วันนี้อยากจะเล่าประสบการณ์ย้อนหลังไปในอดีตนานมากๆแล้วก็คือ การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแบบพักลักษณะของ Hostel โดยการจอง Hostel ผ่านทาง Hostelworld.com หลายคนที่อยากจะไปเมืองนอกนั้นส่วนมากแล้วจะรู้จักก็แค่โรงแรม หรือ Hotel เป็นหลักเท่านั้น ซึ่งแน่นอนที่สุดมันจะเป็นมาตราฐานการเดินทางทั่วไปไม่ว่าจะเป็น ทริปการเดินทางแบบท่องเที่ยวครอบครัว ทัวร์หรือ Business Trip การเดินทางลักษณะนี้จะมีการเลือกใช้บริการห้องพักจากโรงแรมเอาไว้เป็นหลักตั้งแต่สามถึงห้าดาวตามงบประมาณ แต่ครั้งนู้นที่ผมเที่ยวญี่ปุ่นผมจำได้ว่า ผมไม่ได้พักโรงแรมสักเท่าไหร่นัก แต่เน้นหลักไปที่ “BUDGET” ที่ประหยัด ทำให้เน้นการพักในรูปแบบของ Hostel เป็นหลัก ซึ่งถ้าหากว่าคุณเลือกใช้ Hostel แล้วล่ะก็จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์เดินทางที่แตกต่างออกไปจากการใช้บริการของโรงแรมแบบหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว (ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีน่ะครับ แต่ว่ามันมีอะไรไม่เหมือนกันอยู่มากมายเลยล่ะครับ)
การพัก Hostel จะแตกต่างจากโรงแรมในหลายๆเรื่อง โดยมีเหตุผลเรื่องความประหยัดเป็นพื้นฐานมาก่อน และจะเหมาะกับการเดินทางที่จำนวนคนไม่มากนักเท่าไหร่นัก นอกจากนี้ยังจะต้องมี condition ทางร่างกายที่พร้อมสักหน่อยอีกต่างหาก เพราะ ความสบายนั้นจะน้อยกว่า Hostel ไปอยู่ระดับหนึ่ง (แต่ก็รับได้) แล้วก็จะได้ประสบการณ์แปลกๆที่คุณจะหาไม่ได้จากการเข้าพักโรงแรมอย่างแน่นอน
นักเดินทางแบบไหนจะเหมาะและไม่เหมาะกับการเข้าพัก Hostel ?
1. นักเดินทางที่เน้นเรื่องการประหยัดค่าห้องพักจะเหมาะกับการใช้ Hostel
ความประหยัดนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่แยกแยะระหว่างโรงแรมและ Hostel ออกจากกันโดยสิ้นเชิงเนื่องจาก พื้นที่ห้องและความสะดวกสบายนั้นจะน้อยกว่าโรงแรมเป็นไหนๆ ไม่มีร้านอาหาร ห้องน้ำก็ไม่ได้เป็นห้องน้ำในตัว หรืออะไรก็แล้วแต่ที่นักเดินทางที่ต้องการเพียงที่ค้างอ้างแรมเท่านั้นไม่จำเป็นก็จะไม่มีให้ แต่กลับทางกันอะไรที่จำเป็นก็จะมีกันให้ใช้ได้ฟรีๆ เช่น internet wifi ทั่วทั้งพื้นที่ Hostel ห้องทำอาหาร (และอุปกรณ์ทำอาหารส่วนกลาง) พื้นที่ดูทีวี หรือโต้ะเพื่อเล่น internet ส่วนกลาง หรือแม้กระทั่งโต้ะส่วนกลาง เพื่อเอาไว้พบปะพูดคุยกันจะมีให้เห็นเกือบทุกที่ที่เป็น Hostel grade ดี
2. นักเดินทางที่คิดว่าที่พักเอาไว้นอนเท่านั้นไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นมากมายอะไร
เนื่องจากห้องนอนของ Hostel ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆก็จะเล็กถึงเล็กมาก หรือหลายครั้ง Hostel จะมีบริการห้องแบบนอนรวมๆกัน (เหมือนกับว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน)ทำให้เป็นการประหยัดพื้นที่ Hostel มากและ ทำให้ Business Hostel น่าจะทำกำไรต่อพื้นที่ได้ดีกว่าโรงแรมด้วยซ้ำ เพราะ ยังไงซะ การเข้าพัก Hostel นั้นจะมีการเก็บเงินเป็นหัวๆไป (ไม่ได้คิดเป็นห้องแต่อย่างใด ) service อะไรที่ดูเหมือนว่าจะไม่จำเป็นหรือ facility กลางอะไรที่รวบได้ก็จะรวบเข้าด้วยกันทั้งหมด เช่น ห้องน้ำทีมีการแยกชายหญิงแต่ก็จะไม่มีห้องน้ำที่มีห้องน้ำในตัวเป็นต้น ซึ่งทำให้ประหยัดพื้นที่ในการสร้าง Hostel เป็นอย่างมาก
3. นักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางไปด้วยกันเป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงานอยู่ (จะไม่มีเด็กและคนชราไปด้วยกัน)
เนื่องจากถ้าหากว่ามีบันไดไปยังห้องพัก คุณจะต้องทำหน้าทีลากสำภาระของคุณเองไปยังห้องพักคุณเองแบบไม่มี Lift อะไรให้ใช้แต่อย่างใด ต้องออกแรงยกด้วยกล้ามเนื้อล้วนๆเท่านั้น ถ้าหากว่าห้องพักคุณอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ ก็จะทำให้ต้องออกแรงมากเป็นพิเศษนั่นก็แปลว่า หากคุณไม่ได้วัยรุ่นมีแรง หรือเป็นพวกบ้าหอบฟางเอาอะไรต่อมิอะไรไปด้วยแล้วล่ะก็จะมีปัญหาเรื่องการเดินทางไปทุกๆที่เป็นอย่างมาก และแน่นอนที่สุดพวกที่กะว่าจะไป Shopping ล่ะก็ผมอยากจะให้คุณกำหนดแผนการณ์ Shopping ของฝากเอาไว้เป็นวันสุดท้ายของการเดินทางเท่านั้น เพราะ การที่คุณต้องแบกของฝากเพื่อเดินทางไปยังทุกที่ที่เดินทางไปเนี่ยะ มันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยคุ้มค่าเหนื่อยเอาซะเลย
4. เน้นหลักว่าอยากจะได้ที่พักที่อยู่กลางพื้นที่ที่สะดวกเดินทางมากที่สุด (ใจกลางเมืองหรือเป็นแหล่งชุมชน)
เนื่องจาก Hostel ส่วนมากมีขนาดเล็กถึงเล็กมากที่สุด ทำให้ผู้ประกอบการ Business Hostel นั้นสามารถแทรกซึมและเลือกพื้นที่ที่มีความพลุกพล่านของหมู่ตึกมาทำเป็น Hostel ได้โดย Hostel มักจะเลือกสร้างไว้ในพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต หรือติดรถไฟฟ้าหรือสถานีรถไฟใดๆ เพื่อให้นักเดินทางเดินทางมาและเดินทางท่องเที่ยวทั่วไปได้สะดวก เพราะยังไงซะ นักเดินทางเองนั่นน่ะหละที่จะต้องเป็นคนสัมภาระ เพื่อการเดินทางไปกลับจากสถานีรถไฟมายังพื้นที่ของ Hostel ด้วยตัวเอง ถ้าหากว่าไกลกันมากๆ จะทำให้นักเดินทางลำบากในการลากกระเป๋าได้ ในทางกลับกันถ้าหากว่าคุณLoad กระเป๋าเดินทางที่ Hostel แล้วคุณก็จะมีอิสระในการเดินทางไปที่อื่นๆ เพื่อท่องเที่ยวชมเมืองได้สะดวก และสามารถเดินทางด้วยระบบชนส่งสาธารณะได้สะดวกมากไปกลับจากสถานทีท่องเที่ยวและที่พักที่เป็น Hostel นี้
5. ไม่เน้นอาหารเช้า ไม่ว่าเหตุผลคือคุณตื่นสายหรือไม่กินอาหารเช้าเป็นปกติอยุ่แล้วหรือว่าอยากจะออกไปกินอาหารเช้าท้องถิ่น
เพราะเนื่องจากสภาพของ Hostel โดยทั่วไปจะไม่ได้มีพื้นที่มากมายอะไรนัก และจะไม่มีอาหารเอาไว้บริการ แต่อาจจะมีห้องครัวเพื่อให้ทำอาหารกันเอง เพราะอาจจะอยู่ใกล้กับตลาดสด ก็สามารถซื้ออะไรมาทำกินกันเองง่ายๆได้ หรือ ถ้าหากว่า Hostel นั้นอยู่ใกล้ย่านทีมีร้านอาหารเปิดเช้าๆ Hostel ก็จะไม่มีบริการอาหารเช้าหรือเครื่องมือเพื่อประกอบอาหารเช้าใดๆเลยก็ได้(แล้วแต่เพราะอย่างว่า เรื่องแบบนี้ไม่ได้มีข้อกำหนดอะไรเป็นมาตราฐานสำหรับ Hostel แม้แต่น้อย) นักเดินทางหลายคนจะเดินออกไปเที่ยวตั้งแต่เช้า หรือหาอาหารเช้าท้องถิ่นกินกัน ไม่อยากจะทานอาหารโรงแรมอยุ่แล้วถึงได้เลือกการเข้าพักเป็นแบบ Hostel อะไรแบบนี้
6. ไม่มีของพะรุงพะรัง หรือถ้าหากว่ามีก็ต้องยกเดินทางเองได้
เนื่องจากสภาพห้องนอนนั้นเล็ก หรือต้องมีกร share พื้นที่หลายส่วนนอนกับคนอื่นๆ ทำให้กระเป๋าของคุณนั้นจะหนักและใหญ่โตเอามากๆไม่ได้ อาจจะต้องวางไว้เต็มพื้นที่ห้องแล้วเดินข้ามไปมาเหมือนกับกระเป๋านั่นน่ะหละเป็นพื้นห้อง ดังนั้นแล้ว ถ้าหากว่าเป็นไปได้ให้คุณเลือกกระเป๋าที่ดู compact เล็กๆหน่อยจะเหมาะกับการเข้าพักห้องพักชนาดเล็กแบบนี้ แน่นอนว่า การที่กระเป๋าเล็กก็จะทำให้มันไม่หนัก้วย ทำให้การเดินทางทั่วไปก็จะออกแรงเพื่อทำการเคลื่อนย้ายกระเป๋าน้อยกว่ามากๆอีกต่างหาก
7. อยากเจอะเจอผู้คนหรือนักเดินทางจากต่างประเทศทั่วโลก
ยังมีเหตุผลอีกแบบหนึ่งที่อาจจะฟังขึ้นสำหรับคนไทยที่อยากจะหนุ่มฝรั่งๆ ที่พร้อมจะคุยด้วย เพราะ ส่วนมากแล้ว อย่างที่บอกไปคนเข้าพักพวกนี้มักจะเป็นวัยรุ่นเป็นส่วนมาก เพราะเนื่องจากต้องการ save cost ในการเข้าพัก (ถ้าหากว่าเป็นพวก Business Trip มันจะใช้งานบริษัทอยู่แล้วก็เลยไม่ต้องคิดมากเรื่องทุนการเช้าพักแต่อย่างใด หรือถ้าหากว่ามีครอบครัวแล้วก็จะอยากจะได้ห้องหับมืดชิด) เรียกว่า คนที่เข้าพัก Hostel มีการกรองมาแล้วว่าจะเป็นพวกมหาลัยจากทั่วโลก ทำตัวแบบ inter ๆ กันเสียหน่อย เพราะงั้น หากว่าคุณเป็นหญิงไทยและ spec.ฝรั่งแล้วล่ะก็ การเดินทางเข้าพักแบบ Hostel อาจจะเป็นการเปิดโอกาสที่ดีเพื่อให้ได้พบหนุ่มๆนานาชาติได้อีกทางหนึ่งโดยไม่ต้องหวังเพิ่ง online dateing site แต่อย่างใด
