ทอสอบใช้ iPad บนลู่วิ่งเพื่อโทร Skype และดูหนังจาก Podcast คุ้มค่าคุ้มเวลาจริง ! confirmed

ไอแพด บนลู่วิ่งที่ fitness

พักนี้ผมไม่ได้ไปวิ่งที่สวนโล่งๆมาได้ 3-4 ครั้งแล้วครับ แต่ผมย้ายไปวิ่งบนลู่แทน โดยเอา iPad ไปด้วยเพื่อลองดูว่าเราจะใช้งาน iPad อะไรบนลู่วิ่งได้บ้างครับ ผลปรากฏว่า เราทำอะไรได้หลายอย่างขณะที่เรากำลังออกกำลังกายบนลู่วิ่งที่ Fitness โดยอาจจะดูเป็นตัวประหลาดบ้างเล็กน้อย คนอื่นเค้าก็แค่อาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องเอา iPad มาเองทั้งๆที่มีหน้าจอทีวีอยู่ตรงหน้าแล้วก็ตามทีครับ

TV ก็มีแต่ว่า iPad ก็ดีกว่ามั้ย ?

iPad มันออกแบบมาเหมือนเพื่อเอาไว้ให้ดูหนังกันเลยก็ว่าได้เพราะ ถ่ายอยู่ได้นานมาก จนไม่ต้องคิดมากเรื่อง Battery อีกต่อไปครับ ดังนั้นแล้วตอนที่ผมเอา iPad ไปลองใช้บนลู่วิ่งขณะวิ่ง สิ่งหนึ่งที่ผมทำก็คือ การ Load Video Podcast ใส่ไปเยอะๆก่อนที่จะไปวิ่งครับ แม้ว่าที่ Fitness จะมี wifi ให้ใช้ก็ตามที การที่เราจะวิ่งไปแล้วก็เลือกว่า เราจะดูอะไรนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ เราจะไม่สามารถกดปุ่มเล็กๆ เพื่อ Download อะไรได้ ถึงแม้ว่าปุ่มพวกนั้นจะใหญ่แล้วก็ตาม แต่มันก็ยังใหญ่ไม่พอที่จะทำขณะที่ ผมทำการวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 7 km/hr บนลู่วิ่งได้ครับ เมื่อโหลดไปแล้ว เราก็แค่เปิดเพื่อดู ขณะวิ่งครับ

ก็ต้องกะอยู่เหมือนกันนะครับว่า เวลาที่เราวิ่งนั้นเยอะเท่าไหร่ (สำหรับกาทดสอบและ การวิ่งปกติของผมจะวิ่งอยู่ประมาณ 45 นาทีหรือต่ำกว่านั้น ที่ความเร็วโดยเฉลี่ย 7 mk/hr ซึ่งไม่สูงมากนัก) ก็ต้อง Download VDO เพือ่ให้พอกับระยะเวลานั้นครับ ตอนที่ผมทดสอบผมก็โหลดเพื่อดู TED TALK เป็นส่วนมาก เพราะกะว่าอยากจะดูให้หมด โดยตอนนี้มีให้ Download 105 ตอนแล้วครับ แล้วก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุก week แต่แค่ช่อง TED TALK อยางเดียวจะไม่พอกับอัตราการบริโภคข้อมูลขณะวิ่งของผมครับ เพราะงั้นแล้ว ผมก็ต้องจำเป็นที่ต้องหาช่องหรือรายการอื่นๆ ที่คุ้มค่าคุ้มเวลาเพื่อที่จะบริโภคเข้าหัวขณะที่อยู่บนลู่วิ่งครับ

เรื่องเสียงจากสภาพแวดล้อมของ Fitness ที่พอรับได้

ปกติแล้วผมจะวิ่งตอนเช้า และ แน่นอนว่าสำหรับการทดสอบนี้ ผมก็เอา iPad ไป Fitness กับผมตอนเช้าด้วยเหมือนกัน (Fitness ที่ผมใช้งานเค้าเปิดกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าเลยน่ะครับสำหรับวันปกติ) ทำให้คนไม่เยอะมาก หรือแทบไม่มีคนเลยก็ว่าได้ บรรยากาศออกแนว Fitness ส่วนตัวมากครับ  จะทำอะไรร้องครางแบบไหนก็ไม่ต้องแคร์สื่อมากมายอะไร ถ้าหากว่ามีคนก็หน้าเดิมๆน่ะครับ เพราะ พวกนี้ก็อยากจะได้ความเป็นส่วนตัวในเวลาช้าเหมือนกันครับผม เมื่อมาเช้าแบบนี้ คนก็น้อย การเปิด TV ก็จะไม่มี หรือ ถ้าหากว่ามีก็ไม่มาก เสียงไม่ตีกันเท่าไหร่ แต่สำหรับการฟังเสียงของ iPad นั้นผมก็เอาหูฟังไปเสียบด้วย โดยเป็นหูฟัง Default ที่แถมมากับ iPod ครับ (หรือ iPhone นั่นน่ะหละ) ใช้แค่นี้ก็ฟังรู้เรื่อง และเป็นการตัดเสียงรบกวนภายนอกออกแล้วเกือบร้อยละ 70 ครับ เพลงที่ทาง Fitness เปิดเพื่อสร้างบรรยากาศ ก็ไม่ค่อยมีผลกระทบอะไรมากมายนัก เพราะผมฟัง TED TALK แล้วก็ค่อนข้างที่จะมีสมาธิในทุกเนื้อคำของการ presenation และแทบไม่ได้รับรู้ว่ามีเพลงของทาง fitness เปิดอยู่เลยครับ

