ผมอยากจะพิมพ์บทความเล็กๆเอาไว้สักหน่อยเกี่ยวกับเรื่อง virus computer ในระบบปฏิบัติการวินโดว์ เพราะ เป็นเรื่องที่เจอแ้ล้วเจออีกสำหรับคนทั่วไป ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าจริงๆแล้วถ้าหากแค่ว่า เรารู้วิธีการหรือเข้าใจมันแค่เล็กน้อยก็จะเป็นการป้องกันได้อย่างถาวรแล้ว เพราะ การที่เครื่อง computer ที่ลง windows ของเรามันไปติด virus เข้าผมว่า file ที่คุณเก็บเอาไว้ก็จะพังพาบเป็นหน้ากองไปด้วยครับ (แน่นอนว่าคุณก็ไม่รู้หรอกว่า คุณควรจะจัดการ file แบบไหนอีกนั่นน่ะหละ)
เรื่องแบบนี้จะเป็นเรื่องใหญ่มากเลยทีเดียว สำหรับคนที่ไม่รู้แล้วก็ดันไปติดไวรัสครับ ก็ต้องลำบากคนอื่นเค้าว่าจะจัดการมันอย่างไร แน่นอนว่าก็ต้องลำบากตัวเองด้วย ที่จะต้องมานั่งหาวิธีการ หรือเดือดร้อนว่าจะจัดการกับเครื่องคอมที่ติดไวรัสกันอย่างไรอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อชีวิตมากครับ
เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเป็นประเด็นๆกันไปเลยดีกว่าครับ ว่าถ้าหากว่าคุณเป็น computer user ที่คิดว่าใช้คอมไปเฉยๆ และไม่ได้อยากจะลงลึกในการใช้ computer มากนัก อย่างน้อยที่สุดผมว่าเรื่องราวที่ผมจะพิมพ์ไว้ด้านล่างนี้ เป็นเรื่องที่ “คุณต้องรู้” เกี่ยวกับการใช้งาน computer เพื่อไม่ให้ตัวเอง หรือ เครื่องตัวเองติดไวรัสครับ
computer virus ส่วนมากผ่านทางกับ Flash Drive หรือ Thumb Drive
ผมสังเกตการติดไวรัสที่ผ่านมาทั้งหมดของคนรอบตัว และ ตัวผมเอง(แต่ก่อนที่เคยคิด) จะมาจากการยื่นเอา Thumb Drive ไปใส่กับเครื่องคนอื่น แล้วก็เอามาใส่ที่เครื่องตัวเองทำให้ติดไวรัสกัน ขอให้คิดแบบนี้นะครับว่า การติด virus นั้นมันเกิดขึ้นได้สองทางก็คือ เมื่อคุณเอา Flash drive ไปใส่เข้า USB ทันทีที่ Windows มันรู้ว่า USB มาเสียบมันจะทำความรู้จัก ส่งข้อมูลเล็กๆไปๆมาๆโดยที่เราไม่ต้องทำอะไร หรือ ทำอะไรไม่ได้ เพราะ มันทำของมันเองสำหรับ Windows 7 ย้อนไปเรื่อยๆถึง Windows XP นั้นก็แปลว่า อาการติดทีจะเกิดขึ้นคือ ถ้าหากว่าเครื่อง computer ของคุณมี virus มันก็ไหลไปที่ Thumb Drive ครับ หรือ ในทางกลับกัน ถ้าหากว่า Flash Drive มีไวรัส มันก็ไหลทันทีเข้าเครื่องของคุณ (ในกรณีที่คุณไม่ได้มีปราการหรือวิธีการป้องกันอะไรเอาไว้เลยครับ) เรื่องการเรียกตัวเองประมาณนี้ทาง Windows เองผมเคยได้ข่าวว่าจะ function พวกนี้ออกไปสำหรับการออก Windows ตัวใหม่เพื่อป้องกันปัญหาการติดไวรัสไปๆมาๆระหว่าง computer และ Flash drive ครับ
ลง program เล็กๆที่เป็นตัวป้องกันการเรียก virus จาก Thumb Drive เข้าเครื่องเป็นปราการด่านแรก
เมื่อคุณเข้าใจเหมือนผมแล้วว่า เมื่อเสียบ flash drive และ computer เข้าด้วยกันผ่านทางรู USB จะมีการเคลื่อนที่ของ file ทันที กระบวนการนี้ จะมีโปรแกรมเล็กๆ ที่เรียกว่า program เพื่อป้องกันการ autorun หรือ CPE AutoRun Killer ซึ่งหน้าที่ของมันก็คือ เมื่อคุณเอา flash drive ใส่ USB program นี้ที่มันเปิดไว้อยู่ (program ต้องเปิดไว้ทุกครั้ง ให้สังเกตได้ที่ icon ด้านขวาล่างจะต้องมีรูปแว่นขยายสีเขียวๆนั่นเป็นตัวบอกว่า program นี้เปิดค้างไว้อยู่เพื่อป้องกันการ autorun ครับ) และ สิ่งนี้ผมเรียกว่าเป็น “ปราการด่านแรกสำหรับการป้องกัน virus ที่เล่นมุขกระโดดระหว่าง Flash Drive และ computer” ได้ชงัดเอาการเลยครับ
Anti-Virus Freeware ต้องลงเอาไว้และ Update เป็นประจำ
แอนตี้ไวรัสที่ผมบอกจะเป็น Freeware เท่านั้นนะครับ ไม่แนะนำให้ไป crack อะไรทีไ่หนมาเพราะ การที่ program มีการ crack ก็แปลว่ามีการดัดแปลงแก้ไขมาแล้ว และ ยิ่ง software ประเภทนี้จำเป็นต้องมีการ update ฐานข้อมูล virus ใหม่ๆแล้วด้วย พวก AntiVirus แบบที่ crack ของปลอมมา มันจะ update ได้กี่ครั้งหรือนานแค่ไหนเราก็ไม่รู้น่ะครับ จะต้องมาวุ่นวายเกี่ยวกับการ uninstall หรือถอนโปรแกรม anti virus อีกซิ่งบางรายการถอน anti virus ก็ไม่ได้ทำกันง่ายๆซะด้วยซิครับ
สำหรับ auti virus ตัวที่ผมใช้งานอยู่ตอนนี้ (run บนเครื่อง computer ส่วนตัวที่ผมใช้ทุกเครื่อง) คือ program anti virus ของ AVG ผมใช้ตัวนี้มามากว่า 2 ปีเห็นจะได้แล้ว แล้วมันก็ไม่ได้ก่อกวน โดยการ show ads แต่ประการใด แล้วก็การ update ก็ไม่ได้ก่อกวนชีวิตการใช้งาน computer ของผมแต่ประการใดครับ เรียกว่า ลงไว้เหมือนได้ใช้ Free กันจริงๆครับ
อย่างไรก็ดี ผมว่า computer เดี๋ยวนี้ ถ้าหากว่าคุณไปซื้อเอาตามร้านที่คุณบอกว่าให้เค้าลง program ดิบและเถื่อนมาให้เลย เค้าก็จะลง Anti Virus ไว้ให้ด้วย ถ้าหากว่าคุณโชคดี เค้าก็จะลง anti virus ที่เป็น Freeware และใช้ได้เรื่อยๆอย่างถูกต้องไ่ม่ต้องลีลาแต่ประการใด แต่ถ้าหากว่าคุณโชคร้ายก็จะมีการลง Anti Virus แบบ Trail version มาให้แบบนี้จะก่อความรำคาญให้กับคุณมากที่สุด เอาเป็นว่าก็ลองบอกตอนที่ซื้อคอมหรือลง install windows ใหม่ว่าลงเป็นตัวที่ผมบอกหน่อยได้มั้ย หรือ ไม่คุณก็บกอว่าไม่ต้องลงมา พอมาถึงบ้านก็เข้าไปโหลด AVG antivirus มาก่อนแล้วก็ลงที่เครื่องซะครับ
เล่น internet ผ่าน Browser อื่นที่ไม่ใช่ Internet Explorer
นี่เป็นอีกช่องทางสำหรับการติดไวรัสได้ครับ คือ การเล่น internet ครับ คำว่า Browser มันก็คือ program หนึ่งๆที่คุณต้องเปิดขึ้นมาเพื่อที่จะเล่นเรียกข้อมูลหน้าเว็ปไซท์ได้ครับ ตอนนี้คุณมีทางเลือกมากมายที่ไม่ใช่ internet Explorer (ที่เป็นไอคอนตัว e ใหญ่ๆน่ะครับ) ตัวที่ผมใช้ก็คือ Firefox หรือ อีกตัวก็คือ Chrome ของ Google ครับ พวกนี้จะมีการแจ้งเตือนก่อนล่วงหน้าว่า website ที่คุณกำลังจะเข้านั้นมีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่า มันคือเหมือนว่าจะไปอ่าน code ก่อนที่จะแสดงผมให้เราได้เห็นครับ ถ้าหากว่ามันมีอะไรแปลกๆ มันจะแสดงข้อความบอกเราก่อนล่วงหน้า แล้วเราก็ตัดสินใจอีกทีเอาเองว่า website นั้นเป็น website ที่น่าเชื่อถือได้หรือไม่อีกครั้งครับ
