โดรนที่ไม่ใช่ของเล่นพวกนี้เอาไว้เพื่อถ่ายภาพและวีดีโอสำหรับการท่องเที่ยว ทำเนื้อหา หรือแม้กระทั่งทำงานทำการได้จริงๆสำหรับก่อสร้าง อสังหา คนทำที่ดิน โดยจะเอาภาพเหล่านี้เพื่อการนำเสนอ การประเมินราคา และกระทั่งงานขายทรัพย์เหล่านั้น ดังนั้นแล้ว เราไม่ได้เอาโดรนเอาไว้เพื่อใช้อะไรจริงจังมากเท่าไหร่นัก การเลือกใช้โดรนที่มีสเป็กปานกลางนั้นก็อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนทั่วไปได้ ด้วยงบไม่เกินกว่า 1 หมื่นบาท
การใช้งานโดรนตอนนี้มีภาครัฐเข้ามาควบคุมทำให้คุณจำเป็นจะต้องขึ้นทะเบียนตัวโดรนเอง ซึ่ง มันอาจจะเป็นหน้าที่ของร้านค้าก็ได้หรือทางคนขับโดรนเองก็ได้แล้วแต่ว่าร้านค้านั้นบริการให้คุณได้มากเพียงไหน แต่ที่แน่ๆหากว่าคุณซื้อโดรนที่เป็น ของเล่น เขาจะไม่ทำเรื่องอะไรพวกนี้ให้กับคุณอยู่แล้ว
โดยตัวโดรนจะต้องขึ้นทะเบียนโดรนผ่านทางหน้าเว็บ https://uav.caat.or.th/ ซึ่งที่เว็บนี้ได้มีรายละเอียดบอกขั้นตอนเอาไว้ทั้งหมดแล้ว แล้วการขึ้นทะเบียนเพื่อขับขี่หรือบังคับโดรนก็ต้องขึ้นทะเบีนนด้วยเช่นเดียวกัน เหมือนกับว่า เราซื้อรถมาก็ต้องมีใบขับขี่ด้วย โดยรถก็จะมีทะเบียนรถ และคนขับรถก็ต้องมีใบขับขี่ยังไงอย่างงั้นก็เลยก็ว่าได้ถ้าหากว่าคุณอยากจะขี่นอกสถานที่ที่ไม่ได้เป็นบ้านของคุณเอง
จริงๆเข้าใจหรอกว่า การทำอะไรพวกนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยและ ความเป็นส่วนตัวของเจ้าของสถานที่ ที่โดรนจะเข้าไปบินเล่น เพราะ โดรนระดับนี้มีการถ่ายภาพระหว่างบินได้ ทั้งภาพถ่ายและเป็นวีดีโอ ทำให้เริ่มที่จะไม่ปลอดภัยกับสถานที่คนอื่นเป็นอย่างมาก เพราะ อาจจะบินเข้าไปที่ห้องนอนของบ้านอื่นๆ หรือบินล้ำเข้าไปที่อาคารบ้านเรือนหรือพื้นที่บ้านคนอื่นได้ไม่ยาก และ ถ้าหากว่าเกิดกรณีพิพาทย์ใดๆ จะได้รู้ด้วยว่าโดรนตัวนั้นเป็นของใคร และจะต้องขับโดยใครเป็นคนรับผิดจากการกระทำเหล่านั้น
จะถ้าหากว่า คุณไปให้สุด มันยังมีการประกันโดรนอีกต่างหาก แต่อันนั้นสำหรับโดรนราคาแพงเอามากๆ การประกันก็ถือว่าคุ้ม เพราะ มันประกันทั้งตัวโดรนเองและการประกันการที่มันจะไปก่อให้เกิดการเสียทรัพย์ของสถานที่อื่นๆได้ เช่น โดรนบินไปโดนเสาไฟฟ้า หรือสายไฟฟ้า ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะถูกแน่นอนถ้าหากว่าไปทำหม้อไฟฟ้าของราชการมีปัญหา หรือตกใส่หัวเด็ก ปั่นเด็กตาบอดอะไรพวกนี้เป็นต้น
ทำให้การขับโดรนนั้นต้อง เรียกได้ว่า ต้องรับผิดชอบเอามาก ๆ และ คิดว่ามันเป็นของเล่นเหมือนแต่ก่อนไม่ได้อีกแล้ว เพราะ มันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับคนรอบตัวได้อย่างแน่นอน
การใช้โดรนระดับ DJI MINI SE จะทำให้คุณเข้าสู่โลกของการขับโดรนได้อย่างจริงจัง !
