rackmanagerpro.com

เทคนิคประหยัดเงินแสนจากการซื้ออุปกรณ์ไฮเทค

คนที่ใช้ของไฮเทคนิยมที่จะซื้อโดยไม่คิดอะไรมากมายว่า เรามีความจำเป็นที่จะต้องได้มันมาใช้งานหรือไม่ หรือ ไม่ได้คิดหรอกว่าอีกหน่อยมันก็ตกรุ่นหรือไม่ แล้วก็ไม่ได้คิดหรอกว่า เราไม่จำเป็นต้องซื้อของไฮเทคที่ต้อง update สุดๆเพื่อมาเป็นหนูทดลองสินค้า แล้วก็ต้องมาเสียใจกับการที่มันออกสินค้าที่เหมือนกันหรือคล้ายกันแล้ว มันก็ดีกว่าเดิมเสียด้วย ด้วยราคาที่เท่ากันหรือพอๆกัน ดังนั้นแล้ววิธีที่ใช้ได้กับตัวผมเอง แล้วผมก็คิดว่าน่าจะใช้ได้กับคนอื่นๆด้วยเช่นเดียวกันก็คือ อย่าซื้อมันทันทีที่ต้องการครับ แค่วิธีนี้วิธีเดียวผมว่า ผมประหยัดเงินไปเยอะมากแล้วเช่นผมเคยอยากได้ iphone เคยอยากได้ mac รุ่นอะไรน้าที่จอใหญ่ๆราคาก็แปดหมื่นกว่า แล้วก็ที่เคยอยากได้ gadget ของเล่นอื่นๆอีกสารพัด แต่แล้วก็ด้วยวิธีการนี้ที่ผมจะเล่าใหัฟังก็ทำให้ผมไม่ต้องเสียเงินซื้อของเหล่านั้นแต่อย่างใด คิดไปคิดมาการที่เราไม่ได้ซื้อของเหล่านั้นก็ทำให้ผมรู้สึกดีได้ด้วยเหมือนกัน กับที่ไม่ได้มีของเล่นไฮเทคเหล่านั้นครับ

เริ่มจาก ตั้งสติว่า “เราจะไม่ซื้อสินค้านั้นโดยทันที” แล้วให้กลับมาที่บ้านก่อนแล้วก็ไม่ต้องไป ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะ สนับสนุนความคิดตัวเอง ว่าจะต้องซื้อครับ พอกลับมาบ้านแล้ว ให้ลืมๆมันไปซะ อย่างน้อย 1 วันแล้วถึงกลับมาคิดทบทวนว่า เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว เรายังอยากที่จะได้มันหรือไม่ครับ วิธีคิดก็เช่น ตอนที่ผมคิดว่าอยากจะได้ ipod จังเพราะว่ามันดูดีอย่างงู้นอย่างงี้ แต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่กระตุ้นผมว่าอยากจะได้นั้นก็คือ การที่ผมมีพื้นที่สำหรับใส่เพลงหรือ audio book เยอะๆมากกว่า วิธีนี้ก็คือ ผมคิดว่าผมต้องการอะไรจากมันจริงๆ ปรากฏว่าผมคิดได้อย่างงี้แล้วผมไม่ได้ต้องการความเท่ห์อะไรของเจ้า ipod หรอกครับ แต่ว่าอยากได้เพราะว่ามันมีความจุเยอะมากกว่า ทำให้ผมมองทางเลือกๆอื่นๆว่า เอ ..ถ้าหากว่าโทรศัพท์มือถือผมมันก็จุไฟล์ได้เยอะๆล่ะ มันก็ทดแทนก็ได้สมบูรณ์แล้ว ดังนั้นผมจึงเลือกหาข้อมูลราคาเพื่อที่จะดูว่า ผมจะเพิ่มความจุ external จาก memory card อะไรได้มากเท่าไหร่ด้วยราคาเท่าไหร่แทนที่จะคิดว่าซื้อ ipod ครับ เพราะฉะนั้น จะได้ว่า ผม save เงินไปตั้งเท่าไหร่ เพราะการคิดได้อย่างงี้นั่นเอง คิดหาเหตุผลจริงๆว่า ทำไมเราต้องการสิ่งนี้สิ่งนั้น อะไรเป็นความต้องการจริงๆที่เราต้องการจะได้สินค้าตัวนั้นๆมาครับ

การทิ้งเวลาเพื่อให้ได้คิด : หากว่าคุณคิดอยากได้สินค้าที่มีราคาสูงให้คิดเอาไว้เลยว่า ให้เตรียมตัวที่จะต้องทิ้งเวลาเอาไว้นานตามราคาของสินค้านั้น ตัวเองเช่น หากว่า เกิน 2000 บาทผมจะทิ้งไว้สัปดาห์นึง หากว่าเกิน 10000 บาทผมทิ้งเวลาไว้มากกว่า 1 เดือนครับ แค่เทคนิคการทิ้งเวลาด้วยตัวของมันเองแล้ว มันเป็นการลด effect ของเทคนิคการขายประเภทการกดดันด้วยเวลาแล้วส่วนหนึ่งครับ เพราะ โดยมากแล้วการขายสินค้านั้นจะทำให้คนเราไม่คิดมากกับการที่จะต้องซื้อสินค้าใดสินค้าหนึ่ง เพราะหากว่า ทิ้งเวลาไปแล้วคนเราจะเริ่มคิดได้ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ว่าเราต้องการสิ่งนั้นจริงๆหรือไม่เป็นตัน เพราะหากว่าเราต้องการสิ่งนั้นๆจริงๆ เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า หากว่าเราไมได้ต้องการสินค้านั้นๆจริงแล้ว เราก็ลืมมันไปแล้วความต้องการนั้นมันก็ลดลงเองตามธรรมชาติ มันเป็นธรรมชาติของความต้องการซื้อเลยครับ นอกจากเหตุผลนี้แล้ว ยังมีอีกแนวคิดหนึ่งที่จะทำให้คุณไม่ซื้ออันเนื่องมาจากการที่คุณทิ้งเวลา เพราะ คุณจะได้พบข้อมูลสินค้าอื่นๆเข้ามาแทนที่ครับ แล้วคุณก็จะเริ่มรู้สึกว่า สิ่งที่คุณเคยต้องการมันไม่ได้ดูดีเหมือนตอนที่คุณคิดเมื่อเดือนก่อนแต่อย่างใด เพราะจะมีคนเริ่มใช้งานแล้ว เค้าเหล่านั้นก็เริ่มเบื่อกับสินค้านั้นแทนตัวคุณครับ คุณอาจจะสนใจสินค้าประเภทเดียวกัน ที่เป็นสินค้าตัวอื่นแทนก็ได้ หรือจะมีสินค้าที่คุ้มค่ากว่านั้นโผล่ออกมา ในช่วงเวลาเดือนหนึ่งก็ได้ครับ ทำให้คุณหมดความอยากไปได้ด้วยอีกส่วนหนึ่งครับ

ง่ายๆก็คือ ขอให้คุณรู้ตัวว่า ณ เวลาที่คุณอยากได้สินค้าใดๆที่ไม่ได้เป็นการเอาไปเพื่อขายต่อแล้วล่ะก็ ขอให้รอเวลาโดยกำหนดเวลาให้สัมพันธ์กับราคาที่คุณคิดว่ามีนัยสำหรับคุณ แล้วรอครับ ผมว่าแค่นี้ผมประหยัดเงินขาออกไปได้ หลายแสนบาทแล้วล่ะครับ

Exit mobile version