Load Bit Torrent เพื่อหา file program บอกไว้ก่อนว่าอันตราย
ถ้าหากว่าคุณจะเอา program เถื่อนมาลงที่เครื่องของคุณ คุณต้องมีปราการในเรื่องของ anti virus เอาไว้เป็นอย่างดีแล้วครับ และ พร้อมรับความเสี่ยงระดับปานกลางว่า ถ้าหากว่าคุณ double click เพื่อรัน exe file หรือ file เพื่อให้เรียกโปรแกรมอะไรสักอย่าง “มันอาจจะเป็น virus ได้” การลดความเสี่ยงนี้ืคือ ไม่ต้องไปหาโปรแกรมเถื่อนมาลงที่เครื่องครับ หรือ ถ้าหากว่ามันช่วยไม่ได้จริงๆ ยังไงคุณก็จะลงให้ได้อยู่ดี (แปลว่ารับความเสี่ยงนี้แล้ว) ก็ลองอ่าน review คนอื่นเค้าหน่อยว่า file ที่โหลดเมื่อโหลดสมบูรณ์แล้วมันรันได้ปกติหรือไม่ และมีอาการไวรัสอะไรหรือไม่ด้วยครับ ประมาณว่าให้คนอื่นใช้ดูก่อน ว่าอย่างงั้นแล้วรอดูอาการ อย่าเอาตัวเราเข้าเสี่ยงเป็นดีครับผม ไม่อย่างงั้นก็งานเข้ากันได้ง่ายๆ แต่ผมว่านะ คนที่จะโหลด bit เพื่อเอา program มาลงต้องเป็น power user คร่ำหวอดอยู่ในวงการระดัีบนึงแล้วล่ะครับ ระวังเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน
ทำการ scan virus เป็นประจำอย่างน้อยรายสัปดาห์กำลังดี
ที่เครื่องคุณจะติดไวรัสมาไ้ด้ก็มีแค่สองทางครับ คือ เอา flash drive มาใส่ แล้วก็การเล่น internet แล้วไปโหลดอะไรต่อมิอะไรมา หรือ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ แค่เข้าหน้าเว็ปแล้วโดนติดมาเลย (เหตุการณ์ก็เป็นไปได้เหมือนกันนะครับถ้าหากว่าคุณยังใช้ Browser หรือโปรแกรมที่เอาไว้ท่องเน็ตไม่ทันสมัยสักเท่าไหร่) เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อความ sure ที่ program anti virus จะมีการตั้งเวลาล่วงหน้าว่า เมื่อไหร่จะทำการ scan ทั้ง computer ไม่ว่าจะเป็น drive ที่คุณลง windows ไว้ และ Drive ที่เป็น partition สำหรับการเก็บ file สำคัญเอาไว้
ปกติแล้วผมจะตั้งเวลาการ scan เป็นรายสัปดาห์ครับ คือ ทุกเที่ยงห้านาทีของวันจันทร์ เพื่อตอนที่เราไปพักเที่ยงที่ office (สำหรับ computer office ครับที่มีการต่อ internet และ แผนก computer ไม่ได้มาดูแล ป้องกันอะไรเอาไว้ให้ แบบว่าต้องระวัง และดูแลตัวเอง) รัน scan เอาไว้กลับมาบ่ายก็จะได้จบการ scan พอดีครับ หรือถ้าหากว่าเป็นเครื่อง computer ที่บ้านให้เปิดการ scanทิ้งเอาไว้ก่อนนอน สักสัปดาห์ละครั้งแล้วก็ไปนอนซะครับ ไม่กินไฟอะไรมากหรอกครับ ปิดหน้าจอไว้แล้วก็นอนมาดูผลอีกทีตอนเช้าก็ได้
ก่อนที่จะเริ่ม scan virus ทุกครั้งให้ update version ของข้อมูล virus database หน่อยเพื่อที่จะทำให้รายชื่อ virus ตัวใหม่ๆไหลเข้ามาอยู่ที่ program ครับ เพราะถ้าหากว่าเป็น virus ใหม่ๆที่ anti virus ไม่รู้จัก แน่นอนว่ามันก็จะไม่ได้บอกว่ามันคือ virus ครับเพราะฉะนั้นผมเน้นอีกนิดแล้วกันน่ะครับว่า ต้อง update antivirus ก่อนทุกครั้งก่อนที่จะทำการ scan แบบทั่วถึงทั่วทั้ง computer ครับ จะได้ไม่มี virus ตัวไหนตกหล่นค้างคาที่ computer ของเราครับผม