ปัญหาที่อาจจะพบได้ก็คือ "สายหูฟัง iPod อาจจะสั้นไปหน่อย" ผมเข้าใจว่าการออกแบบระยะความยาวสายจะไม่ได้ออกมาแบบเพื่อการนี้ น่าจะเป็นระยะความยาวจากกระเป๋าวัดไปถึงหูของคนเฉลี่ยมากกว่า แต่สำหรับระยะที่เราต้องการเพื่อจะใช้ iPad วางเอาไว้ที่แป้นของ TreadMill หรือลู่วิ่งและใส่เข้าไปที่หูเรานั้นอาจจะยาวกว่านั้นอยู่บ้างอย่างน้อยผมก็ว่าน่าจะอีกสัก 1.5 Foot เพื่อเป็นระยะที่ปลอดภัยครับ จะยาวกว่านั้นก็ไม่ดีครับเพราะ สายจะรกแล้ว การเคลื่อนที่ของเรา โดยเฉพาะอาจจะไปตีสายแล้วก็พาลเอา iPad ตกพื้นได้เหมือนกันครับ ถ้าหากว่าเป็นไปได้ให้ไปหาหูฟังที่ยาวขึ้นกว่านี้สักเล็กน้อยแล้วก็เอามาลองอีกครั้งครับผม

เมื่อผมมีสมาธิกับเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องวิ๋ง เหมือนว่าผมจะลืมความเหนื่อยตอนวิ่งไปได้มากเอาการครับ อันนี้เป็นความจริงมาตั้งแต่ที่ผมวิ่งแล้วเอา iPhone ที่รัน Audio Book ยัดใสหูผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันเป็นการย้ายสติไปที่เรื่องอื่น แล้วก็ปล่อยให้การวิ่งเป็นเรื่องอัตโนมัติ (เพราะว่ามันแอบเหนื่อยและถ้าหากว่าเรารู้สึกเหนื่อยเราก็อยากจะหยุด เป็นปฏิกริยาตอบสนองอัตโนมัติ) แล้วยิ่งตอนนี้ที่ผมทดสอบเป็นไม่ได้มีแค่เสียง มันมีภาพอีกต่างหากเป็นลักษณะของ VDO file ทำให้สมาธิยิ่งโดนย้ายจากการวิ่งออกไปมากจริงๆ แต่เราก็ยังคงรักษาความเร็วในการวิ่งเอาไว้ (เพราะแน่นอนว่าลู่วิ่งมันบังคับเราน่ะครับ)

โทร Skype บน iPad หาเพื่อนคุยระหว่างวิ่ง และคนอื่นนอน (เอาเปรียบกันไปมั้ยน้อ..)