ประสบการณ์ส่วนตัวได้มีโอกาสเล่นโดรนเด็กเล่นหลักร้อยมาแล้ว เพื่อที่จะทำความคุ้นชินกับการที่คุณจะได้บังคับเครื่องบินลอยได้ใน space time 3 มิติให้ได้คล่องก่อน โดยการบังคับนั้นหากว่าคุณซื้อเป็นของเล่นมาเพื่อลองเล่นเหมือนกับที่กระผมทำนั้นก็ถือว่าได้ เป็นเรื่องที่น่าลองและแนะนำด้วยเช่นเดียวกัน เพราะ ไม่อยากจะแนะนำให้คุณไปบังคับกับตัวแพงๆเลยการที่คุณขับตัวเล็กของเล่นไปชนโน้นนี่ก่อนถือว่าจะทำให้คุณประหยัดค่าโดรนที่มันจะพังได้จากการลงทุนตัวจริงของคุณ ทั้งนี้ ส่วนมากแล้วโดรนของเล่นนั้นจะมีโหมดและวิธีการบังคับเหมือนกับโดรน DJI เช่นเดียวกัน โดยมันจะเหมือน Options control แบบที่ 3
DJI MINI SE ระยะเวลาบินเกือบ 30 นาทีจริงซึ่งถือได้ว่ามากเพียงพอแล้ว
ไม่ว่าคุณจะเอาไปเพื่อถ่ายงานหรือถ่ายอะไรเล่น ๆ เราไม่ได้ใช้โดรนเพื่อถ่ายภาพหรือวีดีโอเหล่านั้นเกินกว่า 10 นาทีหรอก ดังนั้นแล้ว การที่ถ่านก้อนเดียวของ DJI MINI SE นั้นที่ติดตั้งที่เครื่องก็มากเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าหากว่า คุณเดินทางประจำไม่มีปลั้กไฟฟ้าให้เสียบ คุณก็สามารถเลือกใช้ power bank เพื่อชาร์ทไฟฟ้าเข้าไปยังถ่านของ DJI MINI SE ตัวนี้ได้อยู่ดี เรีียกได้ว่า มันก็เหมือนกับเป็นการเติม battery มือถือยังไงอย่างงั้น เลยไม่ต้องการรุ่นที่แพงกว่านี้หรือ set complete ที่แพงขึ้นไปกว่าเดิมอีก 5000-6000 บาท.-
ปัญหาของการใช้งาน DJI MINI SE สำหรับคนเริ่มต้น
หากคุณเพิ่งได้โดรนมาครั้งแรก จะงงเอามากๆว่าสายอะไรต่อชาร์ทอะไร เพราะ ที่เครื่องรีโมทจะต้องเสียบกับมือถือเพื่อที่จะส่งสัญญาณภาพระหว่างกัน โดยหลักการการแสดงภาพคือ กล้องจากโดรน > ผ่านสัญญาณ Remote > เข้ามายังเครื่องรีโมท > ผ่านสายที่ต่อเสียบระหว่างรีโมทและโทรศัพท์ > แสดงภาพที่โทรศัพท์มือถือ
การชาร์ทโดรนและรีโมท : รีโมทนั้นจะใช้ช่องสัญญาณภาพเป็นช่องรับไฟฟ้าด้วยเช่นเดียวกัน โดยสายที่เราจะเอาไปเสียบได้ก็เพื่อไฟฟ้าเข้าไปยังเครื่องรีโมทก็คือ Micro USB ทั้งๆที่เราเห็นรูมันเหมือนว่าจะเข้ากันไม่ได้แต่แท้ที่จริงแล้วมันเสียบกันได้แบบลงตัวกันเลยก็ว่าได้ ว้าวเหมือนกัน ไม่เคยรู้มาก่อนว่า มันมีการเสียบอะไรที่หน้าตาไม่เหมือนกันแบบนี้ได้ แต่ สำหรับตัวโดรนหากคุณชาร์ทถ่านด้านในโดรนจริงๆ เราจะใช้สาย USB C เพื่อชาร์ทไฟฟ้าเข้าถ่านแทน สังเกตได้ว่าทั้งสองอุปกรณ์จะใช้สายไฟฟ้าเพื่อเสียบไฟฟ้าเข้าเครื่องเป็นคนละประเภทกัน
อีกอย่างที่ต้องรู้ : กรอบพลาสติกที่หน้ากล้องนั้น เหมือนกับเป็นฝากล้อง เพื่อป้องกันการกระแทกของตัวกล้องดังนั้นแล้ว หากว่าคุณจะเริ่มบินทุกครั้งให้เปิดฝากล้องนี้ออกเสียไม่อย่างงั้น gimbal ระบบกันสั่นสุดท้ายแล้วอาจจะเกิดปัญหาได้