เมื่อเอา Thumb Drive มาเสียบที่เครื่องตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น SD Card หรือ Flash Drive ให้ scan virus ด้วย
ถ้าหากว่า Thumb Drive ที่เอามาจากเพื่อนของคุณ แล้วกำลังจะเอามาเสียบเข้าที่ computer ของคุณแล้ว autorun ก็มีการป้องกันแล้ว ก็จะเหลืออยู่อย่างเดียวคือ file หรือ program ที่คุณกำลังจะเอาเข้ามาเก็บไว้ที่เครื่องคุณนั้นมันมี virus หรือไม่ หรือมันเป็น file virus เลยหรือไม่ วิธีการเดียวที่คุณจะรู้ได้ก็คือการ scan ทั้งก้อน file นั้นๆซะ สำหรับ AVG ก็แค่ click ขวาที่ drive ที่คุณเพิ่งเสียบเข้าไปแล้วก็กด scan ซะเท่านั้น เครื่องก็ไปไล่ตรวจทุก file แล้วว่ามันเป็น file virus หรือไม่ครับ
วิธีการที่ผมว่าดีที่สุด คือ scan บน sd card หรือ thumb drive ทั้งก้อนก่อนการย้าย file นั้นๆเข้ามาที่เครื่องครับ เพราะถ้าหากว่าคุณเล่นย้าย file มาก่อน ก่อนที่จะทำการ scan มันอาจจะพอมีความเสี่ยงนิดหน่อย แต่ถ้าหากว่าคุณมี anti virus แล้วความกลัวเชิงนี้อาจจะลดลงไปได้บ้าง แต่นั้นน่ะหละ ผมก็อยากจะบอกไว้ว่าวิธีการที่ดีทีสุด คือ scan มันตอนอยู่ที่ drive อื่นครับไม่ใช่ที่หน้า Desktop ของตัวเองครับ
file งานที่สำคัญควรเก็บเอาไว้ที่ Drive อื่นที่ไม่ได้อยู่ Drive เดียวกับ Windows
แม้ว่าเราจะป้องกันแบบเท่าที่เราจะทำได้แล้วก็ตาม (การป้องกันต้องทำเป็นนิสัย จนเหมือนว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรมาก) ไฟล์งานทั้งหมดก็ไม่ควรจะอยู่ที่ drive เดียวกับ windows อยู่ดีครับ เพราะ คุณอาจจะเจอเรื่องอะไรแปลกๆ หรือว่าเผลอ และ หลุด เมื่อไหร่ก็ได้ ขอให้คิดไว้เสมอน่ะครับว่า เราจะต้องล้าง และ ลง Windows ใหม่อยู่เรื่อยๆครับ คิดแบบนี้จะทำให้คุณรู้จัก back up ข้อมูลไปไว้ที่อื่นด้วยเช่นเดียวกัน หรือว่าอย่างน้อยที่สุด file ก็ต้อง copy ออกไปไว้ drive อื่นครับ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นสูงสุด ถือเป็นแผนสำรองประจำตัวกันเลยก็ว่าได้ครับ
ผมกะว่าจะพิมพ์สั้นๆแต่ว่าสุดท้่ายมันก็ดูเหมือนจะมีความยาวเท่าเดิมกับ post อื่นๆที่ผมพิมพ์อยู่ดีน่ะครับ ไม่เป็นไร เอาไว้ว่าถ้าหากว่าคุณอ่านแล้วเข้าใจอะไรเกี่ยวกับการป้องกันไวรัสแบบ user ธรรมดาๆคนนึงมากขึ้นอย่างน้อยผมก็ว่ามันมีประโยชน์แล้วล่ะครับ แต่สำหรับประโยชน์ที่ผมได้โดยตรงจากการพิมพ์บทความนี้เอาไว้ก็คือ ผมก็จะโยน link นี้ให้กับคนที่ดูแล้วน่าจะมีความเสี่ยงในการติดไวรัสครับ (เดี๋ยวนี้ผมดูหน้าก็ดูออกแล้วว่าความเสี่ยงสูงแค่ไหน เพราะ ความเป็น Geek จะสะท้อนออกมาผ่านทางใบหน้า เหมือนกับเป็น โหงดเฮ้งอะไรทำนองนั้นครับ) ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะต้องไป format หรือลง windows ใหม่ให้คนอื่นครับผม ถ้าหากว่าคุณมีคนที่คิดว่า เค้าน่าจะมีความเสี่ยงในการติดไวรัสได้สูงแล้วล่ะก็ ส่งบทความนี้ไปให้เค้าด้วยก็แล้วกัันนะครับ
คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:
- virus computer