พอวิ่งใกล้หมดระยะทางที่ตั้งเอาไว้เป็นเป้าหมายของการวิ่งในครั้งนั้นๆ ผมก็จะวิ่งช้าลงมาอีกหน่อย ก็เลยลองอย่างอื่นดูบ้าง สิ่งที่ผมได้ลองอีกอย่างนั้นก็คือ "การโทร Skype ผ่าน iPad ขณะที่วิ่งอยู่บนลู่วิ่ง" สำหรับตอนนี้ program หรือ app ของ Skype บน iPad นั้นไม่ได้มีเฉพาะเอาไว้ให้ก็ต้องใช้เป็นของ iPhone กันไปก่อน และนั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร มันมันก็เหมือนกับหน้า iPhone ทุกประการแล้วมันก็ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่าเพื่อให้มันสะดวกกดขณะที่วิ่งด้วยความเร็ว 7 km/hr แบบนี้ครับ ผลลัพธ์ ก็คือ เราสามารถที่จะกดนู้นนี่นั่นเพื่อให้การโทรนั้นสำเร็จได้อย่างสะดวก และคุยกับคนปลายสายรู้เรื่องแม้ว่า เราจะวิ่งอยู่ก็ตาม อารมณ์มันก็เหมือนกับ การที่เราวิ่งไปแล้วก็คุยกับเพื่อนที่วิ่งด้วยกันไปด้วยยังไงอย่างงั้นน่ะครับ แต่ว่านี่เราก็จะโทรไปหาใครก็ได้ โดยเราก็วิ่งไปส่วนปลายสายอีกทางก็นอนคุยไปครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการวิ่งไปคุยไปผ่าน Skype ที่ลากสายไปยัง iPad นั้นเมื่อมีคนอื่น เราจะดูแปลกๆครับ เพราะ แม้ว่าจะไม่มีกฏว่า คุณมา fitness จะต้องไม่คุยโทรศัพท์ คนอื่นก็ดูเหมือนว่าจะมองเราเล็กน้อยถึงปานกลางว่า ตาคนนี้นี่มันคุยโทรศัพท์อะไร แล้วนั่นมันโทรศัพท์เหรอ ? หรือว่ามันบ้าพูดคนเดียว (ถ้าหากว่าเป็น Bluetooth นี่คิดว่าบ้าพโคนเดียวแน่นอนน่ะครับ) แล้วหนักไปกว่านั้นก็คือ คุณวิ่งไปด้วยอยู่บนลู่วิ่ง ! แล้วก็ยังจะคุยโทรศัพท์ไปด้วย … อืม .. ลองจินตนาการภาพถามผม อาจจะมองเห็นได้ว่า คนที่ทำแบบนี้จะแปลกๆนิดหน่อย  .. เอาล่ะครับแต่ว่าผมว่าอย่าไปคิดมากดีกว่า ถ้าหากว่าเราใช้เวลา 1 หน่วยแต่ทำอะไรได้มากกว่าหรือหลายเรื่องกว่ามันก็น่าจะดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ ก็ให้ดิดแล้วกันครับว่า ปกติแล้ว คนที่วิ่งจะวิ่งกันเป็นกลุ่มเพื่อคุยกันอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ แต่ว่านี่ก้เหมือนกับการคุยกันอย่างงั้น แต่ก็แค่เป็นการคุยผ่าน VOIP ผ่าน WIFI Skype ออกไปหาเพื่อนๆ อีกต่อหนึ่งเท่านั้นเอง

โดยสรุปแล้ว การเอา iPad ถือเดินไปที่ Fitness นั้นมันก็ให้อารมณ์ที่แปลกๆตั้งแต่ต้นแล้วล่ะครับ เพราะ ถ้าหากว่าคุณจะไปออกกำลังกายโดยการใช้ ดัมเบล หรือ machine อื่นๆ มันจะทำอะไรกับ iPad ไม่ได้เลย แต่ถ้าหากว่า วันนั้นเป็นวัน cardio ของคุณ หรือเพื่อการวิ่งหรือปั่นจักรยานเฉยๆ แล้วการเอา iPad เพื่อเป็น Entertainment Hub นั้นกลับกลายเป็นเรื่องที ่make sense และใช้งานได้จริงครับ ผมว่าผมก็คงเอา iPad ไปวิ่งที่ Fitness สักพัก และก็น่าจะต้องสลับกับการวิ่งกลางแจ้งด้วยอยู่ดีครับ เพราะร่างกายเราก็ต้องการแสงแดดตอนเช้าๆอยู่ดี (รับแดดเอาไปให้ร่างกายผลิตวิตามินดี) ยังไงสำหรับคนที่มี iPad และเป็นสมาชิก Fitness หรือมีเครื่องวิ่งอยู่ที่บ้านก็ลองดูก็แล้วกันนะครับ

NOTE : สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าผมโทรไปหาเบอร์ปลายทางที่เป็นมือถือไม่อั้นผ่าน Skype ทำยังไงเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้จากที่นี่ครับ ผมอธิบายเอาไว้ละเอียดเอาการเลยล่ะครับ และแน่นอนว่า iPad ก็โทรออกได้ครับ !

โทรต่างประเทศ เบอร์ไทย ไม่อั้นผ่าน ipad iphone และ internet

คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:

  • วิธีสมัคร skype ipad
  • สมัครskype ipad
  • วิธีใช้ skype บน ipad
  • วิธีเล่น skype ใน ipad
  • วิธีใช้ skype ใน ipad
  • คุย skype ผ่าน ipad
  • skype for ipad
  • ดูหนังออนไลน์ ipad
Submit your comment

Please enter your name

Your name is required

Please enter a valid email address

An email address is required

Please enter your message

rackmanagerpro.com © 2024 All Rights Reserved

Rackmanagerpro.com all right reserved 2007 - 2019

Copyright by Rackmanagerpro.com

Content Creted by Rackmanagerpro.com