8. พวกที่เดินทางระยะเวลายาว
คนที่จะเดินทางนานๆนั้นจำเป็นต้องประหยัดค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว เพราตัวคูณจำนวนวันมันเยอะถ้าหากว่าประหยัดอะไรต่อวันได้นิดหน่อย ภาพรวมก็จะเป็นการประหยัดเงินไปได้มากอยู่ดี ทำให้นักเดินทางที่เป็นพวกอยู่ยาวจะเลือกพักแบบ Hostel เป็นหลักเสียเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้าหากว่ายาวกว่านั้นเขาก็จะเลือกเป็นแบบ Long stay เช่าเป็นเดือนก็ได้(แต่ว่านั่นก็แปลว่า จะไม่มีการเดินทางไปพื้นที่จังหวัดอื่นๆแล้ว ซึ่งนั่นไม่ได้เป็น style การเดินทางท่องเที่ยวแล้วคนไทยเรา เพราะคนไทยเราอยากจะเดินทางแล้วก็เก็บสถานที่ท่องเที่ยวให้หมดทั่วทั้งภูมิภาคเอาให้คุ้มกับค่าเครื่องบินราวกับตั้งใจว่าฉันจะไม่มีวันมาเป็นครั้งที่สองแล้ว เรีบกว่าไม่แบ่งเที่ยวกันเลยทีเดียว)
ทั้งหมดนี้จะเป็นคุณลักษณะ และเหตุผลเงื่อนไขว่านักเดินทางแบบไหนเหมาะไม่เหมาะกับการเข้าพักห้องพักแบบ Hostel ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผมได้มีโอกาสเข้าพัก Hostel ในญี่ปุ่นโตเกียวนั้น เรียกได้ว่าผมทำพลาดจุดใหญ่ๆก็คือ การมีขนาดกระเป๋าที่ใหญ่เกินไปหน่อยและเอาของอะไรต่อมิอะไรไปมากเกินไปทำให้ลำบากตอนที่เข้าพักและตอนที่เดินทางอยู่มากเอาการ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ลูกล้อกระเป๋าเกิดมีปัญหาอีกทำให้ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ (คิดแล้วเหนื่อย)
ข้อแนะนำอื่นๆ สำหรับการเข้าพัก Hostel
1. เอากระเป๋าที่ไม่ต้องใหญ่มาก และให้ดูว่าบางที่น่าจะมี service เกี่ยวกับเรื่องของการซักผ้าให้ด้วย ก็จะทำให้คุณกระชับเรื่องขนาดกระเป๋าได้อีก
2. การเข้าพักสามารถเข้าไปติดถึง Hostel ได้ก่อนล่วงหน้าอยู่แล้ว แม้ว่าห้องนั้นๆ จะยังไม่ว่างก็ตามโดยการฝากกระเป๋าใหญ่เอาไว้แล้วก็สะพายเป้เดินเที่ยวเมืองๆนั้นในตอนเช้าได้ทันที
3. บางที่อาจจะไม่มีแม้แต่ผ้าขนหนู เพราะงั้นแล้วจะคิดว่าเหมือนกับโรงแรมคงจะไม่ได้ ยังไงซะเตรียมเอาผ้าขนหนูไปด้วยเป็นของตัวเองก็จะเป็นการดี อย่างไรก็ดีบางที่อาจจะให้เช่า(มีการคิดเงิน)สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมผ้าขนหนูไปด้วย
