รายงานการออกกำลังกายประจำปี 2011 ที่ผ่านมาดูว่าออกแรงกันไปเยอะแค่ไหน?

ปีที่ผ่านมาการออกกำลังกายในจะมีการบันทึกด้วยอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น FT80 หรือ iPhone App ครับ ว่างๆปีใหม่วันนี้ก็อยากจะเอาข้อมูลมาดูเสียหน่อยว่า สรุปได้ความอะไรจากการบันทึกบ้าง  .. มาดูกันเล้ยครับผม

body analytics

MY PROGRESS : Tracking โดย นาฬิกา POLAR HEART RATE FT80

ปีที่ผ่านมาผมว่าเป็นปีที่ผมออกกำลังกายหนักกว่าทุกปี และคาดว่าน่าจะมีการออกกำลังกายที่แข็งขึ้นเรื่อยๆทุกๆปีครับ ก็คิดว่ามันก็น่าจะเป็นเรื่องปกติ เพราะ ร่างกายมันจะปรับตัวเพื่อให้ฟิตและพร้อมาสำหรับการออกกำลังกายที่จะต้องปรับระดับความหนักขึ้นไปเรื่อยๆ การปรับความหนักของการออกกำลังกายนั้นผมว่าเป็นเรื่องจำเป็น ผมสังเกตว่า ตอนนี้ร่างกายจะทนต่อสภาพการออกกำลังกายแบบเดิม ด้วยน้ำหนักเดิมๆ หรือ ระยะเวลาและระยะทางในการวิ่งได้มากกว่าเก่า และ ถ้าหากว่าผมไม่คิดที่จะปรับเพิ่มความยากของ Level น้ำหนัก ระยะทางวิ่งใดๆ จะทำให้ร่างกายชินและชาและไม่ได้พัฒนาอะไรต่อครับ

ผมลองดูข้อมูลย้อนหลังหนึ่งปี ปี 2011 ว่าการเก็บข้อมูลการออกกำลังกายจะสรุปอะไรออกมาได้บ้าง ?

ข้อสังเกตจากข้อมูล

ข้อมูลการบันทึกหายไป 1 เดือน ! ด้วยเหตุผลว่า นาฬิกาโดนส่งไปซ่อมและกว่าจะได้ก็นานเอาการเหมือนกัน อาการที่เสียทำให้ผมต้องเสียเงินไป 4000 กว่าบาทเพื่อทำให้มันกลับเป็นปกติ พร้อมทั้งผลพลอยเสีย (ตรงข้ามกับผลพลอยได้) คือ ผมต้องออกกำลังกายโดยไม่ได้เก็บข้อมูลไปตลอดช่วงระยะเวลาที่ไม่มีนาฬิกาติดกับตัวผมครับ

จำนวนครั้งการออกกำลังกายเฉลี่ย

การ Training ออกกำลังกายทั้งหมด 195 ครั้ง หรือคิดเฉลี่ยต่อเดือน 16.3 ครั้งต่อเดือน ซึ่งสำหรับผมแล้วเป็นไปตามที่ต้องการ ผมอยากจะออกกำลังกายให้ได้เหมือนกับพวกหนังสือตำราออกกำลังกายบอกนั่นน่ะหละครับ คือ ออกให้ได้สัปดาห์ละ 3-5 ครั้งแต่ไม่ได้ออกทุกวัน จะต้องพักบ้าง โดยในใจผมคิดเอาไว้ก่อนเลยว่า “จะต้องออกกำลังกายทุกวัน” แต่ก็ไม่ได้ออกทุกวันเพราะบางครั้งก็คิดนู้นนี่เหมือนกับคนอื่นๆที่ติดกันแล้วไม่ได้ไปออกนั่นน่ะหละ แต่ผมก็เลือกให้การออกกำลังกายนั้นเป็น First Priority หรือ กิจกรรมแรกสุดที่ต้องทำ ไม่อย่างงั้นจำนวนครั้งจะน้อยกว่านี้ครับ

ออกกำลังกายตลอดทั้งปีก่อนเวลาทั้งหมด 250 ชั่วโมง

อันนี้เป็นเวลาที่มีการขับร่างกายและวัดตอนที่เริ่มออกแรงเท่านั้นนะครับ แต่ความเป็นจริงแล้วเราเอาเวลาเพื่อไป “การที่จะออกกำลังกาย” มากว่านี้ข้อมูลบันทึกไว้ครับ กล่าวคือ ผมต้องเตรียมตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า เดินทางไปที่วิ่งหรือ fitness และเดินทางกลับมาอาบน้ำ แน่นอนว่าถ้าหากว่าไม่ได้ไปออกกำลังกายแบบนี้กิจกรรมเหล่านี้ก็ไม่ต้องมีด้วยเหมือนกันครับ ยังไงซะผมว่าการใช้เวลาเพื่ออกกำลังกายก็เดาเอาว่าน่าจะเป็นการใช้เวลาที่คุ้มค่าต่อตัวเองมากสุดแล้ว ลองคิดดูแล้วกันนะครับ จะมีกิจกรรมอะไรในโลกนี้ที่ทำให้ตัวคุณเอง มีชีวิตที่มากขึ้นได้ โอกาสตายน้อยลงด้วยโรคต่างๆ นอกเสียไปจากการออกกำลังกายกันล่ะครับ 

ถ้าหากมองเป็นปริมาณ 250 ชั่วโมงนี่ก็แค่เหมือนกับ 24 * 10 หรือคิดแบบเป็นวันก็คือ แค่ 10 วันกว่าเท่านั้น (แบบเต็มวันครับ) มาคิดแบบนี้แล้วมันก็ไม่ได้มากอะไรเมื่อเทียบกับวันที่มีทั้งหมดของปี (คือ 365 วันต่อปี) ซึ่งก็ถ้าหากว่าคิดเป็น percent ก็เป็นไปตามที่ผมกำหนดไว้อยู่ครับ คือ จะต้องเฉลี่ยให้ได้ 3% ของ Life time (เวลาที่คุณหายใจอยู่ในโลกนี้) สรุปว่าเป็นไปตามเป้าครับ สำหรับเวลาเพื่อการออกกำลังกาย !

พลังงานที่ใช้ไปทั้งหมด 118179 cal. หรือเฉลี่ยต่อเดือนละ 10000 cal.

ข้อมูลเบื้องต้น ร่างกายคนเราใช้พลังงานต่อวัน 2000 cal. เป็นปกติโดยเฉลี่ยสำหรับผู้ชายและน้อยกว่านั้นสำหรับผู้หญิง และมันจะมีพลังงานหน่วยนี้แสดงเอาไว้ในทุกผลิตภัณฑ์ที่คุณเอาเข้าปากครับ (ลองมาหาหลังฉลาก) และนี้เป็นหน่วยที่พูดถึงสำหรับการวัดพลังงานการใช้พลังงานและการออกกำลังกายที่บันทึกครับ (จะได้จินตนการออกว่ามันเยอะแค่ไหน)

ปกติแล้วเมื่อจบการบันทึกทุกครั้งจะมีการประมาณ %Fat ที่ถูก Burn ไประหว่างการออกกำลังกายใน session นั้นๆ โดยถ้าหากว่าผมออกกำลังกายด้วย heart rate ที่ต่ำจะทำให้ percent Fat Burn สูง (เพราะพลังงานที่เผาทั้งหมดไม่มาก) เช่น ถ้าหากว่าผมเดิน 1 ชั่วโมง heart rate เบามากแค่ไม่ถึง 100 (ซึ่งถ้าหากว่าคนปกติจะเกินร้อยและจะทำให้เผาพลังงานเพื่อการออกกำลังกายด้วยการเดินได้มากกว่า) ทำให้ %Fat burn มาก เพราะ ดูเหมือนว่า มันก็จะเผาไขมันไปเท่าเก่าถ้าหากว่าเทียบเวลาที่ผมออกกำลังกายต่อ 1 ครั้ง

ถ้าหากว่าผมตีเฉลี่ยการเผาไขมันคิดเป็น 15% ของการออกกำลังกายในทุกครั้ง อันนี้ผมประเมินได้จากการตัวเลข raw data ทุกครั้งที่จบการออกกำลังกายนะครับ นั้นก็แปลว่า 17726.85 cal นั้นเป็นไขมันที่โดนเผาไป หรือคิดเป็นน้ำหนักไขมันทั้งหมด 1969.65 กรัมตลอดปี (ผมจับเอา 17726 หารด้วย 9 แต่ผมไม่ได้วัดขาเข้านะครับ ทำให้ผมประเมินไม่ได้ว่าแล้ว มันดีแค่ไหนกัน?) และที่เหลืออีก 100452.15 cal. จะเป็นการเผาผ่านน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต 25,113 กรัม (ผมจับ 100452 หารด้วย 4 ครับ)

ระยะทางวิ่ง Track โดย Runkeeper iPhone App

 running track with Runkeeper

ปีที่ผ่านมาการวิ่ง outdoor ผมจะ Track ด้วย Runkeeper ครับ แปลว่าผมต้องถือ iPhone วิ่งและฟังเพลงไปด้วยหรือฟัง podcast ไปด้วยระหว่างวิ่ง ทำให้รู้ได้ว่าระยะทางวิ่งทั้งหมดที่ไม่ได้นับการวิ่ง warm up ก่อนเล่น strengh traiing ที่ fitness นั้นเป็นระยะทางเท่าไหร่ สรุปว่า เลขที่ออกคือ 240 km ครับ !

สรุป

โดยรวมแล้วผมว่าปีนี้ออกกำลังกายได้มากขึ้นและหุ่นดีกว่าเดิมมาก (แต่ไม่อยากเปิดเผย) การออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาที่ออกอยู่ และ จำนวนความถี่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ทั้งหมดครับ และเป้าหมายใหม่เกี่ยวกับการออกกำลังกายในปีหน้า 2012 นี้ก็คงจะทำให้ได้เหมือนเดิมเป็นอย่างต่ำ และต้องรักษาความถี่ให้เท่าเดิม เพื่อร่างกายและสุขภาพที่ดีต่อไปในทุกๆปี ใครหลงมาอ่านก็ลองคิดดูเอาเองแล้วกันว่า มีคน serious ที่จะเก็บประวัติขนาดนี้ คุณเองได้ออกกำลังกายอะไรมั่งเหรอป่าวครับ อย่างที่ผมบอกไป ไม่มีการใช้เวลาในกิจกรรมไหนที่เป็นการลดความเสี่ยงโอกาสตายจากโรคได้เท่ากับการออกกำลังกายอีกแล้ว และนั่นก็แปลว่า การออกกำลังกายเป็นการใช้เวลาแบบ productive สุดๆกิจกรรมหนึ่งเพื่อชีวิตที่ดีของคุณเองครับผม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *