู้ที่ประสงค์ร้ายต่อบริษัท โดยตนเองได้แจ้งมาเพื่อเตือนแก่ทางบริษัท (แม้ว่าจะไม่มีการบอกโดยตรงว่าต้องจัดการอย่างไรกับนาย A นั้น) หรือ แม้กระทั่งการพิมพ์เนื้อความ เสมือนว่าผู้พิมพ์เป็นนาย A และให้ร้ายแก่บริษัท ทั้งสองกรณีจะมี เป้าหมายที่จะนำไปสู่การทำให้ผู้อ่าน หรือได้รับจดหมายนั้นเข้าใจว่า “นาย A จะเป็นผลเสียแก่องค์กร” ได้ทั้งสองกรณี

ขอให้อย่าเพิ่งเน้นว่าใครเป็นผู้เขียนเพราะ ถ้าหากว่าเป็นกรณีที่เนื้อความเป็นเชิงบวก หรือเตือนบริษัทว่านาย A จะเป็นผู้กระทำการที่ไม่ดีแก่บริษัทได้ เราจะหลงทางในการคิดในส่วนต่อๆไปได้

หลังจากอ่านแล้วและได้เป้าหมายเนื้อความที่ถูกให้ร้าย เช่น นาย A จะต้องพิจารณาต่อไปว่า นาย A นี้เป็นศัตรู หรือ มีคนที่ต้องการจะให้ร้ายหรือไม่ ต่ออีกทอดหนึ่ง เพราะ เป็นไปไม่ได้ว่า ตัวเองจะเป็นผู้เปิดเผยตนเองอย่างแน่ชัดว่า เป็นผู้กระทำหรือคิดการไม่ดีแก่บริษัท แต่แนวโน้มน่าจะเป็นบุคคลอื่นที่หวังไม่ดีกับนาย A เพื่อนาย A นั้นถูกเข้าไปตรวจสอบหาความผิด

หรือหากว่า ถ้าหากว่าคิดตาม flow การคิดด้านบนแล้วพบว่า นาย A จะนำไปซึ่งนาย B ได้โดยง่ายเกินไป (เช่นทุกคนรู้ว่านาย B จะหวังร้ายต่อนาย A อยู่แล้วเป็นประจำ) แล้ว นาย C ต้องการให้เกิดการให้โทษกล่าวร้ายแก่นาย B การกระทำโดยการส่งจดหมายเพื่อกล่าวร้ายนาย A นั้นเป็นเรื่องที่อาจจะเป็นไปได้บ้างเล็กน้อย เพราะ แนวคิดจะไม่ได้ทำให้นาย B เกิดปัญหาโดยตรงเพราะนาย B ไม่ได้มีเนื้อความบอกแต่อย่างใดว่า นาย B คิดไม่ดีต่อบริษัท หรือ กระทำการไม่ดีแก่บริษัท ทำให้ลักษณะการกล่าวร้ายนาย A โดย นาย C นั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก

คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:

Exit mobile version