4. ให้เลือก Hostel ที่เดินทางได้สะดวกเอาไว้ก่อนเป็นหลัก เพราะ จำเอาไว้ว่าคุณมีกระเป๋าใหญ่ติดตัวไประหว่างการเคลื่อนที่จาก Hostel หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
5. ไม่แนะนำให้เลือกห้องที่เป็นทางเดินผ่านไปยังห้องน้ำ เพราะ จะมีคนเดินเข้าออกตลอดเวลา หรืออาจจะไม่ได้หลับได้นอนกันเลยก็เป็นได้
6. คนที่เดินทางคนเดียวก็ต้องมีการ Lock กระเป๋าด้วยระหว่างที่คุณเองไม่ได้อยู่กับกระเป๋า เพราะอย่างว่า ร้อยพ่อพันแม่ นานาชาติอีกต่างหากไว้ใจเรื่องข้าวของไม่ค่อยจะได้
7. เมื่อเข้าไปถึงสถานที่พักของ Hostel แล้วติดต่อกับผู้ดูแลแล้วต้องสอบถามถึงรายละเอียดเวลาเปิดปิดประตูหลัก ด้วยว่าถ้าหากว่าจะกลับดึกหรือว่าจะออกจาก Hostel เช้ามากๆจะต้องทำอย่างไร พวก Hostel พวกนี้จะมีเวลาเปิดปิดประตูทางเข้าหลักที่แน่นอน
8. การใช้งาน internet ไม่แน่นำว่าให้้ใช้ Log in อะไรที่สำคัญมากๆ เพราะระบบ wifi จะไม่ค่อยปล่อยภัยมากนัก และน่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ คนที่เป็นนัก Hack ตัวยงอาจจะฝังตัวอย่างแถวๆนั้นก็เป็นได้ การเข้า website ทางการเงินใดๆไม่น่าจะกระทำบนเครื่อง Computer ที่ share กันหรือวางเอาไว้ในสถานที่ที่เป็นสาธารณะ
9. จะต้องระวังเรื่องเสียง หรือการส่งเสียง เพราะหลายคนต้องการพักผ่อนและไม่อยากจะได้ยินอะไรหนวกหู การ Party จะกระทำที่พื้นที่ของ Hostel แทบไม่ได้ไม่เหมือนกับที่เรามีห้องพักในโรงแรมเป็นส่วนตัวจะเล่นไพ่เฮฮา Party อะไรก็ได้ ทั้งนี้อาจจะมีข้อยกเว้นว่า ถ้าหากว่า Hostel นั้นเน้นการ Party เป็นจุดขาย Hostel พวกนี้ก็จะมี Party อันหนักหน่วงเรียกว่าคุณจะนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว อาจจะไม่เหมาะกับคนที่อยากจะพักผ่อนเพื่อการหลับนอนจริงๆ
สำหรับ website ที่ให้บริการฐานข้อมูล Hostel จะมีอยู่ไม่กี่รายในโลก (ส่วนมาก website ใหญ่ๆจะแย่งเรื่องโรงแรมกันเสียมากกว่าเพราะพวกนี้จะมีเงินเพื่อจ่ายค่าห้องโรมแรมและได้กำไรจากการนำเสนอห้องแบบโรงแรมมากกว่านัก) ที่ผมใช้ service เพื่อจอง Hostel ที่ผ่านมาทั้งหมด คือ Hostelworld.com ถ้าหากว่าสนใจเข้าพักแบบ Hostel แล้วล่ะก็เลือกอ่านจาก review ใน HostelWorld นี่ผมก็ถือว่าได้ข้อมูลมากเพียงพอในการตัดสินใจเลือกจองห้องพัก Hostel ในทุกประเทศแล้วล่ะครับ
คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:
- hostel คือ